Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




ออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น

COME OUT FROM AMONG THEM!
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

บทเทศนาที่คริสตจักรแบ๊บติสต์เทเบอร์นาเคลในนคร ลอสแอนเจลิส
เช้าวันของพระเป็นเจ้า 13 ตุลาคม ค.ศ. 2016
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Evening, November 13, 2016

“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า เหตุฉะนั้นเจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย อย่าแตะต้องสิ่งซึ่งไม่สะอาด แล้วเราจึงจะรับพวกเจ้าทั้งหลาย เราจะเป็นบิดาของพวกเจ้าและพวกเจ้าจะเป็นบุตรชายบุตรสาวของเรา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทั้งสิ้นได้ตรัสดังนั้น” (2 โครินธ์ 6:17-18)


"จงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น" นั่นหมายถึงการละทิ้งผู้ที่ทำบาป นั่นคือสิ่งที่ "แยกออก" หมายความว่า "ออกมาจากในหมู่พวกเขา" คำว่าแยกออกเป็นหนึ่งในคำสอนที่สำคัญที่สุดในพระคัมภีร์ แยกออกเป็นสิ่งสำคัญเพราะคุณไม่สามารถเป็นคริสเตียนโดยโดยไม่มีการแยกออก แยกออกเป็นสิ่งสำคัญเพราะคุณไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยไม่ได้แยกออก คุณไม่สามารถมีชีวิตที่มีชัยชนะโดยไม่แยกออก แยกออกหมายถึงการไม่ถูกผูกมัดหรือเป็นเพื่อนกับคนที่ไม่เชื่อ แยกออกหมายความว่าไม่รักโลก พระคัมภีร์กล่าวว่า "ถ้าผู้ใดรักโลกความรักของ [พระเจ้า] ไม่ได้อยู่ในผู้นั้น" (ยอห์น 2:15) กล่าวอีกครั้งว่า "ผู้ใด ... จะเป็นมิตรให้กับโลกก็เป็นศัตรูของพระเจ้า" (ยากอบ 4: 4) บางคนอ้างคำตรัสของพระเยซู เพื่อแก้ไขตัวผมดังนี้ว่า "ถ้าเจ้าทั้งหลายรักกันและกัน ดังนี้แหละคนทั้งปวงก็จะรู้ได้ว่าเจ้าทั้งหลายเป็นสาวกของเรา" (ยอห์น 13:35) แต่พระองค์หมายถึงใคร? ต้องไม่ใช่คนที่ไม่เชื่อแน่นอน พระองค์กำลังตรัสถึงเหล่าสาวกให้รักซึ่งกันและกัน เช็คสเปียร์กล่าวว่า "มารสามารถอ้างอิงคัมภีร์เพื่อจุดประสงค์ของมัน" ข้อความของเรากล่าวว่า

“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เหตุฉะนั้นเจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น” (2 โครินธ์ 6:17)

ทำไมการแยกตัวออกจากเพื่อนที่หลงหายจึงสำคัญ?

