เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
หมายสำคัญแห่งยุคสุดท้าย - กล่าวเพิ่มเติมSIGNS OF THE END – UPDATED AND EXPANDED โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์ บทเทศนาที่คริสตจักรแบ๊บติสต์ในนครลอสแอนเจลิส “ฝ่ายพระเยซูทรงออกจากพระวิหาร แล้วพวกสาวกของพระองค์มาชี้ตึกทั้งหลายของพระวิหารให้พระองค์ทอดพระเนตร พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า สิ่งสารพัดเหล่านี้พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ที่นี่ ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้ เมื่อพระองค์ประทับบนภูเขามะกอก พวกสาวกมาเฝ้าพระองค์ส่วนตัวกราบทูลว่า ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้”? (มัทธิว 24:1-3) |
โปรดเปิดพระคัมภีร์ของคุณไว้ตรงนี้ ข้อความตอนนี้ถูกเรียกว่า "การเปิดเผยบนภูเขามะกอกเทศ" เพราะพระคริสต์ทรงเทศนาบนภูเขามะกอกเทศ พระคริสต์ตรัสให้เหล่าสาวกว่าพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มจะถูกทำลาย พวกสาวกกล่าวว่า "เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร?" คำตอบไม่ได้บันทึกไว้ในมัทธิว 24 แต่ลูกากล่าวถึงคำตอบของพระคริสต์ดังนี้ “เขาจะล้มลงด้วยคมดาบ และต้องถูกกวาดเอาไปเป็นเชลยทั่วทุกประชาชาติ และคนต่างชาติจะเหยียบย่ำกรุงเยรูซาเล็ม จนกว่าเวลากำหนดของคนต่างชาตินั้นจะครบถ้วน” (ลูกา 21:24) “เขาจะล้มลงด้วยคมดาบ” นี่เป็นการพยากรณ์ถึงกรุงเยรูซาเร็มถูกทำลายโดยตีตัสในปีคริสตศักราชที่ 70 – นั่นเกิดขึ้น 40 ปีหลังจากพระคริสต์ทรงทำนายเอาไว้ และแล้ว “ต้องถูกกวาดเอาไปเป็นเชลยทั่วทุกประชาชาติ” ดร. เฮนรี่ เอ็ม มอร์ริส กล่าวว่า "นี่เป็นคำทำนายที่วิเศษ เพราะกล่าวเอาไว้หลายศตวรรษก่อนที่จะเป็นจริงในที่สุดคือสำเร็จอย่างสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 135" - ตอนกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลายโดยกองทัพเฮเดรียในปี ค.ศ. 135 และคนยิวกระจัดกระจายไปทั่วโลก (see Henry M. Morris, Ph.D., The Defender’s Study Bible, World Publishers, 1995, p. 1122; note on Luke 21:20, 24) ดังนั้นพระคริสทรงตอบคำถามแรกที่พวกเขาถามว่า "เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร" พระวิหารจะถูกทำลายใน ค.ศ. ที่ 70 คนยิวถูกกระจายไปทั่วโลกใน ค.ศ.135 แต่แล้วพวกเขาก็ถามคำถามที่สอง "สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้”? "โลก" ในภาษากรีกคือ "Aion" หมายความว่า "ยุค" - คือ "ยุค" ที่เราอยู่ในขณะนี้ ยุคของคริสเตียนปัจจุบันนี้ ผมเองเชื่อว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ใกล้ยุคสุดท้าย - ใกล้ปลายสุดของโลกที่เรารู้กัน มีข้อผิดพลาดสามประการที่คนเข้าใจผิดเรื่องยุคสุดท้ายนี้ ข้อผิดแรกคือการกำหนดวัน เมื่อใดก็ตามที่คุณได้ยินใครบางคนบอกถึงวัน คุณสามารถแน่ใจได้เลยว่า คนเหล่านั้นผิด พระคริสต์กล่าวว่า “ด้วยว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จและผู้ทำนายเทียมเท็จเกิดขึ้นหลายคน ทำหมายสำคัญและการมหัศจรรย์เพื่อล่อลวงผู้ที่ถูกเลือกสรรแล้วให้หลง ถ้าเป็นได้ แต่ท่านทั้งหลายจงระวังให้ดี ดูเถิด