Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




การเสด็จมาก็เพื่อคนบาป

DELIVERANCE IS ONLY FOR THE DISSATISFIED
(Thai)

เขียนบทเทศนาโดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
และเทศนาโดย ท่าน จอห์น ซามูเอล คาเกน
เทศนาที่คริสตจักรแบ๊บติสต์เทเบอร์นาเคลในนคร ลอสแอนเจลิส
เช้าวันของพระเป็นเจ้า 14 พฤษภาคม มีนาคม ค.ศ. 2017
A sermon written by Dr. R. L. Hymers, Jr.
and preached by Mr. John Samuel Cagan
at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Morning, May 14, 2017

“พระเยซูตรัสตอบเขาว่า คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ เรามิได้มาเพื่อจะเรียกคนที่เห็นว่าตัวชอบธรรม แต่มาเรียกคนบาปให้กลับใจเสียใหม่” (ลูกา 5:31-32)


พระเยซูทรงออกไปและเห็นคนเก็บภาษีชื่อเลวี นี่อีกชื่อหนึ่งของมัทธิว พระเยซูทรงเรียกเขาให้ติดตามพระองค์

“เขาก็ละทิ้งสิ่งสารพัด ลุกขึ้นตามพระองค์ไป” (ลูกา 5:28)

มัทธิวเป็นคนเก็บภาษีและสะสมภาษีเหล่านั้นไว้ในกรุงโรม ชาวยิวเกลียดคนเก็บภาษีเพราะพวกโรมันอนุญาตให้พวกเขาเก็บภาษีจากชาวยิวเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงแสวงหาเงินมากเท่าที่มากได้และสะสมไว้เพื่อตัวเอง ดัฝนี้นพวกเขาส่วนใหญ่จึงรวยมาก ส่วนคนอื่น ๆ ก็เกลียดชังพวกเขา สำหรับชาวยิวพวกเขานับว่าเป็นคนบาปที่ชั่วร้ายมาก

ตอนที่มัทธิวติดตามพระเยซู "เขาก็ละทิ้งสิ่งสารพัด" นั่นคือเขาละทิ้งธุรกิจที่ร่ำรวยมากจากการเก็บภาษี "และตามพระองค์ไป"

แล้วมัทธิวก็จัดงานเลี้ยงในบ้านของตน มีคนเก็บภาษีรายอื่น ๆ และคนบาปอีกหลายคนก็เข้ามาในงานเลี้ยงฉลองนี้ พวกเขาเป็นคนเลวร้าย ซีโนนักกวีกล่าวว่า "คนเก็บภาษีทั้งหมดเป็นโจรกันทุกคน" พวกฟาริสีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนเก็บภาษีเหล่านี้หรือนับเป็นเพื่อนด้วย แต่พวกฟาริสีเรียกคนเก็บภาษีว่า "คนบาป"

ตอนพวกคนเก็บภาษีและคนบาปมาที่บ้านงานเลี้ยงเต็มไปหมด พวกฟาริสีก็บ่นและพูดพึมพำ พวกเขากล่าวแก่เหล่าสาวกว่า

“มีคนมากมายเป็นคนเก็บภาษีและคนอื่น ๆ มาเอนกายลงรับประทานด้วยกัน?” (ลูกา 5:30)

พระเยซูออกจากที่นั่งเพื่อตอบคำถามของฟาริสี

“พระเยซูตรัสตอบเขาว่า คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ เรามิได้มาเพื่อจะเรียกคนที่เห็นว่าตัวชอบธรรม แต่มาเรียกคนบาปให้กลับใจเสียใหม่” (ลูกา 5:31-32)

พระเยซูทรงตรัสให้พวกฟาริสีด้วยเหตุผลของพระองค์ ที่ได้ทรงเรียกคนบาปเหล่านี้มาร่วมงานเลี้ยงฉลอง พระองค์กล่าวว่าผู้ที่มีสุขภาพที่ดีไม่จำเป็นต้องการหมอ เฉพาะผู้ที่เป็นโรคเท่านั้น ในความเห็นของพวกเขาเองพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีปราศจากโรคบาป ตราบใดที่พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสียังถือปฏิบัติตามกฎบัญญัติ พวกเขาไม่คิดว่าตัวเองป่วยและอยู่ในสภาพของความบาป ในสมัยนั้น พวกฟาริสีเป็นชาวยิวดั้งเดิม พวกธรรมาจารย์คือผู้ที่เขียนสำเนาพระคัมภีร์และสอนพระคัมภีร์ พวกเขาจึงไม่คิดว่าต้องการหมอใหญ่อย่างพระเยซู พวกเขาคิดว่า

“เป็นคนชอบธรรม และได้ดูถูกคนอื่นนั้น พระองค์ตรัสคำอุปมานี้ว่า” (ลูกา 18:9)

คำตอบของพระเยซูคือการตำหนิพวกฟาริสีที่ภาคภูมิใจและพอใจในตัวเอง

“พระเยซูตรัสตอบเขาว่า คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ เรามิได้มาเพื่อจะเรียกคนที่เห็นว่าตัวชอบธรรม แต่มาเรียกคนบาปให้กลับใจเสียใหม่” (ลูกา 5:31-32)

ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณสบายดีคุณจะไม่เห็นความจำเป็นว่าต้องการพระเยซู ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณถูกทำลายและตายในสภาพบาปพระเยซูจะมีความสำคัญต่อคุณ และคุณจะแสวงหาพระองค์เพื่อรักษาจิตใจของคุณและช่วยให้คุณรอดพ้นจากบาปและผลที่ตามมา การที่คุณรู้สึกถึงความบาปความรู้สึกสิ้นหวังและความรู้สึกไม่พึงพอใจนั้นสำคัญมาก - หรือคุณจะไม่รู้สึกว่าต้องการพระคริสต์

“คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ” (ลูกา 5:31)

I. หนึ่ง คนที่พึงพอใจกับทางคนตนเอง จะไม่ต้องการพระเยซู

คุณจะสังเกตเห็นเมื่อคุณอ่านพระกิตติคุณแล้วจะพบว่าพระเยซูมักจะรับประทานอาหารร่วมกับคนบาป คนบาปคือคนที่ไม่พึงพอใจกับชีวิตของตนเอง คนบาปรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขานั้นผิดอย่างน่ากลัว สิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องนี้ คนเหล่านี้รักพระเยซูเพราะพระองค์เป็นมิตรกับพวกเขา และหลายคนได้รับการช่วยกู้

พวกเขารู้สึกไม่พอใจกับวิถีชีวิตของตนที่หันไปหาพระคริสต์ มัทธิวผู้ทำการค้าทำอย่างที่เราเห็นในบทที่ห้าในพระธรรมลูกา ซัสเคียสคนเก็บภาษีก็เปฯอย่างนั้นตามที่เราเห็นในลูกาบทที่สิบเก้า พระเยซูตรัสกับเขาว่า

“แล้วตรัสแก่เขาว่า “ศักเคียสเอ๋ย จงรีบลงมา เพราะว่าเราจะต้องพักอยู่ในบ้านของท่านวันนี้ แล้วเขาก็รีบลงมาต้อนรับพระองค์ด้วยความปรีดี มื่อคนทั้งปวงเห็นแล้วเขาก็พากันบ่นว่า พระองค์เข้าไปพักอยู่กับคนบาป...ฝ่ายศักเคียสยืนทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ดูเถิด พระองค์เจ้าข้า ทรัพย์สิ่งของของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ยอมให้คนอนาถาครึ่งหนึ่ง และถ้าข้าพระองค์ได้ฉ้อโกงของของผู้ใด ข้าพระองค์ยอมคืนให้เขาสี่พระเยซูตรัสกับเขาว่า วันนี้ความรอดมาถึงครอบครัวนี้แล้ว... เพราะคนนี้เป็นลูกของอับราฮัมด้วย เพราะว่าบุตรมนุษย์ได้มาเพื่อจะแสวงหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปนั้นให้รอด” (ลูกา 19:5-10)

พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีย่อมไม่ต้องการพระคริสต์ เพราะพวกเขาพอใจในชีวิตของตัวเอง แต่คนเก็บภาษีและคนบาปเข้ามาหาพระองค์และได้รับความรอด

“คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ” (ลูกา 5:31)

ผู้ที่พอใจกับวิถีชีวิตของพวกเขาจะรู้สึกว่าไม่จำเป็นพระเยซู แต่ผู้ที่รู้สึกไม่พึงพอใจในวิถีชีวิตของพวกเขาจะมาหาพระองค์และได้รับความรอด

คุณจะไม่เห็นความจำว่าต้องการพระเยซู และคุณจะไม่ได้รับความรอด ถ้าคุณมีความสุขกับชีวิตของคุณในลักษณะที่เป็น คุณจะไม่เห็นความจำที่ให้พระเยซูเสด็จเข้ามาและเปลี่ยนแปลงอะไร

“คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ” (มัทธิว 9:12)

II. สอง คนที่พึงพอใจกับความดีคนตนเอง จะไม่ต้องการพระเยซู

มองออกไปที่เมืองของเรา นึกถึงคนที่อยู่ในนั้น จะมีสักกี่คนที่คิดเกี่ยวกับพระเจ้าอย่างจริงจังหรือไม่? คุณรู้ว่าไม่มีสักคนเลย พระคัมภีร์กล่าวว่า

“ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า” (โรม 3:11)

เว้นไว้แต่ว่าพระคุณของพระเจ้าจะมายังท่านโดยผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ คุณจะไม่แสวงหาพระเจ้าในพระคริสต์ คุณจะพอใจที่จะมีชีวิตอยู่และตายโดยปราศจากพระเจ้าในสภาพไร้ศาสนา

แต่ถ้าพระคุณของพระเจ้าเริ่มต้นทำงานในใจคุณ คุณก็จะเริ่มไม่พอใจกับชีวิตของคุณอย่างที่เป็นอยู่ คุณจะเริ่มเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างแตกต่างออกไปหมด คุณอาจอยู่ในกลุ่มคนและเริ่มคิดว่า "คนเหล่านี้มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร? เหตุใดพวกเขาจึงไม่ต้องการพระเจ้า?" คุณจะเริ่มคิดถึงชีวิตของคุณและความตายของคุณ ศาสนาของคุณก็จะเริ่มดูเหมือนไร้ค่าและไม่มีประโยชน์เลย คนที่เคยแก้ตัวและดูเหมือนคุณจะไม่ชอบข้อแก้ตัวเหล่านี้ และคุณจะเริ่มรู้สึกว่าต้องมีอะไรมากกว่าการกินอาหาร การนอนหลับ การศึกษาและการเล่น

ตอนที่พระคุณของพระเจ้าเริ่มต้นทำงานในชีวิตของคุณ คุณจะรู้สึกชีวิตที่ไม่มีพระเจ่ คุณจะเริ่มรู้สึก

“เขาอยู่ห่างจากชีวิตซึ่งมาจากพระเจ้า” (เอเฟซัส 4:18)

คุณจะเริ่มคิดว่าพระเจ้าเป็นคนแปลกหน้าให้กับคุณ และการที่คุณไม่มีพระองค์นั้น ทำให้คุณอยู่ในสภาพที่เลวร้าย

“ไม่มีที่หวัง และอยู่ในโลกปราศจากพระเจ้า” (เอเฟซัส 2:12)

แล้วผมก็อยากถามคุณว่าคุณพอใจกับชีวิตของคุณที่เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า? คุณมีความหวังน้อยมากถึงจะมาหาพระคริสต์ คุณจะดำเนินไปอย่างที่คุณเป็น - มีชีวิตไปมาและตายได้โดยที่ไม่รู้จักพระเจ้า

“คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ” (ลูกา 5:31)

หากคุณไม่เบื่อชีวิตโลกไม่มีวันที่คุณจะมาที่พระคริสต์

นั่นคือแนวโน้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนหนุ่มสาวที่คิดว่ามันเป็นสัญญาณของความอ่อนแอที่จะสนใจเกในศาสนามากเกินไป คนที่ไม่ใช่คริสเตียนแท้มักจะคิดว่าคนที่มีความสนใจอย่างมากในพระเจ้าแปลกประหลาดและไม่ปกติ

นี่ไม่ใช่คำพูดปกติ คนทั่วไปไม่พูดว่า "คนที่แต่งตัวประหลาดนั้นดูแปลกประหลาด เขาออกไปและอธิษฐานด้วยตัวเอง" พวกเขาไม่ได้บอกว่าเป็นกฎ แต่พวกเขาคิดว่ามันเป็นอย่างนั้น และเพื่อนที่ไม่ใช่คริสเตียนของคุณคิดว่า พวกเขาจะพูดสิ่งต่างๆเช่น "อย่าเคร่งศาสนามากนัก อย่ากลายเป็นคนบ้าคลั่ง" - เรื่องแบบนั้น เหตุผลนี้เป็นเรื่องธรรมดาเพราะมนุษย์อยู่ในสภาพบาป

“เพราะหาได้อยู่ใต้บังคับพระราชบัญญัติของพระเจ้าไม่ และที่จริงจะอยู่ใต้บังคับ พระราชบัญญัตินั้นไม่ได้ [ศัตรูต่อพระเจ้า]” (โรม 8:7)

ในสภาพของคนบาปอย่างมนุษย์เราเป็น

“เหตุว่าใจซึ่งปักอยู่กับเนื้อหนังนั้นก็เป็น” (เอเฟซัส 2:3)

นั่นเป็นเหตุผลที่เพื่อนและญาติพี่น้องของคุณที่ไม่ได้ความรอด ทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางไม่ให้คุณแสวงหาพระเจ้าอย่างจริงจัง พวกเขาพยายามพาคุณไปที่คริสตจักรอื่นหรือไปที่ "คริสตจักร" ของพวกเขา - เพื่อไม่ให้คุณกลับมาที่คริสตจักรแห่งนี้! ทำไม? เพราะพวกเขารู้ว่าคริสตจักร "ของพวกเขา" นั้นเย็นชาและไม่มีพระเจ้าอยู่ที่นั่น แรงจูงใจที่แท้จริงของพวกเขาคือการพยายามทำให้คุณห่างจากพระเจ้า

“เหตุว่าใจซึ่งปักอยู่กับเนื้อหนังนั้นก็เป็นศัตรูต่อพระเจ้า” (โรม 8:7)

ในสภาพของมนุษย์นั้นคือทรยศต่อพระเจ้า เมื่อพระเจ้าทรงเริ่มเรียกคุณ เพื่อนที่หลงหายและญาติของคุณจะพยายามดึงคุณกลับไปยังชีวิตเดิมและห่างจจากพระเจ้า พ่อแม่และเพื่อนที่หลงหายอาจทำสิ่งเดียวกันกับคุณ

แต่พระเยซูทรงตรัสว่า

“เราบอกความจริงอันเที่ยงแท้แก่ท่านทั้งหลายว่า เวลาที่กำหนดนั้นใกล้จะถึงแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่ตายแล้วจะได้ยินพระสุรเสียงแห่งพระบุตรของพระเจ้า และบรรดาผู้ที่ได้ยินจะมีชีวิต” (ยอห์น 5:25)

แม้ว่าคุณจะตายในฝ่ายมจิตวิญญาณไปแล้วตามเอเฟซัส 2: 1, 5 พระบุตรของพระเจ้าทรงเริ่มเรียกคุณในในขณะที่ยังอยู่ในสภาพที่ตายอยู่ "ได้ยินพระสุรเสียงของพระบุตรของพระเจ้า" เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นคุณจะไม่พอใจในการใช้ชีวิตของคุณโดยไม่มีพระเยซูพระบุตรของพระเจ้า คุณจะต้องการบางอย่างมากขึ้น จากนั้นคุณจะแสวงหาพระเยซูคริสต์ แต่ตราบใดที่คุณยังอยู่ในสถานะที่ไม่ได้รับการทรงเรียกฝ่ายจิตใจ และสภาพการตายของคุณนั้นจะยังคงพอใจกับการฝมีชีวิตอยู่และตายไปโดยไม่มีพระคริสต์ เฉพาะเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์แสดงให้คุณเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติในตัวคุณ - ว่าหัวใจของคุณไร้ผล - เฉพาะเมื่อคุณเห็นข้อบกพร่องนี้ในตัวเองเท่านั้นคุณจะสนใจในพระเยซูคริสต์

“คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ” (ลูกา 5:31)

III. สาม คนที่พึงพอใจกับจิตใจชั่ว จะไม่รู้สึกว่าต้องการพระเยซู

พระเจ้ามักจะตรัสผ่านความรู้สึกของเราก่อน ตอนที่พระวิญญาณทรงเริ่มทำงาน พระองค์ทรงทำเราให้เรารู้ว่าเป็นคนบาป

พระคัมภีร์กล่าวหลายครั้งถึงความรู้สึกถูกเปลี่ยนแปลงและกลับใจใหม่ หญิงที่จุบเท้าของพระเยซูถูกเปลี่ยนความรู้สึกนี้

“มีผู้หญิงคนหนึ่งในเมืองนั้นซึ่งเป็นหญิงชั่ว เมื่อรู้ว่าพระเยซูทรงเอนพระกายลงเสวยอยู่ในบ้านของคนฟาริสีนั้น นางจึงถือผอบน้ำมันหอม มายืนอยู่ข้างหลังใกล้พระบาทของพระองค์ เริ่มร้องไห้น้ำตาไหลชำระพระบาทและเอาผมเช็ด จุบพระบาทของพระองค์ และชโลมพระบาทด้วยน้ำมันหอมนั้น” (ลูกา 7:37-38)

หลังจากที่เธอมาหาพระองค์ไม่นานก็ได้รับความรอด

ผู้คนที่ได้ฟังอาจารย์เปาโลเทศนาในวันเพนเทคอสดังนี้

“เมื่อคนทั้งหลายได้ยินแล้วก็รู้สึกแปลบปลาบใ” (กิจการ 2:37)

นี้หมายถึงว่าพวกเขาถูก "เจาะลงไปในหัวใจ" ที่พูดถึงความรู้สึก ผู้คุมคุกในเมืองฟิลิปปิ

“มาด้วยแปลกประหลาดใจ” (กิจการ 16:29).

อาจารย์เปาโลกล่าวว่า

“โอ ข้าพเจ้าเป็นคนเข็ญใจจริง ใครจะช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากร่างกายแห่งความตายนี้ได้?” (โรม 7:24)

กรณีเหล่านี้ตามพระคัมภีร์แล้วแสดงให้เห็นว่าพระเจ้ามักจะทรงเคลื่อนไหวความรู้สึกของผู้คนเพื่อที่ผู้นั้นเบื่อใจที่ชั่วร้ายของเขา นี่คือตัวแปลหรือขั้นตอนที่สำคัญของการกลับใจใหม่ - ผู้คนมักเบื่อกับตัวเอง พวกเขามองไปที่ใจของตัวเองและพวกเขาเห็นบาปที่นั่น พวกเขาไม่ชอบสิ่งที่พวกเขาเห็นในตัวเอง พวกเขาไม่ชอบใจของตัวเอง! พวกเขาไม่พอใจกับสิ่งที่พวกเขาเป็น