I. หนึ่ง การแยกออกสำคัญ เพราะว่าถูกสอนไว้ในพระคัมภีร์

ภรรยาของโลทสูญเสียจิตวิญญาณของเธอ เพราะการไม่แยกตัวออกจากเพื่อนที่เป็นคนบาปที่อาศัยอยู่ในเมืองโสโดม พระเจ้าทรงตรัสกับโลทว่า พระองค์จะทำลายเมืองนั้น ที่ทำลายมันเพราะผู้คนที่นั่นทำบาปและฝ่ายแต่ทางโลก พระเจ้าตรัสกับโลทว่า "ลุกขึ้น เจ้าจงออกไปจากสถานที่นี้ เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงทำลายเมืองนี้” (ปฐมกาล 19:14) โลทบอกภรรยาว่าพวกเขาควรจะออกจากสถานที่เลวร้ายแห่งนี้ไป เริ่มแรกเธอก็ปฏิบัติตามสามีของเธออย่างที่เขาออก แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่ต้องการที่จะละทิ้งเพื่อน ๆ ของเธอที่ยังทำบาปอยู่ แม่ว่าเธอจะยอมติดตามสามีของเธอก็ตาม แต่ "แต่ภรรยาของเขาผู้อยู่ข้างหลังเขาเหลียวกลับไปมองดูและนางจึงกลายเป็นเสาเกลือ” (ปฐมกาล 19:26) ดร. ชาร์ลส์ ไรย์รี กล่าวว่า "ใจของเธอยังคงอยู่ในเมืองโสโดม เธอไม่ต้องการที่จะแยกตัวเองออกจากเพื่อนของเธอที่ยังทำบาปอยู่ เธอหันกลับไปมองและหันกลับไปยังเพื่อนของเธอที่หลงหายไป ขณะที่เธอหันย้อนกลับไปมองเพื่อนเหล่านั้น เธอก็กลายเป็นเสาเกลือ' "ไฟและกำมะถันที่พระเจ้าทรงประทานลงมาในเมืองโสโดมปกคลุมเธอ เธอถูกปกคลุมไปด้วยกำมะถัน พระเจ้าทรงเทกำมะถันออกทั่วร่างกายของเธอ เธอถูกห่อหุ้มด้วยเสาหลอมเหลว เธอถูกเผาทั้งเป็นเพราะเธอไม่ต้องการที่จะแยกตัวออกจากเพื่อนที่ยังทำบาปของเธอในเมืองโสโดม เธอสูญเสียจิตวิญญาณของเธอและลงไปนรก และพระเยซูตรัสว่า

“จงระลึกถึงภรรยาของโลทนั้นเถิด” (ลูกา 17:32)

ถ้าคุณละทิ้งคริสตจักรและหันกลับไปใช้ชีวิตกับเพื่อนที่ยังทำบาปของคุณ นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณด้วย คุณจะถูกทำลายด้วยไฟแห่งการพิพากษาของพระเจ้า!

“จงระลึกถึงภรรยาของโลทนั้นเถิด”

จอห์น บันยัน บรรพบุรุษแห่งแบ๊บติสของเรากล่าวในทำนองคล้ายกันว่า มีชายคนหนึ่งออกจากเมืองแห่งการทำลายล้าง เขาไม่ได้มองย้อนกลับไปในขณะที่เขาวิ่งตามหลังพระคริสต์ แม้ว่าเพื่อนสองคนของเขาที่ยังไม่ได้รับความรอดวิ่งตามหลังเขา พวกเขาบอกเขาให้หันกลับไปที่เมืองที่จะถูกการทำลายล้าง นั้น แต่เขาไม่ได้ฟังเพื่อนทั้งสอง พวกเขาบอกให้เขากลับไปหาเพื่อนที่หลงหายเหล่านั้น แต่เขาไม่ได้ทำตามเพราะเขาได้แยกตัวออกมาจากเพื่อนที่หลงหายและได้รับความรอดแล้ว (paraphrased from Pilgrim’s Progress by John Bunyan)

หากคุณเริ่มต้นมาทีคริสตจักรและต้องการที่จะได้รับความรอด สิ่งเดียวกันนี้ก็จะเกิดขึ้นกับคุณ ด้วย เพื่อนที่หลงหายและญาติๆของคุณมักจะทำสิ่งที่พวกเขาจะสามารถนำคุณกลับไป กลับไปกับพวกเขาเพื่อใช้ชีวิตในบาป เพื่อนของบันยันกล่าวว่า "คุณจะทิ้งเพื่อนทางโลกทุกคนใช่หรือไม่?" "ใช่" บันยัน "ใช่ฉันจะทิ้งพวกเขาทั้งหมดเพราะเป็นวิธีเดียวที่ฉันสามารถแสวงหาความรอดในพระคริสต์" นี่คือความจริงให้กับภรรยาของโลท เธอเดินกลับไปยังเพื่อนของเธอที่ยังอยู่ในบาปแล้วชีวิตจึงถูกเผาอยู่ในกองไฟแห่งการพิพากษาของพระเจ้า นี่เป็นจริงในยุคของบันยันด้วย และยังคงเป็นจริงให้กับทุกวันนี้! แยกตัวออกจากเพื่อนที่ยังทำบาปเป็นวิธีเดียวที่คุณจะได้รับความรอด จงหนีออกจากเพื่อนบาปของคุณในตอนที่พวกเขาพยายามหยุดคุณไม่ให้มาคริสตจักร ปล่อยพวกเขาให้อยู่ข้างหลังและมาที่พระเยซู นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะเป็นคริสเตียนที่แท้จริงได้

