Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




การเทศนาเกี่ยวกับกางเขน

THE PREACHING OF THE CROSS
(Thai)

เขียนบทเทศนาโดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
และเทศนาโดย ศจ. จอห์น ซามูเอล คาเกน
ที่คริสตจักรแบ๊บติสต์เทเบอร์นาเคลเมือง ลอสแอนเจลิส์
วันของพระผู้เป็นเจ้าตอนเย็น 27 พฤษภาคม 2018
A sermon written by Dr. R. L. Hymers, Jr.
and preached by Rev. John Samuel Cagan
at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Morning, May 27, 2018

“พระองค์จะทรงให้ท่านมั่นคงอยู่จนถึงที่สุด เพื่อให้ท่านปราศจากที่ติในวันของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (1 โครินธ์ 1:18)


ศิษยาภิบาลบาของเรา คือ ดร. ไฮเมอร์ส ท่านเทศนามาเป็นเวลาถึงหกสิบปี นเทศน์นับพันกันฐ์ท่านเขียนบทเทศน์ที่ผมกำลังเทศน์นี้ มีบทเทศน์หลายร้อยต้นฉบับของท่านอยู่ในเว็บไซต์ของเราแบบเขียนต่อคำ แปลเป็น 38 ภาษา และในแบบวิดีโอ บทเทศน์และต้นฉบับส่งไปถึง 221 ประเทศทั่วโลก ศิษยาภิบาลทั่วโลกกำลังนำบทเทศน์เหล่านี้ไปใช้เทศน์ในคริสตจักรของพวกเขา ดร. ไฮเมอร์ส เป็นนักเทศน์ที่โดดเด่น! และด้วยประสบการณ์ทั้งหมดของท่านก็ยังพบว่าเป็นการยากที่จะตัดสินใจว่าจะเทศน์อย่างไร

"ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?" คุณอาจจะถาม ผมจะบอกคุณว่าทำไม ในคริสตจักรของเราจะมีคนจำนวนมากในเช้าวันอาทิตย์ซึ่งไม่ใช่คริสเตียนที่แท้จริง บางคนจะมาจากภูมิหลังทางศาสนาพุทธ คนอื่นจะมาจากพื้นเพของคาทอลิกหรืออีเวนเจลิคอล์ใหม่ คริสเตียนที่มีแต่ชื่อเป็นคริสเตียนเท่านั้น บางคนก็ไม่มีพื้นฐานทางศาสนาที่แท้จริงเลย ในคริสตจักรของเราก็มีคนที่ยังไม่ได้รับความรอด แม้ว่าจะรู้พระคัมภีร์เป็นอย่างดี แต่ยังไม่มีประสบการณ์แห่งการบังเกิดใหม่ สิ่งที่มีนั้นเป็นเพียงขั้นพื้น ๆ แบบ ทั่วไป พวกเขาไม่ได้กลับใจใหม่เพื่อพระเยซูคริสต์อย่างแท้จริง

การเทศนาในเช้าวันอาทิตย์จะใช้เวลาเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมงหรือน้อยกว่า การเทศนาในช่วงเวลาสั้น ๆ ต้องพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการบางอย่างที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับความคิดของคุณเกี่ยวับศาสนา และการเป็นคริสเตียนที่แท้จริง ไม่ใช่ความจริงเท่านั้น แต่ความจริง - ความจริงเท่านั้น การเทศนาต้องสามารถทำคุณคิดและเห็นด้วยกับข้อผิดพลาด นั่นคือเชื่อและสำนึกในบาปและหันชีวิตของคุณไปหาพระเยซูคริสต์ นี่เป็นงานใหญ่! และมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น! สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังเทศนาเพื่อเทศนาอาจดูเหมือนเป็นการเทศนาแบบพระกิตติคุณที่เรียบง่าย แต่การเตรียมตัวและการอธิษฐานนั้นต้องใช้เวลา

บทเทศน์ของเราอาศัยพระคัมภีร์เพียงข้อเดียว ผมกำลังอธิษฐานว่าจากคำไม่กี่คำที่ผมพูดจะช่วยสามารถช่วยคุณได้ อย่างน้อยผมก็อธิษฐานให้คุณจำคำเทศนาเหล่านั้นเวลาคุณกลับไปบ้านในวันนี้ นั่นคือจำว่าพระเจ้าของเราพระเยซูคริสต์ทรงทำอำไรให้ตุณ ความรอดขแห่งชีวิตนิรันดร์ของคุณ ต่อไปนี้เป็นข้อความใน 1 โครินธ์ 1:18 ฟังขณะที่ผมอ่าน

“คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าการประกาศเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่ แต่พวกเราที่รอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า” (1 โครินธ์ 1:18)

บทเทศนานี้จะมีสามประเด็นหลักคือ (1) การเทศนาเกี่ยวกับกางเขน (2) ความโง่เขลาของกางเขนของผู้ที่พินาศ และ (3) การประกาศเรื่องกางเขนโดยลำพังไม่เพียงพอที่จะสร้างคริสตจักรให้เข้มแข็ง

I. หนึ่ง การเทศนาเกี่ยวกับกางเขน

อัครสาวกเปาโลหมายความว่าอย่างไรด้วยคำว่า "การเทศนาเกี่ยวกับกางเขน"? คำว่า "การเทศนาเกี่ยวกับกางเขน" มีสาระสำคัญหนึ่ง หมายความว่ามีความจริงเพียงอย่างเดียวในคำนี้ พวกเขากล่าวถึงพระกิตติคุณแท้จริงเดียวและท่านั้น มีพระกิตติคุณเพียงอย่างเดียวเช่นเดียวกับที่มีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น และมีเพียงพระผู้ช่วยให้รอดองค์เดียวเท่านั้นคือพระเยซูคริสต์ เราไม่เชื่อในความคิดสมัยหลังสมัยใหม่ว่าการเทศนาเรื่องกางเขนอาจเป็นความจริงสำหรับผม แต่ไม่ใช่สำหรับคุณ คนสมัยใหม่อาจพูดว่า "นั่นเป็นความจริงของคุณ มันเป็นความจริงให้คุณ แต่มันไม่ใช่ความจริงของฉัน" ผมบอกว่าคนสมัยก่อนสองแง่สองมุม เมื่อพระคัมภีร์กล่าวถึงไม้กางเขนเป็นพูดถึงความจริงที่เป็นจริงซึ่งเป็นความจริงที่ทุกคนต้องรับผิดชอบ ความจริงที่ยังคงเป็นจริงไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม เพราะพระเจ้าตรัสถึงเรื่องนี้ในพระคัมภีร์ซึ่งเป็นความจริงไม่ว่าคุณจะคิดว่าเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม แต่เป็นความจริงที่แท้จริงซึ่งหมายความว่าความจริง แม้ว่าใจของคุณจะไม่เข้าใจถึงความจริงนี้

ถัดไป "การเทศนาเกี่ยวกางเขน" ไม่ใช่พบตามี่พระคัมภีร์พูด แต่ยังเกี่ยวกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ – ความจริงที่ว่าพระเยซูคริสต์ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสุดซึ้งเพื่อความบาปของท่านว่าพระองค์ทรงเจ็บปวดและความเจ็บปวดอันยิ่งใหญ่ในสวนเกทเสมเน บาปของคุณถูกวางไว้ในพระวรกายของพระองค์เอง พระองค์ทรงเสด็จผ่านการทรมานอันน่าสยดสยองเมื่อพวกเขาตีพระองค์ในศาลของปีลาต จากนั้นพระองค์ก็ถูกนำออกไปยังภูเขาโกระโกธา ซึ่งพวกเขาตอกตะปูที่พระหัตถ์และพระบาทของพระองค์และพระองค์ก็ถูกก็ถูกแขวนอยู่ที่นั่น มีโลหิตหลั่งออกมาและสิ้นพระชนม์เพื่อชดใช้ความบาปของคุณเพื่อที่คุณจะได้รับการช่วยชีวิต ได้รับการอภัยจากบาปของคุณเท่านั้น แต่รับความชอบธรรมโดยความตายของพระองค์นั่นคือที่เรียกไร้ซึ่งความบาปเพียงอย่างเดียวโดยเชื่อในพระองค์

“การเทศนาเกี่ยวกับกางเขน” คือการเทศนาเพื่อแสดงว่าคุณเป็นอย่างไร

“ตายในบาปของคุณ” (โลโลสี 2:13)

และการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์เท่านั้นในสถานที่ของคุณสามสารถยกเลิกบาปของคุณ และประทานชีวิตใหม่ให้คุณโดยการฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์จากความตาย

“คำเทศนาเกี่ยวกับกางเขน” แสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้รับความรอดโดยการทำสิ่งดี ๆ หรือบางครั้งก็มาที่คริสตจักรที่นี่! ที่นี่! คำเทศนาของกางเขนแสดงให้เห็นความจริงว่าสิ่งที่ดีที่คุณทำไม่ได้คืออะไรที่เกี่ยวข้องกับความรอดของคุณ "คำเทศนาเกี่ยวกับกางเขน" จะกำจัดสิ่งที่เรียกว่า "ดี" ทั้งหมดที่คุณทำ - และกล่าวว่าสิ่งเดียวที่สามารถช่วยคุณได้คือสิ่งที่พระเยซูได้ทำบนไม้กางเขนนั้นเพื่อให้เป็นโมฆะอย่างเต็มรูปแบบสำหรับคนบาปที่เป็นตัวแทนของคุณ - พระคริสต์ (พระเจ้า-มนุษย์) ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อชดใช้บาปของคุณโดยไม่ได้อาศัยสิ่งใดสิ่งหนึ่งดี ๆ ที่คุณได้ทำ หรือ “การตัดสินใจ” ที่คุณทำ

ผมไม่สงสัยในสิ่งดี ๆ ที่คุณทำ ผมแค่บอกว่าสิ่งที่ดีเหล่านี้จะไม่ช่วยให้คุณรอดได้! ความรอดผ่านมาทางการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า บุคคลที่สองปห่งตรีเอกานุภาพผู้ทรงรับความผิดบาปของเรา และชดใช้บาปของเราตอนพระองค์ถูกตอกด้วยตะปูบนกางเขน อัครสาวกเปาโล กล่าวชัดเจนเมื่อเขากล่าวว่า

“แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราบัดนี้เราจึงเป็นคนชอบธรรม แล้วโดยพระโลหิตของพระองค์ ยิ่งกว่านั้น เราจะพ้นจากพระพิโรธโดยพระองค์” (โรม 5:8-9)

พระเจ้าทรงรักคุณในขณะที่คุณยังเป็นคนบาป พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อชดใช้ความผิดบาปของท่านขณะที่ท่านยังเป็นคนบาป และคุณสามารถเป็นคนชอบธรรมโดยพระโลหิตของพระองค์แม้ว่าคุณจะเป็นคนบาปก็ตาม

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ยอมจำนน
   ข้าฯกำลังรอพระเจ้าแห่งสวรรค์ที่ตรึงไว้บนกางเขน
โดยความเชื่อข้าพระองค์ได้รับการชำระในโลหิตของพระองค์
   ขอทรงล้างข้าพระองค์เถิดและข้าพระองค์จะขาวกว่าหิมะ
ขาวกว่าหิมะใช่ขาวกว่าหิมะ
   ขอทรงล้างข้าพระองค์เถิดและข้าพระองค์จะขาวกว่าหิมะ
(“Whiter Than Snow,” James Nicholson, 1828-1896)

ข้าฯได้ยินเสียงต้อนรับของพระองค์
   ที่เรียกข้าฯว่าพระเจ้าเรียกเจ้า
สำหรับการทำความสะอาดโดยโลหิตอันล้ำค่าของพระองค์
   ที่ไหลลงที่โกระโกธา
ข้าฯกำลังจะมาพระเจ้า! มาในตอนนี้!
   ทรงล้างข้าระองค์ในโลหิตของพระคริสต์
ที่ไหลลงที่โกระโกธา
   (“I Am Coming, Lord,” Lewis Hartsough, 1828-1919)

นี่คือการเทศนาแห่งกางเขน!

“คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าการประกาศเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่ แต่พวกเราที่รอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า” (1 โครินธ์ 1:18)

ยังมีอีกเนื้อหาสำคัญของพระคำข้อนี้

II. สอง การเทศนาเรื่องโง่ๆแก่คนที่จะพินาศ

ลองฟังคำเหล่านั้น

“คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าการประกาศเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่”

ฟังขอความอีกครั้ง

“คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าการประกาศเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่ …” (1 โครินธ์ 1:18)

คำว่า "ความโง่เขลา" หมายถึง "การพูดแบบโง่เขลา" "ไร้สาระ" การฟังคำเทศนาซึ่งบอกว่าคุณต้องรับความรอดจากบาปโดยการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์เป็นเพียงเรื่อง “โง่เขลา” แก่คนที่ยังไม่กลับใจใหม่เท่านั้น

คนทั้งหลายที่จะพินาศเห็นว่า การเทศนาเกี่ยวกับพระคริสต์ที่ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อชดใช้บาปของคุณจากบาป เหตุผลที่พวกเขาคิดว่ามันโง่เป็นเพราะพวกเขาไม่เห็นคุณค่าในนั้น นั่นคือพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จเข้ามา พระเยซูตรัสว่า

“เมื่อพระองค์นั้นเสด็จมาแล้ว พระองค์จะทรงกระทำให้โลกรู้สึกถึงความผิดบาป…” (ยอห์น 16:8)

พระวิญญาณบริสุทธิ์ต้องให้ใครคนใดคนหนึ่งเกี่ยวกับบาป ไม่งั้นเขาจะไม่เห็นคุณค่าการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์ ก่อนที่บุคคลจะถูกทำให้เชื่อโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์เกี่ยวกับบาป เขาจะคิดถึงคำเทศนาบนไม้กางเขนอย่างโง่เขลา คำภาษากรีกแปลว่า "ความโง่เขลา" มาจากคำรากศัพท์ "โมรอส" ซึ่งมาจากคำภาษาอังกฤษของเรา คำเทศนาเกี่ยวกับกางเขนดูเหมือนเป็นการพูดกับคนโง่ คนโง่ จนกว่าใจของคุณจะเชื่อ โดยพระวิญญาณของพระเจ้าว่าคุณเป็นคนบาปที่สูญหาย

นั่นคือเหตุผลที่คุณไม่สามารถเรียนรู้ที่จะเป็นคริสเตียนแท้จริงได้ ความรอดไม่ได้มาจากการเรียนรู้ภูมิปัญญาของมนุษย์ อัครทูตเปาโลกล่าวอย่างชัดเจนในข้อยี่สิบตอนพระองค์ตรัสกล่าวว่า "

“เพราะตามเรื่องที่เป็นพระสติปัญญาของพระเจ้าแล้ว”
(1 โครินธ์ 1:21)

ความรอดไม่ได้มาจากการเรียนรู้ภูมิปัญญาของมนุษย์ใด ๆ ต้องมีแสงสว่างอยู่ในใจแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนบาปอย่างสิ้นหวัง จนกระทั่งสิ่งนั้นเกิดขึ้น คือมีการเทศนาบอกคุณว่าทางออกเดียวสำหรับปัญหาของคุณคือการถูกตรึงบนกางเขนของพระเยซูคริสต์ นั่นเกิดจากคำพูดที่คนที่ยังไม่รอดบอกว่านี่เป็นเรื่องของของคนปัญญาอ่อน ถ้าคุณไม่รู้สึกว่าปัญหาของคุณเป็นบาป คุณจะไม่เห็นความสำคัญของการสิ้นของพระคริสต์บนไม้กางเขน พระคัมภีร์กล่าวว่า "

“พระคริสต์ได้ทรงวายพระชนม์เพราะบาปของเราทั้งหลาย” ( 1โครินธ์ 15:3)

พระองค์สิ้นพระชนม์ในสถานที่ของเราเพื่อชำระบาปของเรา พระคัมภีร์กล่าวว่า "

“พระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ ก็ชำระเราทั้งหลายให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น” (1 ยอห์น 1:7)

แต่นั่นดูเหมือนว่าคุณจะสนใจแต่เรื่องขิงหลักการมากกว่า และโง่กับด้านอื่น แต่ตาของคุณจะสว่างก็ต่อเมื่อพระวิญญาณของพระเจ้าทรงทำให้คุณรู้ว่ามันไม่มีทางอื่นที่ทำให้คุณรอดจากบาปได้ นันก็ต่อเมื่อพระเจ้าทรบทให้คุณเห็นว่า คุณไม่มีความหวังอื่นอีก และในใจสามารถร้องเพลงนี้

ข้าพระองค์ไม่มีอะไรดีเลย
   โดยพระคุณของพระองค์ที่เรียกข้าฯ -
ข้าฯจะซักเสื้อผ้าของข้าฯให้ขาว
   ในโลหิตของพระองค์ที่โกระโกธา
พระเยซูทรงทรงใช้ค่าบาปของข้าพระองค์
   บาปคราบสีแดงเข้มดั่งเลือด
พระองค์ทรงชำระล้างขาวเหมือนหิมะ
   (“Jesus Paid It All,” Elvina M. Hall, 1820-1899)

แต่การประกาศเรื่องกางเขนเพียงอย่างเดียวจะไม่ทำให้เราเป็นคริสตจักรที่เข้มแข็งได้ นั่นนำผมไปสู่ประการสุดท้าย

III. สาม การเทศนาเกี่ยวกับกางเขนไม่เพียงพอที่จะสร้างคริสตจักรให้เข้มแข็ง

ประการแรก การเทศนาเกี่ยวกับกางเขนเป็นเรื่องจำเป็นหากคุณต้องการที่จะได้รับการช่วยกู้ พระคริสต์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและโลหิตหลั่งลงมาชำระคุณจากบาป แต่การเทศนาเกี่ยวกับกางเขนเพียงอย่างเดียวจะไม่เพียงที่จะสร้างให้คริสตจักรเข้มแข็งด้ นั่นเป็นเหตุที่พระเยซูคริสต์ประทานผู้รับใช้ให้กับคริสตจักร พระคัมภีร์กล่าวว่าพระคริสต์ "บางคนเป็นศิษยาภิบาล ... " (เอเฟซัส 4:11) คำในภาษากรีกแปลคำว่า "ศิษยาภิบาล" เป็น พอยเมน หมายถึง "คนเลี้ยงแกะ" พระเยซูทรงประทานคนบางคนมีของประทานเป็นศิษยาภิบาล หรือคนเลี้ยงแกะในคริสตจักรท้องถิ่นของตน และศิษยาภิบาลเป็นของขวัญให้กับคริสตจักร คนในคริสตจักรคือแกะ หรือฝูงแกะ ศิษยาภิบาลเป็นผู้เลี้ยงแกะของคริสตจักร เขาดูแลแกะ เขาปกป้องแกะ เขานำทางพวกเขาและทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากการหลงทาง นั่นคือสิ่งที่คนเลี้ยงแกะทำ

ภาษากรีกอีกคำหนึ่งสำหรับ "ศิษยาภิบาล" คือ episkopos คำนี้แปลว่า "ผู้ดูแล" นั่นคือ "บิชอป" ในพระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์ ซึ่งกล่าวว่า "ถ้าชายคนใดปรารถนาหน้าที่บิชอป [episkopos ผู้ดูแล ศิษยาภิบาล] คนนั้นก็ปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ" (1 ทิโมธี 3: 1) ศิษยาภิบาลดูแลคริสตจักร เขาเลี้ยงดู แท้จริงแล้วเขาเห็นมากกว่านั้น เขาเฝ้าคริสตจักร เขาอธิษฐานและนึกถึงคริสตจักรตลอด เขาเห็นว่าคริสตจักรเป็นอย่างไร เขาเห็นว่าปัญหาคืออะไร ศิษยาภิบาลเห็นคริสตจักรในแบบที่คนอื่นไม่เห็น ด้วยการทรงนำของพระเจ้า ศิษยาภิบาลเห็นว่าจะทำอย่างไร ศิษยาภิบาลดูแลผู้คนในคริสตจักร เขาเห็นว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ เขาเห็นปัญหาของพวกเขา และด้วยการทรงนำของพระเจ้าศิษยาภิบาลช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในชีวิตคริสเตียนของพวกเขา

คริสตจักรที่ไม่มีศิษยาภิบาลจะไม่มีประสบความสำเร็จ สามารถทำกิจกรรมได้ทุกประเภท เราสามารถมีการประชุมได้ เราสามารถนำผู้คนเข้มร่วมการนมัสการในวันอาทิตย์ เราสามารถให้หนังสือเพลงและตารางนมัสการให้คุณ เราสามารถจัดเตรียมอาหารแก่คุณได้ เราสามารถมีการเทศนาที่ดีได้ - การประกาศพระกิตติคุณ - และเราทำสิ่งเหล่านี้ แต่การเทศนาเกี่ยวกับกางเขนเพียงอย่างเดียวจะไม่ทำให้เราเป็นคริสตจักรที่เข้มแข็งได้

เหตุใดพระเจ้าจึงทรงประทานศิษยาภิบาลให้กับคริสตจักร? เหตุใดของประทานของศิษยาภิบาลจึงเป็นหนึ่งในประทานฝ่ายวิญญาณ? ถ้าการเทศนาเพียงอย่างเดียสามารถสร้างคริสตจักรให้เข้มแข็งได้ ทำไมพระเจ้าของเราจึงไม่ประทานให้มี "บางคนเป็นผู้ประกาศ" เท่านั้น ไม่ใช่เป็นศิษยาภิบาล? พระเยซูคริสต์ทรงรู้ดีว่าการเทศนาเกี่ยวกับกางเขนไม่เพียงพอที่จะสร้างคริสตจักรให้เข้มแข็ง คริสตจักรต้องการศิษยาภิบาลและนั่นคือเหตุที่พระองค์ทรง “ให้บาง ...เป็นศิษยาภิบาล”

คริสตจักรที่ไม่มีศิษยาภิบาลจะล้มเหลวแม้ว่าจะมีคนเทศน์ได้ดีก็ตาม คริสตจักรจะอ่อนแอ จะมีปัญหา ในที่สุดก็จะตายไป หากปราศจากสิษยาภิบาลคริสตจักรจะล้าหลัง สมาชิกจะเย็นชา สามาชิกมีโอกาสมากทำผิดในชีวิตของพวกเขา พวกเขาจะกลายเป็นปัญหา ทำไม?

ประการแรก มีมาร พระคัมภีร์กล่าวว่า “วนเวียนอยู่รอบ ๆ [ดุจสิงโตคำราม] เที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้” (1 เปโตร 5:8) ใครคือเหยื่อ? แกะ! แค่มารไม่ต้องการให้คุณรู้อุบายของมัน มันต้งการจู่โจมและกินคุณ – และคุณเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นใครและทำอะไร! มารและสมุนของมันอยู่รอบด้าน – ไม่ว่าคุณจะรู้หรือไม่ก็ตาม

ประการที่สอง เพราะทุกคนเป็นคนบาป เพราะอาดัมไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกเราทุกคนเกิดมาพร้อมกับความบาป พระคัมภีร์กล่าวว่า "การละเมิดของคนเราก็เป็นเรื่องบาป" (โรม 5:19) ทุกคน - แม้แต่คริสเตียน - มีตามธรรมชาติ เป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องทำบาป เป็นเรื่องธรรมชาติที่เราจะไปผิดพลาด ตามกฎหมายของเมอร์ฟี่กล่าวว่า "ถ้ามีอะไรผิดพลาด ก็เป็นปกติ" โดยธรรมชาติดีไม่มีอะไรดีขึ้นด้วยตัวเอง พวกเขาทำผิดโดยธรรมชาติ และพวกเขาเป็นอย่างนั้น คนไม่ได้เป็นคริสเตียนและเข้มแข็งโดยธรรมชาติของตัวเอง พวกเขาจะมีแต่ล้าหลัง พวกเขามีแต่เย็นชาลงเรื่อย พวกเขาสามารถทำผิดมากขึ้น และการทำผิดนั้นมันเกิดขึ้นด้วยตัวเอง คริสตจักรไม่สามารถเติบโตโดยธรรมชาติ พวกเขามีแต่จะอ่อนแอ และกลายเป็นคริสตจักรมีปัญหา คุณไม่จำเป็นต้องพยายามที่จะทำชั่ว มันจะเกิดขึ้นทั้งหมดด้วยตัวเอง! และมันก็เป็นเช่นนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่คริสตจักรต้องการศิษยาภิบาล พระคริสต์ "ให้บางคนเป็น ... ศิษยาภิบาล" ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงทำเช่นนั้น!