นี่คือความจริงของมนุษย์ที่เป็นคนบาปอย่างคนเก็บภาษี และคนบาปเท่านั้นที่มายังพระองค์ – ในขณะที่พวกธรรมาจารย์และฟาริสีอยู่ห่างไกลจากพระองค์

“คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ” (ลูกา 5:31)

คำถามสำหรับพวกคุณในตอนเช้านี้คือ: คุณเคยไม่พอใจให้กับตัวเองหรือไม่? คุณไม่พอใจกับวิถีชีวิตของคุณหรือไม่? คุณเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากพระเจ้าหรือไม่? คุณไม่พอใจกับหัวใจของคุณเองหรือ คุณรู้สึกผิดเกี่ยวกับบาปของคุณหรือไม่? หากมีความรู้สึกไม่พอใจและเชื่อมั่นในความผิดบาปในตัวท่านเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ท่านอาจพร้อมที่จะไปหาหมอเวชศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างพระเยซู ท้ายที่สุดแล้วพระคริสต์เท่านั้นที่ทรงสามารถช่วยให้คุณรอดพ้นจากบาปได้ พระองค์ผู้เดียวที่สิ้นพระชนม์เพื่อชำระบาปของคุณ พระองค์ผู้เดียวทรงฟื้นคืนขึ้นมาจากความตายเพื่อให้คุณมีชีวิต พระองค์ผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องพระหัตถ์ขวาของพระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์อธิษฐานเผื่อคุณ คุณพร้อมที่จะมาหาพระองค์หรือยัง? คุณพร้อมที่จะรับการชำระล้างทำความสะอาดจากบาปของคุณด้วยพระโลหิตของพระองค์หรือไม่?

“คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ” (ลูกา 5:31)

หากคุณต้องการที่จะคุยกับเราเกี่ยวกับความรอดในพระคริสต์ กรุณาออกมานั่งในสองแถวข้างหน้านี้ ส่วนคนอื่นๆให้ขึ้นไปบนชั้นสองร่วมงานเลี้ยง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาออกมาอธิษฐานปิดการนมัสการ

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร.ไฮเมอร์ส ในแต่ละสัปดาห์ทางอินเทอร์เน็ทได้ที่
at www.sermonsfortheworld.com.
คลิกที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย ท่าน โนอาห์ ซอง: ลูกา 5:27-35
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดยท่าน เบนจามิน คินเคท กรี่ฟฟี่:
“I Am Amazed” (A. H. Ackley, 1887-1960).


โครงร่างของ

การเสด็จมาก็เพื่อคนบาป

DELIVERANCE IS ONLY FOR THE DISSATISFIED

เขียนบทเทศนาโดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
และเทศนาโดย ท่าน จอห์น ซามูเอล คาเกน
A sermon written by Dr. R. L. Hymers, Jr.
and preached by Mr. John Samuel Cagan

“พระเยซูตรัสตอบเขาว่า คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ เรามิได้มาเพื่อจะเรียกคนที่เห็นว่าตัวชอบธรรม แต่มาเรียกคนบาปให้กลับใจเสียใหม่” (ลูกา 5:31-32)

(ลูกา 5:28, 30; 18:9)

I.      หนึ่ง คนที่พึงพอใจกับทางคนตนเอง จะไม่ต้องการพระเยซู ลูกา 19:5-10; มัทธิว 9:12

II.    สอง คนที่พึงพอใจกับความดีคนตนเอง จะไม่ต้องการพระเยซู โรม 3:11; เอเฟซัส 4:18; 02:12;
โรม 8: 7; เอเฟโซส์ 2: 3; ยอห์น 5:25

III.  สาม คนที่พึงพอใจกับจิตใจชั่ว จะไม่รู้สึกว่าต้องการพระเยซู, ลูกา 7: 37-38; กิจการ 2:37; 16:29;
โรม 7:24