“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า เหตุฉะนั้นเจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย...และ [เรา] จะเป็นบิดาของพวกเจ้าและพวกเจ้าจะเป็นบุตรชายบุตรสาวของเรา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทั้งสิ้นได้ตรัสดังนั้น” (2 โครินธ์ 6:17-18)

ออกจากพวกเขา! การแยกออกเป็นสิ่งจำเป็น คุณต้องละทิ้งเพื่อนที่ยังอยู่ในบาป ถ้าคุณต้องการที่จะได้รับความรอดโดยพระเยซูเพื่อหลุดพ้นจากบาปและนรก คุณต้องออกจากญาติที่ยังทำบาปและเพื่อน ๆ ที่หลงหาย หากคุณต้องการรับความรอดจากบาปโดยพระเยซูอย่างแท้จริง พระคัมภีร์กล่าวว่า

“ท่านทั้งหลายอย่าเข้าเทียมแอกอันไม่เท่าเทียมกันร่วมกับคนที่ไม่เชื่อ เพราะว่าความชอบธรรมจะมีมิตรภาพอะไรกับความอธรรม และความสว่างจะมีส่วนร่วมกับความมืดได้อย่างไร?” (2 โครินธ์ 6:14)

ดร. จอห์น อาไรซ์ ให้ความคิดเห็นข้อนี้ เขากล่าวว่า

หนึ่งในหลักคำสอนง่าย ๆ ของพระคัมภีร์คือหลักคำสอนเกี่ยวกับการแยกตัวของคริสเตียน มันเป็นหนึ่งสอนทืพระเจ้าทรงสอนเน้นทุกวัน ซ้ำ ๆ ให้กับชาวยิว ... เมื่อเกษตรกรชาวฮิบรูมีทีมงานของเขาเขาเอง เขาพูดให้กับตัวเองว่า "พระเจ้าทรงสั่งไม่ให้ข้าพระองค์ไถกับร่วมกับทีมผสมอื่นๆ ข้าอาจจะไถด้วยวัวสองตัวหรือลาสองตัวได้ แต่ข้าไม่สามารถผสมพวกมันให้เข้าด้วยกันได้ ข้าไม่สามารถผสมพวกมันได้ พราะพระเจ้าต้องการให้ข้าฯจำไว้ว่า ข้าฯไม่อาจอยู่ร่วมได้กับผู้ที่ไม่ใช่คนของพระเจ้า” (Dr. John R. Rice, The Unequal Yoke, Sword of the Lord, 1946, pp. 4-5)

การแยกตัวออกจากมิตรภาพกับบรรดาผู้ไม่เชื่อเป็นหลักคำสอนในพระคัมภีร์

“ท่านทั้งหลายอย่าเข้าเทียมแอกอันไม่เท่าเทียมกันร่วมกับคนที่ไม่เชื่อ เพราะว่าความชอบธรรมจะมีมิตรภาพอะไรกับความอธรรม และความสว่างจะมีส่วนร่วมกับความมืดได้อย่างไร?” (2 โครินธ์ 6:14)

II. สอง การแยกตัวออกคือการหลีกหนีออกจากการคบเพื่อนทางโลก และเข้ามาสามัคคีธรรมในคริสตจักรท้องถิ่น

ฟังพระเยซูตรัสใน จอห์น 15:19 พระองค์ตรัสว่า

“ถ้าท่านทั้งหลายเป็นของโลก โลกก็จะรักท่านซึ่งเป็นของโลก แต่เพราะท่านไม่ใช่ของโลก แต่เราได้เลือกท่านออกจากโลก เหตุฉะนั้นโลกจึงเกลียดชังท่าน” (ยอห์น 15:19)

มุ่งเน้นไปที่คำเหล่านั้น "เราได้เลือกเจ้าออกจากโลกแล้ว" พูดคำเหล่านั้นออกเสียงดัง ๆ ว่า "เราได้เลือกเจ้าออกจากโลกแล้ว"

จอห์น 17: 6 พระเยซูตรัสว่านั้นอีกครั้ง

““ถ้าท่านทั้งหลายเป็นของโลก โลกก็จะรักท่านซึ่งเป็นของโลก แต่เพราะท่านไม่ใช่ของโลก…”

ภาษากรีกแปลคำว่า “โลก” ในพระธรรมสองข้อนี้เป็นการอ้างถึงคนที่หลงหาย พระเยซูตรัสว่า

“เราได้เลือกท่านออกจากโลก” (ยอห์น 15:19)

นี่หมายถึงการแยกออก เราถูกเลือกแยก “ออกมาจากโลก”

ภาษากรีกแปลคำว่า "คริสตจักร" ในพันธสัญญาใหม่คือ "Ekklesia" หมายความว่า "คนที่ถูกเรียกออกมา" คำว่า “ek" ออกจาก และ "kaleo" เรียก (Vine) ดังนั้นคำว่า "คริสตจักร" หมายถึง "ผู้ที่ถูกเรียกออกมา" (Scofield, หมายเหตุอ้างจากมัทธิว 16:18)

ลองฟังกิจการ 2:47 ที่นี่เรามีรายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้นในคริสตจักรท้องถิ่นในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งบอกว่า

“คนทั้งปวงที่ได้ยินก็ประหลาดใจในสติปัญญาและคำตอบของพระกุมารนั้น” (กิจการ 2:47)

พระคริสต์ตรัสว่า

“เราได้เลือกท่านออกจากโลก” (ยอห์น 15:19)

ในฉบับภาษาอังกฤษสมัยนี้พูดชัดเจนมาก

“ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดให้ผู้ที่กำลังจะรอด เข้าสมทบกับคริสตจักร [ถูกเลือกออก] ทวีขึ้นทุก ๆ วัน” (กิจการ 2:47)

ดังนั้นเราจึงถูกเรียกออกมาจากโลกและเข้ามาในคริสตจักร

“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เหตุฉะนั้นเจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย…” (2 โครินธ์ 6:17)

การแยกตัวออกตามพระคัมภีร์คือการหลีกหนีออกจากการคบหากับคนที่อยู่ฝ่ายโลก การแยกออกคือนำคุณเข้าสู่การคบหากับผู้เชื่อในคริสตจักรท้องถิ่น คุณทิ้งโลกให้อยู่ข้างหลังและคุณก็แสวงหาเพื่อนในคริสตจักร

III. สาม การแยกออกเป็นเรื่องของจิตใจ

กรุณาเปิดไปที่พระธรรมยากอบ 4:4 ในหน้า 1309 ในพระคัมภีร์ฉบับ Scofield Study Bible กรุณายืนขึ้นและอ่านออกเสียงดังๆ

“ท่านทั้งหลายผู้ล่วงประเวณีชายหญิงเอ๋ย ท่านไม่รู้หรือว่า การเป็นมิตรกับโลกนั้นคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้า เหตุฉะนั้นผู้ใดใคร่เป็นมิตรกับโลก ผู้นั้นก็เป็นศัตรูของพระเจ้า” (ยากอบ 4:4)

