เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
การทรงเรียกเพื่อเป็นมิชชั่นนารีOUR CALL TO BE MISSIONARIES! โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ จูเนียนร์ |
สำหรับผมแล้วอิสยาห์เป็นผู้พยากรณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตามอิสยาห์กลายเป็นคนของพระเจ้าได้อย่างไร? ในบทที่หกของอิสยาห์เรามีคำตอบ “ต่างก็ร้องต่อกันและกันว่า บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ เป็นของพระเยโฮวาห์จอมโยธา แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มด้วยสง่าราศีของพระองค์” (อิสยาห์ 6:1) อิสยาห์ได้ยินเสราฟิมร้องออกมาว่า “บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ เป็นของพระเจ้าจอมโยธา แผ่นดินทั้งสิ้นเต็มไปด้วยสง่าราศีของพระองค์” (อิสยาห์ 6: 3) ชายหนุ่มอย่างอิสยาห์รักกษัตริย์อุสซียาห์กษัตริย์ เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ดีและมีเกียรติ แต่ตอนนี้กษัตริย์ที่ดีได้ทรงพระชนม์แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับอิสยาห์ตอนนี้เพราะกษัตริย์ที่เขารักนั้นสิ้นพระชนม์ไปแล้ว? ผมคิดว่าชายหนุ่มคนนี้รู้สึกเหมือนพวกคุณบางคน คุณรู้สึกหดหู่ใจที่คริสตจักรของเราสิ้นสุดลงแล้ว แต่พระเจ้าไม่ได้เป็นเหมือนอิสยาห์ นิมิตของพระเจ้าได้กระตุ้นจิตวิญญาณของเขา อิสยาห์ไม่ได้ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าที่สิ้นหวัง แต่นิมิตของพระเจ้าทำให้เขาต่างไปจากเดิม เขากล่าวว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาด และข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในหมู่ชนชาติที่ริมฝีปากไม่สะอาด เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์ คือพระเยโฮวาห์จอมโยธา”” (อิสยาห์ 6:5) + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + นี่เป็นความก้าวหน้าทางวิญญาณสำหรับอิสยาห์ในวัยเยาว์! นี่คือความก้าวหน้าที่คุณอาจได้รับเช่นกัน แต่คุณต้องปรารถนาพระเจ้ามากกว่าสิ่งอื่นใด! ดร. เอ ดับบริว โทเซอร์ กล่าวว่า “พวกเขาไม่ได้เดินหนีออกจากคริสตจักรเพราะไม่ต้องการพระเจ้า - แต่เพราะพวกเขาพบบางสิ่งที่พวกเขาต้องการมากกว่าพระเจ้า…เมื่อธรรมชาติเก่าของพวกเขาดึงพวกเขาให้หันหลังให้กับพระเจ้าและเดินออกจากโบสถ์ ไปสู่ทางโลก พวกเขามีความสัมพันธ์กับหญิงสาวหรือชายที่ไม่มีพระเจ้า พวกเขากลับไปสู่ทางโลก พวกเขาทำงานที่ไม่มีโอกาสได้ถวายเกียรติแด่พระเจ้า พวกเขากลับไปสู่โลก พวกเขามุ่งมั่นที่จะมีสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด ... ผมไม่อาจปฏิเสธและหลอกหรือสาปแช่งพวกเขาโดยสอนว่า คุณสามารถเป็นคริสเตียนและรักโลกนี้ เพราะความจริงคุณทำไม่ได้อย่างนั้น ทางโลก ใช่คุณสามารถเป็นคนหน้าซื่อใจคดเพราะการรักทางโลก เช่นคุณสามารถเป็นศิษยาภิบาลที่หลอกลวงรักทางโลกได้ คุณสามารถเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐและรักทางโลก แต่คุณไม่สามารถเป็นคริสเตียนที่แท้จริงตามหลักพระคัมภีร์โดยการรักโลกนี้ ผมอาจเสียใจที่ต้องพูดกับคุณเช่นนี้ แต่ความจริงคือผมไม่อาจโกโหกคุณได้เกี่ยวกับเรื่องนี้” (The Tozer Pulpit) ดร. โทเซอร์กล่าวอีกครั้งว่า “ในความเห็นของผมและเป็นความต้องการมากที่สุดในทุกวันนี้คือ ผู้ประกาศข่าวประเสริฐในทุกวันนี้ คือต้องได้รับการเติมเต็มด้วยนิมิตของพระเจ้าอย่างที่เติมเต็มในพระวิหาร” หากปราศจากนิมิตของพระเจ้าเช่นนั้น “เราก็จะใช้เหมือนอุปกรณ์ของเรา...