เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
บาดแผลของพระคริสต์THE WOUNDS OF CHRIST โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์ บทเทศนาที่คริสตจักรแบ๊บติสต์ในนครลอสแอนเจลิส “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” |
ผมจะพูดถึงบาดแผลของพระเยซู เพราะพระองค์ทรงถูกตรึงที่กางเขน ด้วยเหตุนี้หลังจากที่พระองค์ทรงเป็นเป็นขึ้นมาจากความตายแล้วพระหัตถ์และพระบาทของพระองค์ยังมีแผลอยู่ นี่แสดงให้เราเห็นว่าพระองค์ทรงถูกตรึงที่กางเขนเพราะชดใช้บาปของเรา และนี่เป็นทางเดียวที่พระองค์ทรงช่วยกู้คุณให้รอดจากบาป แต่ต้องมาที่พระองค์และวางใจพระองค์เท่านั้น พวกเจ้าจะไม่เชื่อพระเยซูจนกว่าที่จะรับว่าตัวเองเป็นคนบาป พวกคุณพยายามช่วยกู้ตัวเองโดยการทำดี แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นคนบาป คุณไม่ยอมรับว่าพระเยซูเท่านั้นที่ทรงสามารถช่วยคุณได้โดยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน คุณไม่ยอมรับว่าเป็นคนบาปเหมือน กาย เพิง ทำกัน กายบอกว่า “ฉันรู้ว่าเป็นคนบาป แต่ฉันพยายามทำตัวให้เป็นคนดี แต่แม้ว่าฉันจะพยายามมากเพียงใดก็ตามก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนตัวเองได้ จึงมารู้ว่าฉันเป็นคนบาป และเป็นคนที่ต่อต้านพระเจ้า...ฉันรู้ว่าเป็นคนที่ไร้ความหวัง” ผมมาอ่านข้อความนี้ในบทเทศนาของผมเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาที่ว่า ฉันเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้ เป็นคนที่ไร้ความหวัง ต่อมาผมได้ถามหญิงสาวชาวจีนคนนี้ว่าถ้าเธอต้องการความรอด เธอตอบว่า “ใช่” ผมถามเธอต่อว่าจะทำอย่างไรให้ได้รับความรอด เธอตอบว่าพยายามเป็นคนดี เธอบอกว่าตอนนี้เชื่อฟังบิดามารดา เธอทำตัวเป็นคนดี! ผมทึ่งในสิ่งที่เธอพูดถึงนั้น! เธอเปลี่ยนแปลงตัวเอง พยายามทำตัวเป็นคนดีมากกว่าที่เป็นอยู่ แถบไม่อยากเชื่อ! ผู้หญิงคนนี้มาคริสตจักรนานแล้ว เธอได้ยินผมเทศนาหลายต่อหลายครั้ง แต่เธอไม่สามารถกู้ตัวเองให้รอดได้โดยการทำดี เธอได้ยินผมเทศนาหลายครั้งว่าพระเยซูผู้ทรงพระชนม์บนไม้กางเขนเท่านั้นที่ทรงช่วยเราให้รอดจากความบาปได้ แต่เธอกลับคิดว่าพยายามทำตัวเป็นคนดี แต่กลับไม่พูดถึงพระเยซูเลย เธอไม่พูดถึงความบาปของเธอที่ชำระโดยพระเยซู ไม่เลย เธอไม่เคยพูดถึงพระเยซูเลย! เช้านี้ผมอยากบอกให้คุณว่า – ไม่มีวันที่คุณจะรอดได้จนกว่าจะมารับรู้ว่าเป็นคนบาป ไร้ความหวัง หากคุณไม่รับว่าเป็นคนบาปและไร้ซึ่งความหวัง คุณจะไม่ยอมรับพระเยซู – ผู้ทรงพระชนม์เพื่อชดใช้บาปของคุณเช่นกัน และคำเทศนาของผมในเช้านี้ก็จะไร้ค่าให้กับคุณด้วย – นอกจากพระวิญญาณของพระเจ้าทรงทำให้คุณรู้ว่าเป็นคนบาป หลังจากนั้นคุณถึงจะรับรู้ว่าทำไมพระองค์ถึงสำแดงบาดแผลนั้นให้พวกสาวก “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) ทำไมพระองค์ถึงแสดงบาดแผลที่พระหัตถ์และพระบาทให้กับพวกสาวก? อีกครั้งทำไมพระองค์ถึงแสดงบาดแผลที่พระหัตถ์และพระบาทให้กับพวกสาวก? มีอยู่สามเหตุผลที่จะตอบ “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) I. ประการแรก ที่พระเยซูทรงแสดงบาดแผลนั้นให้พวกเขา เพื่อเราจะได้รู้ว่า พระองค์ผู้เดียวที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน พวกจีน็อสติบอกว่าพระเยซูไม่ได้สิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขน พวกมุสลิมก็บอกว่าพระเยซูไม่ได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน มีคนจำนวนมากในสมัยนี้เชื่อว่าไม่มีทางที่พระเจ้าจะปล่อยให้พระบุตรของพระองค์มาสิ้นพระชนม์ในสภาพที่น่าอับอายเช่นนี้ นี่คือคำตอบแรก “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) พระเยซูทรงประสงค์ให้ทุกคนรับรู้ความจริงว่าพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์จึงแสดงแผลนั้นให้กับเหล่าสาวก และให้พวกเขาได้สัมผัส