นั่นคือคำสั่งที่ชัดเจน! “เหตุฉะนั้นผู้ใดใคร่เป็นมิตรกับโลก ผู้นั้นก็เป็นศัตรูของพระเจ้า” พวกคุณนั่งลงได้

พระเยซูทรงรักผู้ที่หลงหาย พระองค์ทรงรับประทานด้วยกันกับคนบาป แต่เพื่อนสนิทของพระองค์เป็นพวกสาวก และมารีย์และมาร์ธาและลาซารัส เพื่อน ๆ ของพระองค์ล้วนเป็นคริสเตียนที่แท้จริง - และพระองค์ทรงเรียกคุณให้ติดตามพระองค์ด้วย ให้แน่ใจว่าเพื่อนสนิทของคุณทั้งหมดเป็นคริสเตียนที่แท้จริง! จงทิ้งเพื่อน ๆ ทุกคนที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนที่แท้จริง นั่นคือสิ่งที่พระคัมภีร์สอนเอาไว้!

“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เหตุฉะนั้นเจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย อย่าแตะต้องสิ่งซึ่งไม่สะอาด แล้วเราจึงจะรับพวกเจ้าทั้งหลาย เราจะเป็นบิดาของพวกเจ้าและพวกเจ้าจะเป็นบุตรชายบุตรสาวของเรา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทั้งสิ้นได้ตรัสดังนั้น” (2 โครินธ์ 6:17-18)

อัลเบิร์น บาร์นส์ได้ให้ข้อสังเกตเหล่านี้ขึ้นอยู่กับคำพูดในพระคัมภีร์ เขาพูดว่า

      พวกเขาผู้ที่ [ต้องการที่จะเป็นคริสเตียน] ควรแก้ไขปัญหาโดยการแยกตัวเองออกจากโลก [ศาสนาคริสต์] ไม่สามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีการแยกออก และพวกที่ไม่ยอมที่จะละทิ้งเพื่อน [ไม่เชื่อ] ... และหาเพื่อนและในหมู่ที่เป็นคนของพระเจ้า [ไม่สามารถกลายเป็นคริสเตียนที่แท้จริงได้] ... มันมีเส้นแบ่งระหว่างเพื่อนของพระเจ้าและเพื่อนที่เป็นคนบาป ... ในขณะที่เราไม่ควรอยู่ร่วมกับพวกเขาและเป็นเพื่อนบ้านให้คนเหล่านั้น ... จนกว่าเพื่อนของเราเหล่านั้นมาเป็นเพื่อนมาอยู่กับคนของพระเจ้า สำหรับเพื่อนของพระเจ้าควรจะเป็นเพื่อนของเราด้วย และความสุขของเราควรจะอยู่กับพวกเขาด้วยและโลกจะได้เห็นว่าเราต้องการเพื่อนของ [พระคริสต์] และไม่เข้าร่วมเพื่อนที่ยังทำบาป (Albert Barnes, Notes on the New Testament, II Corinthians, Baker Book House, 1985 reprint, p. 162)

โลกนี้รู้ว่าเราไม่ชอบในสิ่งที่พวกเขาชอบ!

บาร์เนสบอกพวกเราว่า “เราต้องแก้ไขโดยแยกตัวออกจากโลก...และพบเพื่อนแท้ของเราและพอใจกับคนของพระเจ้า (เล่มเดียวกัน)

จอห์น บันยัน กล่าวว่านี่คือผู้ที่พยายามที่จะดึงคุณกลับจากการแสวงหาความรอด ท่านกล่าวว่า