เราก็กลัวทางแคบ และการเปิดประตูของเราให้กับชาวโลกมา สิ่งนี้นำไปสู่โศกนาฏกรรมทางจิตวิญญาณเท่านั้น…การประกาศเรื่องพระเยซูไม่เพียงพอในทัศนคติต่อพระเจ้าทัศนคติต่อโลกและทัศนคติต่อบาป” (Leaning Into the Wind) พิจารณาดูในข้อที่ 5 “และข้าพเจ้าว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาด และข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในหมู่ชนชาติที่ริมฝีปากไม่สะอาด เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์ คือพระเยโฮวาห์จอมโยธา” (อิสยาห์ 6:5) ตอนที่อิสยาห์ยังหนุ่มได้รับการชำระด้วยไฟแห่งพระเจ้าแล้ว “และความชั่วช้าของเจ้าก็ถูกกำจัดไปและบาปของเจ้าก็ถูกชำระไป” (อิสยาห์ 6: 7) ตอนนี้ดูข้อ 8 “และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า เราจะใช้ผู้ใดไป และผู้ใดจะไปแทนพวกเรา แล้วข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าพระองค์นี่พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด” (อิสยาห์ 6: 8) เมื่อคริสตจักรแตกแยก ผมกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียความกระตือรือร้นในการประกาศ ดังนั้น ผมตัดสินใจที่จะใช้เวลากับชายสามคนที่ยอมสละทุกอย่างเพื่อพระคริสต์ – บาทหลวงริชาร์ด วูร์มเบรนด์ จอห์น เวสลีย์ และนักประกาศผู้บุกเบิกคนสุดท้ายในประเทศจีน มันเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด ผมทำห้องน้ำเล็ก ๆ และถัดจากห้องนอนของผมคือห้องอธิษฐานกับเพื่อนสามคนนั้น ผมเรียนรู้จาก วูร์มเบรนด์ ถึงความอดทน ผมเรียนรู้จากเวสลีย์ ผมเรียนรู้ที่จะผ่านการทดลอง แต่จาก กอฟเวิร์ธ และ โรสาลินด์ ภรรยาของเขาผมได้เรียนรู้ว่าเราต้องอธิษฐาน ฮัดสัน เทย์เลอร์ เขียนจดหมายที่เป็นแรงบันดาลใจให้กอฟเวิร์ธ และภรรยาของเขา ฮัดสัน เทย์เลอร์ กล่าวว่า “เราในฐานะผู้ประกาศข่าวประเสริฐพยายามนานถึงเวลาสองปีเพื่อเข้าไปสู่มณฑลฮอนอัน [จีน] และเพิ่งจะประสบความสำเร็จเมื่อไม่นานมานี้ พี่น้องถ้าคุณจะเข้าไปในจังหวัดนั้นคุณต้องก้าวต่อไปข้างหน้า" คำพูดเหล่านั้นมาจากฮัดสัน เทย์เลอร์ กลายเป็นสโลแกนในการพันธกิจของ ฮันนา นอร์ธ และ กอฟฟอร์ด จากนั้นลูกของพวกเขาเสียชีวิต กอฟฟอร์ด เขียนว่า “เกอร์ทรูดเสียชีวิตไปแล้ว นี่คือการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของเรา ประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเธอยังสบายดี แต่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมนั้นเธอได้เสียชีวิตเพียงหกวันหลังจากที่เธอป่วยด้วยโรคบิด ผมเอาศพของเธอใส่เกวียนไปฝังเป็นระยะห้าสิบไมล์ ... ในตอนค่ำของวันนั้นเราจึงเราฝั่งลูกที่รักของเราเพื่อให้ลูกจะได้พักผ่อนในพระเจ้า" มีสาวจีนสองคนมักจะนำดอกไม้สดทุก ๆ เช้ามาวางไว้ที่หลุมฝังศพลูกของเรา หลังจากการตายของเกอร์ทรูด นางกอฟฟอร์ดก็ให้กำหนดลูกชายที่น่ารักอีกคนหนึ่ง พวกเขาตั้งชื่อว่า “วี โดนัล” ต่อมาเด็กทารกคนนี้ก็หกล้มและกระแทกที่ศีรษะ จากนั้นเด็กคนนี้ค่อยๆสูญเสียการใช้แขนและขาของเขา ในฤดูร้อนของวันที่ 25 กรกฎาคม วี โดนัล ได้เสียชีวิตและตอนนั้นพึ่งจะอายุเพียงแค่สิบเก้าเดือน และนี่เป็นครั้งที่สองที่ กอฟฟอร์ด นำร่างเด็กทารกใส่ในรถเข็นและเข็นไปฝังในระยะทางห้าสิบไมล์ อีกครั้ง วีโดนัลด์ถูกฝังใกล้ ๆ หลุมศพของเกอร์ทรูดพี่สาวของเขา ทันทีที่เขากลับมาถึงบ้านกอฟเวิร์ธและภรรยาสุดที่รักของเขาตัดสินใจออกเดินทางย้ายไปยังบ้านหลังใหม่ในเขตฮอนทางภาคเหนือ พร้อมกับลูกชายที่ชื่อพอล ตอนนั้นอายุแค่ห้าเดือน จากนั้น โจนาธาน กอฟฟอร์ ก็ป่วยหนักด้วยไข้ไทฟอยด์ ชีวิตของเขานั้นอยู่ระหว่างความเป็นและความตายเท่ากัน ฟลอเรนซ์เกิดวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมาช่างนั้นมันร้อนมากเพราะเป็นช่วงฤดูร้อน จนทำให้เด็กน้อยอย่างพอลก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดจากโรคลมแดด แต่ก็สามารถอยู่รอดมาได้ นั่นคือช่วงระยะเวลาที่ลำบากที่สุดของพวกเขา เพราะว่าลูกคนแรกของพวกเขาเสียชีวิตในช่วงฤดูใบไม้ผลิต ต่อมาลูกอีกคนก็มาเสียไปอีก ต่อมากอฟฟอร์และภรรยาของเขาก็ย้ายไปที่แห่งใหม่ พวกเขาพยายามหนีให้หลุดพ้นจากการอัศจรรย์เท่านั้น ต่อมานาง โรสาลินด์ กอฟฟอร์ด ตาก็มาบอดอย่างสิ้นเชิง สามีของธอเป็นตาให้เธอ ต่อมาตาของกอฟฟอร์ดก็มาบอดสนิทไปอีก จนกระทั่งเขามาเสียชีวิตตอนกำลังนอนหลับและในขณะที่ภรรยายังอยู่ในห้องน้ำ ลูกชายของเขาที่ชื่อพอลพูดถึงเขาในงานศพของพ่อว่า “สำหรับผม พ่อเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ” ลูกสาวของเขาที่ชื่อ รูธ เป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐในประเทศเวียดนาม รูธ เขียนถึงพ่อของเธอว่า “ฉันนึกถึงชีวิตของคุณพ่อในช่วงเวลาที่ดี ๆ เท่านั้น พระเจ้าเพียงแค่เลื่อนท่านให้ไปรับใช้ในที่ ๆ สูงกว่าเดิมเท่านั้น” หนังสือที่ชื่อว่า กอฟฟอร์ดแห่งประเทศจีน เขียนโดยนางโรสาลินด์ ภรรยาของเขาหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว โรสาลินด์ กอฟฟอร์ด เป็นมิชชั่นนารีที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ! เธอพบสามีของเธอครั้งแรกหลังจากอ่านคัมภีร์ของเขา“ ผมพบว่าพระคัมภีร์ของเขาเกือบจะถูกฉีกเสียอีก โรสาลินด์ กล่าวว่า “นั่นคือคนที่ฉันต้องการจะแต่งงานด้วย” ฤดูใบไม้ร่วงปีนั้นเขาพูดกับเธอว่า “คุณจะร่วมชีวิตกับผมเพื่อประเทศจีนหรือไม่” คำตอบของเธอคือ “ได้” ไม่กี่วันต่อมาเขาก็พูดกับเธอว่า “คุณจะให้คำมั่นสัญญากับผมไหมว่าคุณจะยอมให้ผมเอาพระเจ้ามาเป็นอันดับแรกตัวคุณ” เธอตอบเขาว่า “ได้ฉันยอมรับอย่างนั้นตลอดไป” เธอรู้ว่าคำสัญญานั้นจะสูญเสียอะไรบางอย่างก็ตาม! “และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า เราจะใช้ผู้ใดไป และผู้ใดจะไปแทนพวกเรา แล้วข้าพเจ้าทูลว่า ข้าพระองค์นี่พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด” (อิสยาห์ 6:8) คริสตจักรของเราขาดบุคคลที่ยอมจะเป็นมิชชั่นนารี ในบ่ายวันนี้ผมอธิษฐานขอให้ทุกคนถวาบตัวเป็นมิชชั่นนารี แม้ว่าเราจะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในการรวบรวมเงินถวาย เพื่อจ้างคนมาแปลบทเทศนาของเราในทางอินเทอร์เน็ตต่อไปก็ตาม แต่พวกคุณและผมสามารถเป็นมิชชันนารีไปทั่วโลกได้โดย (1) ประกาศข่าวประเสริฐนำคนมารับเชื่อ (2) อธิษฐานเผื่อภารกิจทั่วโลกของเรา (3) ให้มีเงินมากพอในแต่ละเดือนจะช่วยให้บทเทศนาของเราที่ใช้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงบทเทศนานี้เพื่อมิชั่นนารีในโลกที่สามเหล่านั้นสามารถนำไปประกอบในการเทศนา ศิษยาภิบาลมิชชั่นนารีคนหนึ่งกล่าวถึงโอกาสของเราในวันนี้ว่า “เราต้องเป็นคริสเตียนในระดับโลกที่มีพันธกิจในระดับโลกท เพราะพระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งสากล” คุณสามารถตอบเหมือน โรสาลินด์ กอฟฟอร์ด ที่ว่า “ใช่ฉันสัญญาว่าจะทำตามนั้นเสมอ”? ขอเติมเต็มนิมิตของข้าฯ พระผู้ช่วยให้รอดข้าฯ ขอให้ข้าฯเห็นเฉพาะพระเยซูในวันนี้ ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452 (จบการเทศนา) หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ |