เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
ในพระคริสต์เท่านั้น!IN CHRIST ALONE! โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “มาเถิด ให้เรากลับไปหาพระเยโฮวาห์ เพราะว่าพระองค์ทรงฉีก และจะทรงรักษาเราให้หาย พระองค์ทรงโบยตี และจะทรงพันบาดแผลให้แก่เรา อีกสองวันพระองค์จะทรงฟื้นฟูเราขึ้นใหม่ พอถึงวันที่สามจะทรงยกเราขึ้น เพื่อเราจะดำรงชีวิตอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์” (โฮเชยา 6:1, 2) |
ความหมายของคำนี้ชัดเจนมาก นี่คือพระเจ้าทรงเรียกชนชาติอิสราเอลครั้งสุดท้าย เพราะในอีกไม่นานพวกเขาก็จะถูกไปเป็นเชลยในซีเรีย และจากนั้นก้บาบิโลน หลังจากที่พวกเขาถูกตีสอน และถูกฉีกแล้วพวกเขาก็จะกล่าวว่า “มา ให้เรากลับมาหาพระเจ้า” ใช่แล้วคำพยากรณ์ก็สำเร็จแล้ว และพวกเขาก็ถูกกวาดไปเป็นเชลยโดยชาวบาบิโลนตามคำทำนายพูดที่ถึงอนาคต และพระเจ้าจะทรงรักษาพวกเขาในอนาคต "พอถึงวันที่สามจะทรงยกเราขึ้น เพื่อเราจะดำรงชีวิตอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์” พระเจ้าทรงสัญญาว่าในวันข้างหน้าพระเจ้าจะทรงนำอิสราเอลกลับเข้ามาในแผ่นดินและช่วยพวกเขาไว้ พระเจ้ากำลังเริ่มทำตามคำพยากรณ์นั้นในสมัยของเรา อิสราเอลได้รับการประกาศให้เป็นประเทศในปี ค.ศ. 1948 ตั้งแต่นั้นมาชาวยิวได้กลับไปยังบ้านเกิดของตัวเองที่ตามพระสัญญาของพระเจ้าในเร็ว ๆ นี้ พวกเขาจะอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์ "และเพื่ออิสราเอลทั้งปวงจะได้รับความรอด" (โรม 11:26) นั่นคือการตีความข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ ยังมีอีก บางคนบอกว่า “การอธิบายมีอย่างเดียว แต่การนำไปใช้นั้นมีอยู่หลายอย่างในข้อพระคำเหล่านี้ I. หนึ่ง พระคำนี้ประยุกต์ใช้ให้กับคริสเตียน พระคำเหล่านี้ใช้สำหรับคริสเตียน มีคริสเตียนเพียงไม่กี่คนปฏิบัติตามพระเจ้าโดยไม่มีการต่อต้าน พวกเขามีความมั่นคงในชีวิตคริสเตียนของพวกเขา แต่คริสเตียนส่วนมากความเชื่อจะเย็นชาลงเรื่อยๆ พระเจ้าส่งความยากลำบากและความทุกข์ทรมานมาให้พวกเขา แล้วพระองค์ก็ทรงช่วยหลังจากให้พวกเขาเผชิญปัญหาและการทดลองฉีกขาดเราและการตีสอน กาตีสอนนั้นคือพระเจ้าทรงเอาสันติสุขภายในใจของคุณออกไป พระเจ้าทำให้คุณรู้สึกหดหู่และหนักใจ แม้ในขณะที่คุณนั่งอยู่ที่นี่ในโบสถ์คืนนี้ ทำไมพระเจ้าถึงปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ? เป็นไปได้ว่าพระองค์มีสิ่งใหม่ ๆ ให้คุณทำ อาจเป็นไปได้ว่าพระเจ้ากำลังเตรียมตัวคุณให้ออกไปและช่วยผมก่อตั้งคริสตจักรใหม่ในปีหน้า หรือพระองค์อาจเตรียมท่านให้รับหน้าที่ใหม่ในคริสตจักรนี้ โดยทั่วไปมนุษย์เราไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง พระเจ้าทอดพระเนตรเราและสังหารเราจนกว่าเราจะเต็มใจรับภาระหน้าที่ๆต่างกัน พระองค์ทรงฉีกสิ่งใดก็ตาม