“คุณอาศัยอยู่ในเมืองแห่งการทำลายล้าง ... และทุกคนที่เสียชีวิตที่นั่น จะตกอยู่ใรหลุมฝังศพและเข้าไปในสถานที่ๆถูกเผาไหม้ด้วยไฟและกำมะถัน จะเชื่อและมาที่พระเยซูคริสต์กับเรา" "อะไร!" อุทานว่า [คนที่ติดตามพระองค์] "และละทิ้งเพื่อน ๆ ของเราทุกคนและความสะดวกสบายให้อยู่เบื้องหลัง" "ใช่" กล่าวว่า [คนที่กำลังมองหาพระคริสต์] "สำหรับทุกสิ่งที่คุณ [ละทิ้ง] ไม่มีค่าถ้าจะนำมาเปรียบเทียบกับ ... สิ่งที่เราแสวงหา ... สำหรับเราแสวงหาพระคริสต์ - ไม่ใช่บาป" (John Bunyan, Pilgrim’s Progress in Today’s English, retold by James H. Thomas, Moody Press, 1964, pp. 13-14)

คุณถูกเรียกออกมาจากโลกมาที่พระคริสต์ คนที่ไม่ยอมที่จะหยุดมองหาเพื่อนและความสะดวกสบายในโลกจะไม่มีทางมาที่พระเยซูคริสต์ได้ คุณไม่สามารถเดินทางโลกและทางของพระคริสต์ในเวลาเดียวกัน! "คนสองใจเป็นคนไม่มั่นคงในบรรดาทางทั้งหลายที่ตนประพฤตินั้น" (ยากอบ 1: 8) “คนสองใจ" จะไม่มาที่พระคริสต์!

“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เหตุฉะนั้นเจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย … เราจะเป็นบิดาของพวกเจ้าและพวกเจ้าจะเป็นบุตรชายบุตรสาวของเรา’…” (2 โครินธ์ 6:17-18)

พระคริสต์ทรงวิงวอนให้พวกท่านหยุดวางใจโลกนี้ และมาวางใจพระองค์แทน เหมือนอย่างบทเพลงนมัสการเก่าๆบอกว่า

“พระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่า” มอบใจของเจ้าให้เรา
   ทรงเรียกด้วยความรักและเมตตา
พระคุณและความรักของพระองค์มีมากมาย
   เราไม่ได้สิ้นพระชนม์ให้เจ้าหรือ? มอบใจของเจ้าให้เรา
“มอบใจของเจ้าให้เรา มอบใจของเจ้าให้เรา”
   เรียกร้องด้วยเสียงอันนุ่มนวมและอ่อนหวาน
พระองค์จะนำเจ้าออกจากความมืด
   เสียงเรียกนั้นว่า ”มอบใจของเจ้าให้เรา”
(“Give Me Thy Heart,” Eliza E. Hewitt, 1851-1920)