อัครสาวกยอห์นกล่าวอย่างชัดเจนว่าท่านได้เห็นด้วยตาของตัวเอง “ซึ่งได้ทรงเป็นอยู่ตั้งแต่เริ่มแรก ซึ่งเราทั้งหลายได้ยิน ซึ่งเราได้เห็นกับตา ซึ่งเราได้พินิจดู และจับต้องด้วยมือของเรา เกี่ยวกับพระวาทะแห่งชีวิต” (1 ยอห์น 1:1) ดร. วัตต์ กล่าวว่า จงดูที่ศีรษะจงมองที่พระหัตถ์และพระบาทของพระองค์ ที่กางเขน ที่กางเขน “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) II. ประการที่สอง ที่พระเยซูทรงแสดงบาดแผลนั้นให้พวกเขา เพื่อเราจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงทนทุกข์เพื่อชดใช้บาปของเรา ยอห์นผู้ให้บัพติศมากล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย” (ยอห์น 1:29) ท่านไม่ได้กล่าวแบบชัดๆว่าพระเยซูจะลบพระอาชญาอย่างไรได้ หลังจากที่พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตายแล้วพวกเขาถึงเข้าใจในสิ่งเหล่านั้น “…พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น” (1 เปโตร 2:24) พวกเขาจึงรู้หลังจากที่ได้เห็นแผลที่พระหัตถ์และพระบาทของพระองค์ “พระคริสต์เช่นกันก็ได้ทนทุกข์ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะความผิดบาป คือพระองค์ผู้ชอบธรรมเพื่อผู้ไม่ชอบธรรม” (1 เปโตร 3:18) นี่คือคำตอบประการที่สอง “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) พระองค์มีพระประสงค์อยากให้เรารู้ว่าพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อชดใช้ความผิดบาปของเรา และช่วยเรารอดพ้นจากนรก พระองค์อยากให้เราเห็นบาดแผลที่พระหัตถ์และพระบาทเพื่อให้เรารู้ว่าพระอัชญาของพระเจ้าตกลงที่พระองค์ที่กางเขน “…โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นบาปแล้ว พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูไว้ให้เป็นที่ลบล้างพระอาชญา โดยความเชื่อในพระโลหิตของพระองค์” (โรม 3:24-25) นี่แหละคือทำไม “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) ร้องเพลงของ ดร. วัตต์ อีกครั้ง! จงดูที่ศีรษะจงมองที่พระหัตถ์และพระบาทของพระองค์ ร้องเพลง “ที่กางเขน” หรือ “In the Cross” ที่กางเขน ที่กางเขน “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) III. ประการที่สาม พระเยซูทรงแสดงบาดแผลให้พวกเขา เพื่อเราจะรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดให้กับคนทุกยุคทุกสมัย พระคริสต์ทรงนำบาดแผลและโลหิตของพระองค์ไปสวรรค์เพื่อเตรียมการทรงไถ่นิรันดร์สำหรับเรา “เพราะว่าพระคริสต์ไม่ได้เสด็จเข้าในสถานที่บริสุทธิ์ซึ่งสร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ อันเป็นแบบจำลองจากของจริง แต่พระองค์ได้เสด็จเข้าไปในสวรรค์นั้นเอง และบัดนี้ทรงปรากฏจำเพาะพระพักตร์พระเจ้าเพื่อเราทั้งหลาย”
ทรงประทับอยู่ที่ข้างพระหัตถ์ขวาของพระเจ้าในสวรรค์ บาดแผลของพระเยซูอยู่เป็นนิตย์และตลอดไปเพื่อเตือนให้กับพระเจ้าและเหล่าทูตสวรรค์นั้น “และพระองค์ทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลายเพราะบาปของเรา และไม่ใช่แต่บาปของเราพวกเดียว แต่บาปของมนุษย์ทั้งปวงในโลกด้วย”
แต่ในโลกทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ปฏิเสธพระเยซู คนส่วนใหญ่ต้องการที่จะรอดโดยอาศัยการทำดีของตัวเองและความเชื่อในศาสนาของพวกเขาเอง ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิเสธพระเยซูผู้ซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้สำหรับความรอด พระเยซูทรงเป็นทางเดียวที่นำไปสู่พระเจ้า เพราะพระองค์ผู้เดียวที่ทรงทนทุกข์และสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปของเรา ไม่มีผู้นำศาสนาอื่น ๆ ไม่มีเลย – ไม่ใช่ขงจื้อ ไม่ใช่พระพุทธเจ้าไม่ใช่โมฮัมเหม็ด ไม่ใช่โจเซฟ สมิธ ไม่มีใคร! พระเยซูเท่านั้นที่ทรงสามารถตรัสว่า “แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความละเมิดของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความชั่วช้าของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายปลอดภัยนั้นตกแก่ท่าน ที่ต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี” (อิสยาห์ 53:5) พระเยซูเท่านั้นที่ทรงสามารถตรัสว่า “พระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาในโลกเพื่อจะได้ทรงช่วยคนบาปให้รอด” (1 ทิโมธี 1:15) พระเยซูเท่านั้นที่ทรงสามารถตรัสว่า “แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา” (โรม 5:8) นั่นแหละคือทำไม “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) ร้องเพลงของ ดร.วัตต์สวดอีกครั้ง! จงดูที่ศีรษะจงมองที่พระหัตถ์และพระบาทของพระองค์ ให้ร้องเพลง “ที่ไม้กางเขน” หรือ “In the Cross” อีกครั้ง! ที่กางเขน ที่กางเขน แม้เมื่อพระเยซูเสด็จมาในครั้งที่สอง พระองค์ก็ยังจะแบกเครื่องหมายของการถูกตรึงกางเขน นั่นคือแผลที่พระหัตถ์และพระบาทของพระองค์ พระเยซูคริสต์ทรงตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะเศคาริยาห์ว่า “เขาทั้งหลายจะมองดูเราผู้ซึ่งเขาเองได้แทง เขาจึงจะไว้ทุกข์เพื่อท่านเหมือนคนไว้ทุกข์เพื่อบุตรชายคนเดียวของตน” (เศคาริยาห์ 12:10). ผู้ที่ไม่หันกลับมาหาพระคริสต์ในขณะที่ยีงมีชีวิตอยู่จะได้รับความทุกข์ความเศร้าโศกในนรกไปชั่วนิรันดร์ ท่านสเปอร์เจียนได้กล่าวว่า "แผลที่พระหัตถ์และที่สี่ข้างที่เปิดออกนี้จะเป็นพยานต่อต้านคุณ หากคุณเสียชีวิตในฐานะที่ปฏิเสธพระองค์ และแล้วจะลงไปสู่หลุมแห่งการเป็นศัตรูของพระคริสต์ไปชั่วนิรันดร์" (C. H. Spurgeon, “The Wounds of Jesus,” The New Park Street Pulpit, Pilgrim Publications, volume V, p. 237) “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) สเปอร์เจียนกล่าวอีกครั้งว่า คนบาปผู้ยากไร้ ... คุณกลัวที่จะมาที่ [พระเยซู] อย่างนั้นหรือ? จงมองไปที่พระหัถต์ของพระองค์? – มองไปที่พระหัถต์ของพระองค์ ไม่สัมผัสอะไรเลยหรือ? ... จวมองสีข้างของพระองค์นั่นเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจพระองค์ สีข้างของพระองค์เปิดออก สีข้างของพระองค์เปิดออก [ให้คุณ] ... โอ้คนบาปขอให้คุณได้รับความช่วยเหลือให้เชื่อในบาดแผลของพระองค์นั้น! แผลเหล่านั้นไม่มีวันสลาย แผลของพระคริสต์จะรักษาผู้ที่วางใจในพระองค์ (ibid., page 240) “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ลูกา 24:40) อีเวนจีไลน์ บฺธ แห่งซอเวชั่นอาร์มี่ กล่าวว่า แผลของพระคริสต์ถูกเปิดออก จงมาที่พระคริสต์ จงวางใจในพระองค์ พระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนไถ่บาปของคฺณ จงมาที่พระคริสต์ จงวางใจในพระองค์ จงอย่าพึ่งพาความดีของตัวเอง เพราะนั่นไม่ได้ช่วยให้คุณรอดได้ พระเยซูเท่านั้นที่ทรงสามารถช่วยกู้คุณให้รอดจากบาปและนรก! อาเมน หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452 (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดยท่าน อาเบล บรูดโฮมมี: ยอห์น 20:24-29. |
โครงร่างของ บาดแผลของพระคริสต์THE WOUNDS OF CHRIST โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น” (ยอห์น 19:34, 35, 41; 20:1, 5, 6-7, 9, 19; I. ประการแรก ที่พระเยซูทรงแสดงบาดแผลนั้นให้พวกเขา เพื่อเราจะได้รู้ว่า พระองค์ผู้เดียวที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน 1 ยอห์น 1:1. II. ประการที่สอง ที่พระเยซูทรงแสดงบาดแผลนั้นให้พวกเขา เพื่อเราจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงทนทุกข์เพื่อชดใช้บาปของเรา ยอห์น1:29; 1 เปโตร 2:24; 3:18;
III. ประการที่สาม พระเยซูทรงแสดงบาดแผลให้พวกเขา เพื่อเราจะรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดให้กับคนทุกยุคทุกสมัย ฮีบรู 9:11-12, 24; 1 ยอห์น 2:2; ยอห์น 14:6; อิสยาห์ 53:5; 1 ทิโมธี 1:15; โรม 5:8; |