ศิษยาภิบาลของคริสตจักรของเราคือ ดร. ไฮเมอร์ส ท่านทำพันธกิจมานานหกสิบปีแล้ว พระเจ้าทรงใช้ท่านเพื่อนำคนหลายร้อยคนสู่พระคริสต์ ท่านได้ให้คำแนะนำแก่ผู้คนเป็นเวลาหลายปีแล้ว ท่านได้ดูแลสามาชิก ดร. ไฮเมอร์ส สร้างโบสถ์สองแห่ง ท่านทรงนำคริสตจักรของเราผ่านการทดลองและความทุกข์ยาก ท่านพาคริสตจักรของเราผ่านการแตกแยกที่น่ากลัว พระเจ้าทรงใช้ท่านเพื่อสร้างคริสตจักรของเราเพื่อปกป้องเรา เพื่อรักษาเรา ดร. ไฮเมอร์ส ไม่ใช่แค่ศิษยาภิบาลเท่านั้น ท่านเป็นศิษยาภิบาลที่โดดเด่น! ขอบคุณพระเจ้าสำหรับศิษยาภิบาลของเราอย่าง ดร. ไฮเมอร์ส!

แล้วคุณล่ะ? คุณไม่ใช่ศิษยาภิบาล แต่คุณสามารถช่วยท่านได้ คุณสามารถบอกม่านได้เมื่อคุณเห็นบางอย่างในคริสตจักรไม่ปกติ ทั้งหมดนี้เป็นจริงมากขึ้นสำหรับมัคนายกและผู้นำในคริสตจักรของเรา คุณอยู่ที่นี่เพื่อช่วยศิษยาภิบาล อย่าปล่อยให้สิ่งต่างๆให้ท่านคนเดียว อย่าคิดว่าศิษยาภิบาลรู้ทุกอย่าง ถ้าคุณเห็นหรือได้ยินอะไรที่ไม่ปกติก็ให้บอกกับศิษยาภิบาล

บางท่านไม่ใช่คริสเตียนเลย คุณไม่เชื่อพระเยซู ความบาปของคุณไม่ได้รับการล้างด้วยโลหิตของพระองค์ แล้วคุณล่ะ? คุณต้องได้รับการช่วยโดยพระคริสต์ พระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อชำระบาปของคุณ พระองค์ทรงชำระความบาปของคุณออกไป พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายเพื่อประทานชีวิตแก่คุณ ถ้าคุณต้องการพูดคุยกับเราเกี่ยวกับการไว้วางใจพระเยซู ในขณะที่คนอื่น ๆ ขึ้นไปรับประทานอาหารกลางวันชั้นบน ก็ขอให้คุณก็มานั่งที่สองแถวแรกนี้ อาเมน

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร.ไฮเมอร์ส ในแต่ละสัปดาห์ทางอินเทอร์เน็ทได้ที่
at www.sermonsfortheworld.com.
คลิกที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

ร้องเพลงเดี่ยวก่อนเทศนาโดย ผป. เบนจามิน คินเคด กรี่ฟฟี่ท:
“Saved by the Blood of the Crucified One” (S. J. Henderson, 1902).


โครงร่างของ

การเทศนาเกี่ยวกับกางเขน

THE PREACHING OF THE CROSS

เขียนบทเทศนาโดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
และเทศนาโดย ศจ. จอห์น ซามูเอล คาเกน
A sermon written by Dr. R. L. Hymers, Jr.
and preached by Rev. John Samuel Cagan

“พระองค์จะทรงให้ท่านมั่นคงอยู่จนถึงที่สุด เพื่อให้ท่านปราศจากที่ติในวันของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (1 โครินธ์ 1:18)

I.    หนึ่ง การเทศนาเกี่ยวกับกางเขน, 1 โครินธ์ 1:18ก;
โคโลสี 2:13; โรม 5:8-9

II.   สอง คนที่จะพินาศถือว่าการเทศนาเกี่ยวกับกางเขนเป็นเรื่องโง่ ๆ 1 โครินธ์ 1:18ข; ยอห์น 16:8;
1 โครินธ์ 1:21; 15:3; 1 ยอห์น 1:7

III.  สาม การเทศนาเกี่ยวกับกางเขนไม่เพียงพอที่จะสร้างคริสตจักรให้เข้มแข็ง, เอเฟโซ 4:11; I ทิโมที 3:1;
I เปโตร 5:8; โรม 5:19