เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
นำ พวกเขาออกจากบาปมาข้างใน!BRING THEM IN FROM THE FIELDS OF SIN! โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์ บทเทศนาที่คริสตจักรแบ๊บติสต์ในนครลอสแอนเจลิส “จงออกไปตามทางใหญ่และรั้วต้นไม้ทั้งหลาย และเร่งเร้าเขาให้เข้ามาเพื่อเรือนของเราจะเต็ม” (ลูกา 14:23) |
หลายปีที่ผมไม่ทราบวิธีที่จะนำ ดวงวิญญาณ ผมไม่รู้วิธีการนำคนมารับเชื่อและเข้าไปในโบสถ์ ผมพยายามเกือบทุกวิธีการที่เป็นไปได้ ผมพยายามเดินไปตามที่ผู้ชอบเดินและประกาศไปด้วย แต่กระนั้นก็ตามผมก็ไม่สามารถนำ ใครสักคนมายังคริสตจักร ผมประกาศตามท้องถนน แตไม่สามารถนำ ใครสักคนมายังคริสตจักร ผมออกไปตามท้องถนนหรือไปเคาะประตูบ้านของพวกเขา แต่ทางนี้ก็ไม่ได้ผลเช่นกัน พวกเขาอาจท่องตามบทอธิษฐานเพื่อความรอด แต่พวกเขาจะไม่ยอมมาคริสตจักร ผมพยายาม "ติดตาม" พวกเขาหลังจากที่พวกเขาได้อธิษฐานตามนั้นแล้ว แต่การ "ติดตาม" นี้ก็ไม่อาจที่จะพาคนเหล่านั้นได้ แต่ผมก็ไม่ลดละความพยายาม เพราะผมรู้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีคนที่หายกลับใจใหม่และเข้าไปคริสตจักร นั่นคือตอนที่ผมอ่านข้อพระธรรมของเรา ผมอ่านก่อนและก็มาพบความจริง และตอนนั้นการประกาศของเราจึงได้เร่ิ่มขึ้น คำ ตรัสของพระเยซูคือวิธีการของการประกาศ “จงออกไปตามทางใหญ่และรั้วต้นไม้ทั้งหลาย และเร่งเร้าเขาให้เข้ามาเพื่อเรือนของเราจะเต็ม” แทนที่จะไปหาผู้คนและให้พวกเขากล่าวตาม "คำอธิษฐานของคนบาป" - แล้วพยายามนำ พวกเขาไปที่คริสตจักร เราทำสิ่งใหม่ และเราสามารถนำ พวกเขามาที่คริสตจักร ก่อนที่เราจะนำพวกเขามารับความรอด และทางนี้ได้ผล! ตอนนี้เรากำลังทำสิ่งที่พระเยซทรงตรัสเอาไว้ เราต้องนำ "พวกเขาให้เข้ามาข้างใน" ก่อนที่พวกเขาจะมารับฟังพระกิตติคุณตามที่ผมเทศนา หลายคนที่ไม่ได้เข้ามาคริสตจักร แต่บางคนมา และบางคนได้ยินผมเทศนาและได้รับความรอด แต่พวกเขาถูกบังคับให้เข้ามาและมามีเพื่อนในคริสตจักร แล้วพวกเขาเป็นก็จะกลายเป็นคนที่มาโบสถ์ตามปกติ ก่อนที่พวกเขาจะพบกับพระเยซู ตามที่ผมเคยพูด ไม่ใช่ทุกคนที่เราเชิญจะเข้ามาในคริสตจักร คำอุปมาของพระเยซูบอกเราว่าคนส่วนใหญ่จะไม่มา ในข้อ 18 กล่าวว่า "พวกเขาทั้งหมดทเริ่มที่จะหาข้อแก้ตัว" ที่จะไม่มา คนส่วนใหญ่จะไม่มาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เรา "บังคับ" พวกเขาให้เข้ามาในคริสตจักรของเรา แต่เพียงไม่กี่คนที่จะเข้ามาจริงๆ เราขอพวกเขาว่า "เข้ามาข้างใน" เข้าไปไหน? แน่นอนเข้ามาในคริสตจักร! ตามคำอุปมานี้พวกเขาจะ "มา" ที่ไหนอีก? แต่มีเพียงส่วนน้อยที่เข้ามาในโบสถ์อย่างจริงๆ พวกเขาได้ยินพระกิตตคุณที่มีพลังอำ นาจ พวกเขาอยู่ร่วมรับประทาน "อาหารมื้อเย็นี" กับเรา - ในข้อที่ 16 กล่าวว่า พวกเขาจะรับประทานอาหารกับเรา - ตามด้วยงานเลี้ยงวันเกิดสั้น ๆ ที่จัดขึ้นโดยสมาชิกของเรา พวกเขาจะมีช่วงเวลาที่ดีกับเราในงานปาร์ตี้! จากนั้นเราจะเชิญพวกเขาให้กลับมาในวันอาทิตย์ถัดไป หลายคนที่เข้ามาจะไม่กลับมาอีก แต่บางคนก็กลับมา และจากนั้นเราจะประกาศพระกิตติคุณให้คนเหล่านั้นครั้งแล้วครั้งเล่าหลังนมัสการ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็จะเริ่มที่จะเข้าใจพระกิตติคุณ หลังจากน้ั้นไปบางคนจะเริ่มเชื่อเรี่องบาป และบางคนก็จะไว้วางใจพระเยซูและรับความรอด วในพวกคุณมีสักกี่คนที่เข้ามาคริสตจักรของเราด้วยวิธีการนี้? แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้กลับใจใหม่ มีสักกี่คนที่มาในวิธีเดียวกันนี้? โปรดยืน (พวกเขายืน) คุณเห็นหรือยัง? คนส่วนใหญ่ในคริสตจักรของเรามาทางนั้น! คุณเข้ามาในคริสตจักรของเราเพราะเราเชื่อพระคริสต์ พระองค์ทรงตรัสว่า “จงออกไปตามทางใหญ่และรั้วต้นไม้ทั้งหลาย และเร่งเร้าเขาให้เข้ามาเพื่อเรือนของเราจะเต็ม” นำพวกเขาเข้ามา หรือ “Bring Them In” – ร้องท่อนรับพร้อมกับผม! นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน เราทำ ตามวิธีการประกาศของพระคริสต์ และเรียนรู้วิธีการอื่นด้วย เราได้เรียนรู้ที่จะเลือกคนที่จะนำมา ตอนแรกเรานำทุกคน แต่คริสตจักรของเราอยู่ในตัวเมือง ท่ามกลางของเมืองลอสแอเจลิส มีคนมากมายที่นี่มีฐานะที่ยากจน บางคนติดยาเสพติด เราไม่สามารถช่วยพวกเขาอะไรมาก บางคนเป็นคนแก่และเดินอยู่ในทางของตัวเอง เราไม่สามารถช่วยพวกเขาได้เช่นกัน ในวันของพระเยซูนั้น พระองค์ทรงสั่งให้นำ "คนพิการและคนง่อยและคนตาบอด" (ข้อ 21) แต่คนเหล่านั้นที่มีชีวิตในยุคของพระเยซูมีอารยะธรรมมและเอาจริงเอาจังมากกว่าคนในทุกวันนี้ คุณสามารถนำคนเช่นนั้นมาคริสตจักรและพวกเขาจะไม่ทำสิ่งที่บ้าๆ แต่หลายคนในวันนี้เป็นคนหัวแข็งยากต่อการนำเข้ามาในคริสตจักร ดังนั้นพระเยซูเองทรงบอกว่าให้เลือก พระเยซูตรัสให้กับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “อย่าไปทางที่ไปสู่พวกต่างชาติ และอย่าเข้าไปในเมืองของชาวสะมาเรีย แต่ว่าจงไปหาแกะหลงของวงศ์วานอิสราเอลดีกว่า” (มัทธิว 10:5, 6) ต่อมาพระองค์ทรงบอกพวกเขาให้เลือกมากขึ้น พระเยซูทรงบอกพวกเขาว่าอย่าประกาศข่าวประเสริฐให้แก่คนบางคนและแม้กระทั่งคนทั้งเมือง “เมื่อจะออกจากเรือนนั้นเมืองนั้น จงสะบัดผงคลีที่ติดเท้าของท่านออกเสีย เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ในวันพิพากษานั้น โทษของเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ จะเบากว่าโทษของเมืองนั้น” (มัทธิว 10:14, 15) พระเยซูคริสต์ทรงเลือกและพวกเราเองก็ต้องเลือก บางคนบอกว่า "ถ้าคุณพยายามที่จะนำ ทุกคนมาเชื่อ สุดท้ายคุณจะไม่ได้ใครเลย" เราพบว่าคนหนุ่มสาวจากวิทยาลัยอายุประมาณ 16-24 คือช่วงโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเราที่จะประกาศด้วยวิธีการของเรา คริสตจักรของเราถูกสร้างขึ้นด้วยคนในกลุ่มอายุนี้ นอกจากนี้เรายังได้พบว่าคนหนุ่มสาวชาวจีนที่เป็นนักศึกษานั้นง่ายต่อการประกาศมากกว่าคนอื่น ๆ แต่เราจะประกาศให้คนอื่น ๆด้วย ขณะนี้มีมากกว่า 20 กลุ่มชาติพันธุ์ในคริสตจักรของเรา แต่ความสามัคคีของคริสตจักรของเราอยู่ในความจริงที่ว่าพวกเขา (หรือเป็น) นักศึกษา พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นนักศึกษา แต่เป็นคนหนุ่มสาวที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เราเรียกพวกเขาว่า "กลุ่มเป้าหมาย" เรามุ่งเน้นการประกาศให้พวกเขา เราได้เพิ่มประมาณ 50 คนที่เป็นวัยหนุ่มสาวมาที่คริสตจักรของเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “จงออกไปตามทางใหญ่และรั้วต้นไม้ทั้งหลาย และเร่งเร้าเขาให้เข้ามาเพื่อเรือนของเราจะเต็ม” เราร้องท่อนรับด้วยกัน! นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน ผมได้ยินพวกอีเวนเจลิคอล์บอกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะนำคนมารับเชื่อในทุกวันนี้ พวกเขาบอกว่ายากขึ้นทุกปี พวกเขาบอกว่าเรากำลังอยู่ในยุคท้าย ทำให้ยากมากที่จะนำ จิตวิญญาณจากทั่วโลกมารับเชื่อได้ ยังมีคนบอกเราว่าไม่มีใครหรอกที่จะยอมให้หมายเลขโทรศัพท์ของพวกเขาให้กับคนแปลกหน้าที่พบในมหาวิทยาลัยวิทยาลัยหรือในห้างสรรพสินค้า แต่ทฤษฎีของพวกเขาไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง พวกเขาไม่ได้สัมผัสอย่างที่เรามี เรารู้จากประสบการณ์ว่ามีคนหนุ่มสาวที่ยอมให้ชื่อของพวกเขาและหมายเลขโทรศัพท์และเป็นเพื่อนที่ดีในมหาวิทยาลัยวิทยาลัย พวกเขาทำอย่างนั้นทุกสัปดาห์ ผม่คิดว่าพวกเขาคงไม่ทำอย่างนั้นประมาณยี่สิบปีที่ผ่านมาและนั่นคือความคิดของนักเทศน์ว่าใช้ไม่ได้ผล พวกเขาไม่ได้ตระหนักว่าเราได้เข้าสู่ยุคใหม่ที่มีการสนทนามากมายและอย่างเช่น Facebook และอื่นๆอีกมากมาย คนหนุ่มสาว “ยุคสมัยนี้" ต่างก็มีหมายเลขโทรศัพท์เป็นของพวกเขาและพร้อมที่จะให้กับคนแปลกหน้า หลายร้อยคนทำอย่างนั้นผ่านทางคริสตจักรของเราในทุกสัปดาห์ คุณต้องมุ่งเป้าไปให้กับคนหนุ่มสาวตามมหาวิทยาลัยเพราะคนที่มีอายุสูงจะไม่ยอมให้เบอร์โทรศัพท์ให้กับคนอื่น นักเทศน์หลายคนคิดว่าใช้ไม่ได้ผล ดังนั้นสำหรับพวกเขางานประกาศจึงเป็นส่ิงที่ยาก แต่พวกเขาผิด พระเยซูตรัสว่า “เงยหน้าขึ้นดูนาเถิด ว่าทุ่งนาก็ขาว ถึงเวลาเกี่ยวแล้ว” ตามวิทยาลัยและห้างสรรพสินค้าและถนนเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาว แต่เราต้องไปพบพวกเขา เราต้องบอกให้พวกเขาเข้าใจ ในเมืองก็เต็มไปด้วยพวกเขา การเก็บเกี่ยวนั้นดีเสมอ มีนักศึกษาใหม่เข้ามาในแต่ละภาคการศึกษา พระเยซูตรัสว่า “การเก็บเกี่ยวนั้นเป็นการใหญ่นักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่ เหตุฉะนั้น พวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของการเก็บเกี่ยวนั้น ให้ส่งคนงานมาในการเก็บเกี่ยวของพระองค์”(มัทธิว 9:37, 38) ร้องเพลงนี้อีกครั้ง! นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน นี้ไม่ได้เป็นงานง่าย ผมตกใจเมื่อผมพบว่าเรามีคนที่ไปประกาศและนำมารายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์มาน้อยมาก บางคนรายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์เดียวก็ไม่มี นี่คือส่ิงที่ทำให้ผมกลุ้มใจ ความจริงก็คือว่าทุ่งแห่งการเก็บเกี่ยวที่เป็นคนหนุ่มสาวนั้นมีอยู่เต็มไปหมด พระเยซูทรงตรัสว่าเราควรจะอธิษฐานขอพระเจ้าทรง "ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยว" พวกคุณบางคนกำลังจะออกไปประกาศ แต่คุณกลับนำรายชื่อมาไม่ได้มาก คุณนำชื่อได้ไม่มากเพราะคุณไม่ใช่ "คนงาน" ที่จะนำรายชื่อ หนุ่มสาวที่หลงหายไปนั้นมีเป็นร้อย แต่คุณไม่ได้ "ทำงานหนัก" ที่จะนำรายชื่อของพวกเขา! คำ ว่าคนงานแปลว่า "ลูกจ้าง" อาจจะแปลว่า "คนงาน" เมื่อคุณออกไปประกาศข่าวประเสริฐ คุณต้องทำงานหนัก! คุณจะทำงานอย่างหนักหรือคุณจะไม่สามารถนำรายชื่อมาได้เลย คุณต้องทำงานอย่างหนักเพื่อนำรายชื่อและหมายเลขโทรศัพทมาให้มาก ผมขออธิษฐานว่าคุณจะทำงานหนักในสัปดาห์ถัดไป! อย่าขี้เกียจ! อย่าฟุ้งซ่าน! อย่ายืนรอและเพราะวันเวลากำลังจะผ่านไป! คุณต้องทำงานหนักเพื่อให้ไดรายชื่อของพวกเขามามากๆ! “จงออกไปตามทางใหญ่และรั้วต้นไม้ทั้งหลาย และเร่งเร้าเขาให้เข้ามาเพื่อเรือนของเราจะเต็ม” ร้องเพลงนี้! นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน วันอาทิตย์ที่ผ่านมา โนอาห์ ซอง เทศนาได้ดีมากๆ แม้ว่านั่นเป็นการเทศนาครั้งที่สองของเขาเท่านั้นม แต่มีประสิทธิภาพมาก! โนอาห์ ซอง บอกว่า ปัญหาใหญ่ที่คนหนุ่มสาวในทุกวันนี้มีคือความเหงา ผมรู้ว่านี่เป็นความจริง! คุณสามารถอยู่ในฝูงชนที่มีคนมากมาย แต่คุณไม่อาจรู้นิสัยที่แท้จริงของคนๆนั้น คุณสามารถนัดหมายกับใครบางคน แต่ไม่นาน คุณสามารถตกหลุมรักใครบางคน แต่อยูุไม่นาน คุณสามารถเดินผ่านห้างสรรพสินค้า แต่ไม่มีใครรู้จักคุณหรือสนใจในตัวคุณ คุณสามารถเข้าไปที่ Facebook