ก็ให้เราทำตามเพื่อจะทำให้เรามีประโยชน์มากยิ่งขึ้นในอาณาจักรของพระองค์ ดร. โทเซอร์ กล่าวว่า "อย่าได้สงสัยว่าพระเจ้าจะทรงอวยพระพรแก่บุคคลได้อย่างมากเว้นไว้แต่ว่าพระองค์จะสอนตีสอนผู้นั้นอย่างแสนสาหัส" ถ้าคุณกลับใจใหม่พระเจ้าจะไม่ทำลายคุณ แต่พระองค์กำลังเขย่าใจของคุณ บางทีพระองค์อาจจะใช้คุณในการฟื้นฟู! “อีกสองวันพระองค์จะทรงฟื้นฟูเราขึ้นใหม่ พอถึงวันที่สามจะทรงยกเราขึ้น เพื่อเราจะดำรงชีวิตอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์” ผมเชื่อว่าการก่อตั้งคริสตจักรใหม่จะช่วยให้บางท่านกลายเป็นคริสเตียนที่แข็งแกร่งขึ้น ตอนด็กถึงวัยรุ่นพวกเขามักรู้สึกเจ็บปวดที่ตามขาและแขนของพวกเขา พวกเขาเคยเรียกว่า "ความเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้น" อย่าตกใจ หลังจากสองวันพระองค์จะทรงรักษาคุณและให้ความเชื่อและชีวิต! สิ่งที่พระองค์ทรงฉีกขาดออกไป พระองค์จะชดใช้ตอนพระบุตรของพระเจ้าเสด็จมา จอห์น นิวตัน เขียนเพลง “พระคุณพระเจ้า” หรือ "Amazing Grace" นอกจากนี้เขายังเขียนบทกวีนี้ด้วย ข้าฯขอพระองค์ให้ข้าฯเติบโต เขาบอกเราถึงสิ่งที่พระองค์ทรงตรัส ข้าพระองค์ผ่านพ้นการทดลองภายในเหล่านี้ II. สอง พระคำข้อเหล่านี้ใช้กับคนที่ยังไม่ได้กลับใจใหม่ เป้าหมายหลักของบทเทศนาในตอนเย็นนี้คืออยู่ข้อที่สองต่อไปนี้ เพื่อแสดงให้คุณเห็นว่ากำลังพูดให้คุณหากคุณยังไม่ได้กลับใจใหม่! พระเจ้ากำลังตรัสให้คุณว่า “มาเถิด ให้เรากลับไปหาพระเยโฮวาห์ เพราะว่าพระองค์ทรงฉีก และจะทรงรักษาเราให้หาย พระองค์ทรงโบยตี และจะทรงพันบาดแผลให้แก่เรา อีกสองวันพระองค์จะทรงฟื้นฟูเราขึ้นใหม่ พอถึงวันที่สามจะทรงยกเราขึ้น เพื่อเราจะดำรงชีวิตอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์” (โฮเชยา 6:1, 2) การบังเกิดใหม่นั้นเจ็บปวด มันเจ็บปวดเพราะคุณไม่ต้องการที่จะบังเกิดใหม่ คุณอาจบอกว่าคุณต้องการที่จะเปลี่ยน - แต่ก็ไม่เป็นความจริง คุณอาจคิดว่าคุณต้องการที่จะเปลี่ยน – แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น! พระคัมภีร์กล่าวว่า "ไม่มีผู้ใดแสวงหาพระเจ้า" (โรม 3:11) แล้วทำไมบางคนเริ่มแสวงหาพระคริสต์? คำตอบคือในยอห์น 16: 8 ซึ่งบอกเราว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ "จะพิสูจน์โลกแห่งความบาป" "พิสูจน์" มาจากคำภาษากรีก "elengkho" - "เพื่อลงโทษ" "บอกความผิด" "ตำหนิ" "โน้มน้าวให้" ไม่มีใครชอบที่จะบอกว่าพวกเขาเป็นคนบาปที่หลงหายไป แต่ในการเทศนาประกาศข่าวประเสริฐ แต่จำเป็นต้องพูดเช่นนั้น เหตุผลที่คุณยังไม่ได้กลับใจใหม่คือคุณไม่รู้สึกถึงบาปของคุณ ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการอธิษฐานอย่างมากขอให้พระเจ้าส่งพระวิญญาณของพระองค์ลงมาเพื่อให้คนที่หลงหายไป ได้รับการตีสอนและเชื่อฟังและตำหนิและถูกตัดสินลงโทษในความเห็นแก่ตัวของพวกเขา และการต่อต้านพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ วิธีไหนที่คุณสามารถยืนอยู่ต่อหน้าพระเจ้าในการพิพากษาครั้งสุดท้ายด้วยการกบฏมากและบาปในหัวใจของคุณ? คุณสามารถฟังคำเทศน์แบบนี้ได้อย่างไรแล้วไปทานอาหารค่ำและหัวเราะกับเพื่อน ๆ ในห้องชั้นบน? คุณจะไปตลอดสัปดาห์ได้อย่างไรโดยไม่ต้องอ่านบทเทศน์ในแต่ละวันและดูวิดีโอเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คุณต้องกลัวพระเจ้าพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์พระเจ้าผู้ทรงขุ่นเคืองและโกรธที่ความคิดอันเจิดจ้าและจิตใจที่แข็งกระด้างของคุณ!!! นี่เป็นเรื่องร้ายแรง! ไม่มีอะไรที่รุนแรงมากขึ้นในทุกมุมโลก เปลวไฟนรกกำลังรอคุณอยู่และคุณหัวเราะกับเพื่อน ๆ หลังจากการเทศนา! ไม่มีความหวังสำหรับคุณเช่นนั้น! ลองฟัง จอห์น คาเกน "ก่อนที่ผมจะกลับใจใหม่ ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ผมนอนไม่หลับ ผมไม่สามารถยิ้มได้ ผมไม่สามารถมีสันติสุขใด ๆ ... ผมไม่สามารถหยุดความรู้สึกทรมานนั้น ผมหมดแรง ผมรู้สึกเบื่อหน่ายกับมันทั้งหมด ผมเริ่มเกลียดตัวเองเกลียดบาปของผมที่มันทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้น ... บาปของผมกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งและแย่ลงไปเรื่อยๆ ผมไม่สามารถอยู่อน่างนี้อีกต่อไป ผมรู้ว่าพระเจ้าทรงชอบธรรมและผมเป็นคนที่พระเจ้าต้องทิ้งผทสูนรกแน่ ผมเหนื่อยกับการดิ้นรนต่อสู้อย่างนี้ ผมรู้สึกเบื่อหน่ายกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเผชิญ ... แต่ผมก็ยังไม่ต้องการพระเยซู ... ผม 'พยายาม' แสวงหาความรอดด้วยตัวเอง ผม 'พยายาม' ด้วยตัวเอง แต่กลับช่วยผมไมได้อะไรเลย ผมไม่สามารถตัดสินใจที่จะเป็นคริสเตียนได้และทำให้ผมรู้สึกสิ้นหวัง ข้าฯเข้าสู่การทดลองภายในเหล่านี้ ผมรู้สึกว่าบาปของผมผลักดันให้ผมต้องลงไปยังนรก แต่ผมรู้สึกถึงความทุกข์ทรมาณภายใน ... ผมต้องปล่อยทุกอย่างตายไป! เกิดอะไรขึ้นกับจอห์น? ไม่ได้มาโดยการเรียนรู้ที่จะพูดคำที่ไพเราะ! โอ้ พระเจ้าไม่! คำพูดไพเราะไม่สามารถช่วยเขาได้! ไม่ใช่โดย "ความรู้สึก" โอ้ พระเจ้าไม่! ไม่มีความรู้สึกใดที่สามารถช่วยเขาให้รอดได้ พระองค์ “ทรงฉีกพระองค์ทรงโบยตี!” พระองค์ทรงทำให้ใจของจอห์นแตกสลาย! พระองค์ทรงตีสอนจอห์น! การกลับใจที่แท้จริงนั้นเจ็บปวด! คุณกำลังต่อสู้กับพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ! คุณไม่สามารถหลอกลวงทางของคุณออกจากมันได้ คุณไม่สามารถพูดตามทางของคุณและรอดได้! คุณไม่สามารถเรียนรู้ตามวิธีของคุณแล้วทำให้รอดได้!!! ข้าฯเข้าสู่การทดลองภายในเหล่านี้ “จงจุบพระบุตรเถิดเกลือกว่าพระองค์จะทรงพระพิโรธ และเจ้าต้องพินาศจากทางนั้น เมื่อพระพิโรธของพระองค์นั้นเริ่มจุดให้ลุกแต่น้อย คนทั้งหลายผู้วางใจในพระองค์จะได้รับพร” (สดุดี 2:12) ลองฟัง เอมี่ ซาบาลากา "ฉันนั้นสงสารตัวเองเกี่ยวกับบาปของฉัน ... ฉันไม่สามารถอธิบายได้อย่างเต็มที่ว่ามันต้องการเห็นความมืดและความวุ่นวายในใจของคุณอย่างไร ฉันรู้สึกรังเกียจและอายถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงเห็นในใจของฉัน ฉันเป็นคนชั่วร้ายในสายพระเนตรหน้าพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ทุกหนทุกแห่ง สิ่งที่ฉันทำในคริสตจักรมีรากฐานมาจากความบาปที่เห็นแก่ตัว ฉันรู้สึกเหมือนฉันเป็นคนโรคเรื้อนที่สกปรกในหมู่คริสเตียนที่สะอาด แต่ฉันก็ไม่ไว้วางใจพระคริสต์ พระเยซูเป็นเพียงคำพูดเปล่าๆ ... ใครบางคนที่อยู่ไกลแสนไกล ... ฉันกำลังมองหาความรู้สึกที่ดี ... ประสบการณ์บางอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าฉันรอด ... ดร.ไฮเมอร์ส ตำหนิผู้หลงหายไปกับการเล่นกับพระเจ้าผู้ทรงอำนาจ ฉันนั่งอยู่และสั่นด้วยความกลัว ฉันรู้ว่านั่นคือฉัน ไฮเมอร์สแล้วพูดจากข้อความของเรากล่าวว่า “มาเถิด ให้เรากลับไปหาพระเยโฮวาห์ เพราะว่าพระองค์ทรงฉีก และจะทรงรักษาเราให้หาย พระองค์ทรงโบยตี และจะทรงพันบาดแผลให้แก่เรา...พระองค์จะทรงฟื้นฟูเราขึ้นใหม่ พอถึงวันที่สามจะทรงยกเราขึ้น เพื่อเราจะดำรงชีวิตอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์” (โฮเชยา 6:1, 2) เอมิกล่าวว่า "บาปของข้าพเจ้าก็เหยียดออกเหมือนมหาสมุทรลึก ฉันไม่สามารถทนอยู่กับมีนอีกต่อไป ฉันต้องมีพระเยซู! ฉันต้องมีโลหิตของเขา! " พระองค์ “ทรงฉีกพระองค์ทรงโบยตี!” พระองค์ทรงทำให้ใจของเอมี่แตกสลาย! พระองค์ทรงตีสอนเอมี่! การแปลงที่แท้จริงนั้นเจ็บปวด! คุณกำลังต่อสู้กับพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ! คุณไม่สามารถหลอกลวงทางของคุณออกจากมัน! คุณไม่สามารถพูดทางของคุณ! คุณไม่สามารถหัวเราะได้ !!! คุณไม่ได้ป่วยจากมันทั้งหมดหรือไม่? คุณไม่กลัวหรือ คุณไม่ได้ป่วยกับคอด้วยศาสนาหรือ? โอพระเจ้าช่วยพวกเขาจากเปลวไฟ! “จงจุบพระบุตรเถิดเกลือกว่าพระองค์จะทรงพระพิโรธ และเจ้าต้องพินาศจากทางนั้น เมื่อพระพิโรธของพระองค์นั้นเริ่มจุดให้ลุกแต่น้อย คนทั้งหลายผู้วางใจในพระองค์จะได้รับพร” (สดุดี 2:12) คุณถูกฉีกขาดโดยพระเจ้าหรือ? คุณได้รับบาดเจ็บด้วยพระหัตถ์ของเพระองค์หรือไม่? คุณรู้สึกว่าความเศร้าโศกและความเจ็บปวดของคุณเป็นสัญญาณเตือนว่าพระเจ้าไม่ได้รักคุณใช่หรือไม่? คุณรู้สึกเจ็บปวดที่คุณไม่สามารถบอกใครได้ใช่หรือไม่? คุณรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวและถูกพระเจ้าทอดทิ้งเหมือนพระคริสต์ในสวนเกทเสมนีหรือไม่? คุณพูดกับตัวคุณเองว่า "ทำไมพระเจ้าทอดทิ้งข้าพระองค์?" มารจะกระซิบ "ทำไมต้องไป? ไม่มีใครสนใจคุณหรอก ไม่มีใครรักคุณ" แต่ผมอยากขอร้องคุณ "อย่าฟังซาตาน! " ผมเป็นคนที่เหมาะสมที่ควรจะฟัง ผมได้ผ่านการลงโทษนี้อย่างน้อยหกครั้งในชีวิตของผม ก่อนที่ผมจะกลับใจใหม่และอีกห้าครั้ง “และจะทรงรักษาเราให้หาย พระองค์ทรงโบยตี และจะทรงพันบาดแผลให้แก่เรา...