ตอน จอห์น คาเกน ยังเป็นวัยรุ่นอยู่นั้น เขาไปมีเพื่อนในคริสตจักรที่ไม่ยอมเชื่อในพระเจ้า เด็กเหล่านั้นมาที่คริสตจักร แต่ชอบหัวเราะเยาะเวลาผมเทศนา พวกเขาพูดตลกลามก พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเพศและยาเสพติดเช่นกัญชา แต่ จอห์น คาเกน เริ่มที่จะเห็นความบาปของตัวเอง พระเจ้าทรงทำให้เขารับรู้ในบาปและกลับใจใหม่ เขารู้สึกว่าบาปของเขาดึงเขาลงไปในนรก ในที่สุดจอห์นหันหลังให้กับเพื่อนเลวเหล่านั้น เขาออกจากพวกเขาและมอบใจให้กับพระคริสต์ เขามาเป็นเพื่อนให้กับคนหนุ่มสาวดีๆที่เป็นผู้เชื่อในคริสตจักรของเรา ไม่ช้าเขาก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ส่วนตอนนี้คนเลวที่ชอบหัวเราะเยาะผมกลับห่างหายไปจากคริสตจักรของเราเกือบทั้งหมด แต่จอห์น คเกน เชื่อในพระคริสต์และได้รับความรอด ไม่เพียงแค่รอดเท่านั้น - แต่ตอนนี้เขากำลังจะไปเรียนทืพระคริสตธรรมและเพื่อเป็นผู้รับใช้ ตอนจอห์นเทศนาคุณสามารถรู้สึกได้เลยว่าใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังบาปและรักพระเยซูมากๆ เขาทิ้งเพื่อนที่ไม่ดีออกไป และมอบใจของเขาให้กับพระคริสต์แต่เพียงผู้เดียว ผมมีความภูมิใจที่จะบอกว่าจอห์น คาเกน ตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง วันศุกร์ที่ผ่าน จอห์นและจูลี่ ซิววีเลย์ ไปทานอาหารค่ำกับครอบครัวของผมและฉลองวันเกิดลูกชายของผม ตอนที่เด็วเลวดหล่านั้นจากไป พระเจ้าประทานเพื่อนใหม่ให้จอห์น อย่างเช่นอาโรน ยินซี แจ็ค แกน โนอาห์ ซอง และนักเทศน์แก่ๆ เราทุกคนมีความภาคภูมิใจที่มีจอห์น คาเกน เป็นเพื่อนของเราเพราะตอนนี้เขาเป็นเพื่อนของพระคริสต์ด้วย – และไม่คบุพื่อนเลว "ผู้เชื่อที่หไม่ยอมเชื่อพระเจ้า" เขามาทืพระเยซูคริสต์ เขามาที่พวกเรา เราดีใจที่สักวันหนึ่งเขาจะมาเป็นศิษยาภิบาลในคริสตจักรของเรา เขาจะมาเป็นนักเทศน์ส่วนเพื่อนเลวเหล่านั้นจะลงนรบและถูกเผาไหม้

คุณจะออกจากเพื่อนทืทำบาปเหล่านั้นหรือไม่? คุณจะวางใจพระเยซู พระบุตรของพระเจ้าหรือไม่? คุณจะมาที่พระองค์ และรับการชำระล้างบาปโดยพระโลหิตของพระองค์หรือไม่? จอห์น คาเกน และพ่อของเขาและตัวผมเองอยากจะคุยกับคุณ กรุณาออกมาที่ธรรมมาส์นี้ในขณะที่ ท่าน กรี่ฟฟี่กำลังร้องเพลง “มอบใจของเจ้าให้เรา” ออกมาในขณะที่เขาร้องเพลง

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร.ไฮเมอร์ส ในแต่ละสัปดาห์ทางอินเทอร์เน็ทได้ที่
at www.sermonsfortheworld.com.
คลิกที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดยท่าน โนอาห์ ซอง: 2 โครินธ์ 6:14-18
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดยท่าน เบนจามิน คินเคท กรี่ฟฟี่:
            “Give Me Thy Heart” (Eliza E. Hewitt, 1851-1920).


โครงร่างของ

ออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น

COME OUT FROM AMONG THEM!

โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า เหตุฉะนั้นเจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย อย่าแตะต้องสิ่งซึ่งไม่สะอาด แล้วเราจึงจะรับพวกเจ้าทั้งหลาย เราจะเป็นบิดาของพวกเจ้าและพวกเจ้าจะเป็นบุตรชายบุตรสาวของเรา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทั้งสิ้นได้ตรัสดังนั้น” (2 โครินธ์ 6:17-18).

(1 จอห์น 2:15; ยากอบ 4:4; จอห์น 13:35)

I.   หนึ่ง การแยกออกสำคัญ เพราะว่าถูกสอนไว้ในพระคัมภีร์, ปฐมกาล 19:14, 26; ลูกา 17:32;
2 โครินธ์ 6:14.

II.  สอง การแยกตัวออกคือการหลีกหนีออกจากการคบเพื่อนทางโลก และเข้ามาสามัคคีธรรมในคริสตจักรท้องถิ่น ยอห์น 15:19; ยอห์น 17:6; กิจการ 2:47.

III. สาม การแยกออกเป็นเรื่องของจิตใจ ยากอบ 4:4; 1:8