หรือสนทนาทางนั้น - แต่คุณรู้ดีว่าคนที่คุณติดต่อในพูดคุยนั้นไม่เคยห่วงใยในตัวคุณ พวกเขาเป็นเพียงเพื่อนไซเบอร์ - ไม่ได้เป็นเพื่อนจริง คำตอบคืออะไร? คำตอบคอยู่ที่นี่ ในแบ๊บติสเทเบอร์นาเคล "ใหม่" แห่งนี้! (Noah Song, “God Hates Loneliness!”). ใช่โนอาห์กล่าวถูกต้อง! เด็กในวันนี้เงียบเหงา ไม่ใช่เป็นเพียงบางคนเท่านั้น พวกเขาทั้งหมดพบกับกับความเหงา จงไปหาพวกเขา ยิ้มและพูดกับพวกว่า "สวัสดี" ไม่ต้องกลัว! จอห์น คาเกน บอกผมว่า "เราทในส่ิ่งที่พวกเขาขอบโดยชวนให้เข้ามาในคริสตจักรของเรา" เขากล่าวถูกต้อง! เรากำลังทำในส่ิ่งที่คนเหล่านั้นสนใจมากๆ เพราะเราจะนำเสนอสิ่งที่พวกเขาต้องการ สิ่งที่พวกเขาต้องการนั้นคือรักษาความเหงาของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น สิ่งที่พวกเขาต้องการคือพบสันติสุขในพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์! คุณโปรดอย่าคุยกับพวกเขาเหมือนเช่นพนักงานขายเช่นเดียวกับพนักงานขายที่พยายามที่จะรับบางสิ่งจากพวกเขา ไม่! ไม่! คุณไม่ได้เป็นพนักงานขาย! คุณไปที่นั่นเพื่อประกาศ ไม่ใช่ต้องการอะไรบางอย่างจากพวกเขา! ไม่ได้ที่จะหลอกลวงพวกเขา! จะไม่ขายในส่ิ่งที่พวกเขาไม่จำเป็น! คุณไปอยู่ที่นั่นเพื่อให้พวกเขาบางอย่าง เพื่อให้พวกเขาสิ่งที่พวกเขาต้องการ! คุณนำพวกเขาไปที่คริสตจักรของเราเพื่อร่วมงานวันเกิด นำพวกเขามาพบกับมิตรแท้ คุณนำพวกเขากลับมาบ้านคือไปคริสตจักรเพื่อให้พวกเขาสามารถได้ยินเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ - และได้รับของขวัญฟรีแห่งความรอดและความรักนิรันดร์! “จงออกไปตามทางใหญ่และรั้วต้นไม้ทั้งหลาย และเร่งเร้าเขาให้เข้ามาเพื่อเรือนของเราจะเต็ม” ร้องเพลงนี้! นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน ตอนที่คุณออกไปประกาศอย่าไปกลัว! พวกเขาต้องการสิ่งที่เรานำเสนอ พวกเขาต้องการทั้งหมด! คุณกำลังทำ ในส่ิ่งที่พวกชอบ คุณช่วยเหลือพวกเขา เพื่อให้พวกเขาได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ ไปเอารายชื่อของพวกเขาเพื่อให้เราสามารถนำพวกเขามาข้างใน ดังนั้นเราจึงสามารถให้พวกเขาพบกับความรักและมิตรภาพที่แท้จริงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน – ความรักของพระเจ้านั้นน่าตื่นตาตื่นใจเพราะเป็นของพระบิดาและพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ - เป็นมิตรภาพที่อบอุ่นมิตรภาพและเป็นความสุขของ แบ๊บติสเทเบอร์นาเคล"ใหม่"! ทุ่งนาเหลืองอาหร่านพรัอมที่จะเก็บเกี่ยว! ในสัปดาห์หน้าจงออกไปนำ รายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของพวกเขามา! ไปประกาศกับพวกเราในคืนวันพุธ! ไปประกาศกับพวกเราในคืนวันพฤหัสบดี! ไปอีกครั้งในคืนวันเสาร์! ใช่ - และไปอีกครั้งในบ่ายวันอาทิตย์! นำรายชื่อมาไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งหรือสองรายชื่อ มากเท่าที่มากได้! คุณสามารถได้! ไม่ต้องกลัว คุณมีสิ่งที่คนหนุ่มสาวต้องการ! ไปและทำ อย่างนั้น! ไปและทำอย่างนั้น! ไปและทำอย่างนั้น! “จงออกไปตามทางใหญ่และรั้วต้นไม้ทั้งหลาย และเร่งเร้าเขาให้เข้ามาเพื่อเรือนของเราจะเต็ม” โปรดยืนขึ้นและร้องเพลงนมัสการบทที่ 8 ชื่อ "นำพวกเขามาข้างใน" หรือ “Bring Them In” ร้องบทที่ 8 ในหนังสือของคุณ ร้องเพลงนี้และในอาทิตย์หน้าจงไปทำอย่างนั้น! ฉันได้เสียงของพระผู้เลี้ยงแกะ บทเทศนานี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณที่จะนรายชื่อให้ได้มากขึ้นหรือไม่? คืนนี้คุณเห็นความจำเป็นหรือไม่? คุณจะพูดว่า "ใช่ ดร. ไฮเมอร์ส ฉันจะไปนำรายให้ได้มากในสัปดาห์หน้า" ถ้านั่นเป็นความปรารถนาของคุณแล้วจงออกจากที่นั่งของคุณและมาที่ข้างหน้านี่ ออกมาอยู่ข้างบนนี้หรือขัางล่างนั่นก็ได้! เอมี่จะเล่นเพลง "นำพวกเขามาข้างใน" หรือ “Bring Them In” ในขณะที่คุณกำลังออกมา (พวกเขามา) จอห์น ซามูเอล คาเกน โปรดอธิษฐานขอพระเจ้าทรงช่วยคนเหล่านี้ให้สามารถนำรายชื่อมากขึ้นในสัปดาห์หน้า (จอห์น คาเกน อธิษฐาน) ตอนนี้ โนอาห์ ซอง อธิษฐาน (เขาอธิษฐาน) ตอนท เอมี่ เล่นท่อนรับและร้องในขณะทร่พวกคุณกลับไปนั่ง นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน นำ พวกเขาเข้ามาข้างใน พวกคุณนั่งลงได้ พันธกิจหลักของพระเยซูคริสต์คือช่วยวิญญาณที่หลงหายไปให้ได้รับความรอด พระเยซูทรงตรัสว่า พระองค์เสด็จมา "มาเพื่อจะแสวงหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปนั้นให้รอด" (ลูกา 19:10) หากคุณยังไม่ได้ความรอด ผมอยากจะบอกคุณว่าพระเยซูสามารถช่วยท่านให้รอดได้ หันหลังจากความผิดบาปในชีวิตของคุณและพบกับพระเยซูคริสต์แบบ "ตัวต่อตัว" - เหมือนอย่างที่ โนอาห์ ซอง ได้ทำ กัน พระเยซูทรงทนทุกข์ทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์สิ้นพระชนม์ในที่ของคุณ และทรงชดใช้ความผิดบาปของคุณ พระองค์ทรงหลั่งโลหิตบนไม้กางเขนและทรงชำระคุณจากบาปทั้งหมด หากคุณต้องการที่จะวางใจพระเยซู โปรดไปหา ดร. คาเกน หรือโทรศัพทไปหาท่านที่สำนักงานที่บ้านของท่าน หรือนัดหมายกับ ดร คาเกน เพื่อนัดหมายและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับความรอดนี้ พระเจ้าอวยพรทุกท่าน! อาเมน ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452 (จบการเทศนา) หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดยท่าน อาเบล บรูดโฮมมี: ลูกา 14:16-23. |