พระองค์จะทรงฟื้นฟูเราขึ้นใหม่ พอถึงวันที่สามจะทรงยกเราขึ้น เพื่อเราจะดำรงชีวิตอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์” (โฮเชยา 6:1, 2) ทุกครั้งที่ผมได้ผ่านความสับสนวุ่นวายนี้ มันเป็นการตระเตรียมผมให้ทำอะไรให้กับพระเจ้ามากขึ้น ทุกครั้งที่พบความเจ็บปวดและแย่มากนั้น ผมก็คิดว่ามันจะไม่มีวันหายไป พระเยซูตรัสกับผมว่า ข้าฯเข้าสู่การทดลองภายในเหล่านี้ ครั้งแรกก็ตอนที่ผมกลับใจใหม่ ครั้งล่าสุดคือตอนที่ผมเป็นโรคมะเร็ง พวกเขากล่าวว่า "คุณเป็นโรคมะเร็ง" พวกเขาใช้ยาหลายชนิดมารักษาผม ผมรู้สึกเหมือนโมเสสที่อยู่คนเดียวในถิ่นทุรกันดาร ผมโกรธและร้องไห้หลายครั้งในตอนกลางคืน! ผมคิดว่าผมไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ผมถูกฉีกขาด ผมรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร ทุกครั้งที่ผมได้ผ่านคืนแห่งความมืดนั้น ก็คิดเสมอว่าพระเจ้ากำลังเตรียมผมสำหรับสิ่งใหม่ ๆ ครั้งนี้เป็นการเตรียมผมเพื่อเริ่มต้นสร้างคริสตจักรใหม่ เพื่อนๆที่รัก พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งคุณ ใช่พระองค์อาจทรงฉีกคุณ และแล้วหลังจากนั้นพระองค์จะทรงรักษาคุณให้หาย ใช่พระองค์ทรงทำร้ายคุณ - แต่พระองค์จะช่วยคุณให้รอด! พระองค์ทรงตีสอนคุณและฉีกคุณเพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง - เพื่อทำให้คุณรู้ว่าพระคริสต์เท่านั้นทรงสามารถให้ความหวังแก่คุณได้! เพื่อทำให้คุณรู้ว่าสันติสุขที่แท้จริงนั้นพบในพระคริสต์เพียงผู้เดียว! เพื่อทำให้คุณรู้ว่าความสุขถูกพบในพระคริสต์เพียงผู้เดียว! เพื่อให้คุณรู้ว่าพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อชดใช้บาปของคุณ! เพื่อให้คุณรู้ว่าพระองค์ทรงฟื้นคืนพระชนม์จากความตายเพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับคุณ ความหวังของฉันถูกพบในพระคริสต์ผู้เดียวเป็นแสงสว่างและเป็นบทเพลง ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้ ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452 (จบการเทศนา) หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ ร้องเพลงเดี่ยวก่อนเทศนาโดย ผป. เบนจามิน คินเคด กรี่ฟฟี่ท: |
โครงร่างของ ในพระคริสต์เท่านั้น IN CHRIST ALONE! โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “มาเถิด ให้เรากลับไปหาพระเยโฮวาห์ เพราะว่าพระองค์ทรงฉีก และจะทรงรักษาเราให้หาย พระองค์ทรงโบยตี และจะทรงพันบาดแผลให้แก่เรา...พระองค์จะทรงฟื้นฟูเราขึ้นใหม่ พอถึงวันที่สามจะทรงยกเราขึ้น เพื่อเราจะดำรงชีวิตอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์” (โฮเชยา 6:1, 2) (โรม 11:26) I. หนึ่ง พระคำเหล่านี้ประยุกต์ใช้กับคริสตเตียน II. สอง พระคำข้อเหล่านี้ใช้กับคนที่ยังไม่ได้กลับใจใหม่ โรม 3:11; จอห์น 16:8; สดุดี 2:12 |