เราได้บอกสิ่งสารพัดให้แก่ท่านทั้งหลายไว้ก่อนแล้ว” (มาระโก 13:32, 33) ประการที่สองที่ผิดคือกล่าวว่าหมายสำคัญต่างๆนั้นเกิดขึ้นในอดิต นี่เรียกว่า “สิ่งที่ผ่านพ้น” คนสมัยนี้โดยเฉพาะพวกติดตามคาวิลเชื่อว่าอย่างนั้น แต่พวกเขาผิด เพราะหากคุณดูในพระธรรมมัทธิว 24:14 แล้วจะรู้ทันทีเลยว่าความเชื่อเช่นนั้นผิด เพราะหากหมายสำคัยญหลายนั้นกลายเป็นอดิต หรือเกิดขึ้นให้กับคริสเตียนในยุคแรก ดังนั้นในข้อที่ 14 ก็ไม่เป็นความจริง! “ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรนี้จะประกาศไปทั่วโลกให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:14) พวกสาวกได้ประกาศพระกิตติคุณทั่วโรม แต่ไม่ได้ประกาศทั่ว “ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรนี้จะประกาศไปทั่วโลก” – เพราะพวกเขาไม่ได้ประกาศให้กับอเมริกาเหนือและใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย หมู่เกาะไอสแลนด์ หรือในที่อื่นๆ พวกสาวกไม่ได้ประกาศทั่ว “ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรนี้จะประกาศไปทั่วโลก” แต่การประกาศนี้เพิ่มสำเร็จในยุคของเรา “แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” ตอนนี้พระกิตติคุณได้ประกาศไปทั่วทุกแห่งแล้ว – นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ตัวอย่างเช่น ผู้คนทั่วโลกได้อ่านบทเทศนาของผมใน 33 ภาษา และที่อื่นๆเช่นโดยทางวิทยุ ทีวี อินเตอร์เนต รวมถึงมิชั่นนารีเป็นพันๆคนอยู่ทั่วโลก การทำนายนี้เพิ่มสำเร็จในยุคของเรา “แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” ที่ว่าผ่านพ้นแล้วนั้นผิด! ความเชื่อผิดประการที่สามคือชี้ว่านั่นเป็นเรื่องในอนาคต นั่นคือในช่วงกรียุคเจ็ดปี หลายคนในปัจจุบันนี้เชื่ออย่างนั้น แต่พวกเขากลับละเลยหมายสำคัญที่ชี้ถึงกรียุคนี้ พระคริสต์ทรงกล่าวถึงหมายสำคัญในยุคของโนอาห์ พระองค์ตรัสว่า “ด้วยสมัยของโนอาห์เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้นด้วย” (มัทธิว 24:37) คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักศาสนศาสตร์ถึงจะเข้า “ยุคของโนอาห์” ได้ เพราะมันนานกว่าเจ็ดปี! พระคัมภีร์บอกเราว่ายุคของโนอาห์นั้นอยู่มากกว่า 120 ปี (ปฐมกาล 6:3) เอโนคเคยเตือนเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้ (ยูดาห์ 14, 15) ผมเองเชื่อว่าโลกนี้กำลังเข้าสู่ยุคสุดท้ายระหว่างยุคทองในศตวรรคที่ 18 (1730-1790) และช่วงที่มีการละทิ้งความเชื่อมากที่สุดคือศตวรรคที่สิบเก้า ยุคนี้มีการวิจารณ์พระคัมภีร์ มีกลุ่มฟินเนนิยม และดาวิลนิยม และที่สำคัญเลวร้ายกว่านั้นคือเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง การสิ้นสุดยุคนี้ใช่ว่าเกิดแบบ “ฉับพลัน” ให้เรา! มารยังต้องทำงานอีกนาน ตอนนี้ยังแค่แค่ช่วงละทิ้งความเชื่อกระจายไปทั่วโลก และนั่นคือระบบของยุคสุดท้าย อย่างที่ ลีโอนาร์ ราเวนฮิลล์ เขียนไว้ “พวกมันคือยุคสุดท้าย!” พวกสาวกถามหมายสำคัญหนึ่งอย่างเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระองค์ “และ [ยุค] สุดท้าย แต่พระคริสต์ทรงกล่าวถึงหมายสำคัญหมายอย่าง ผมจะนำหมายสำคัญสามอย่างมากล่าวไว้ในที่นี้ I. ประการแรก หมายสำคัญในคริสตจักร นี่เป็นหมายสำคัญแรกที่พระเยซูทรงตรัสถึง ในมัทธิว 24:4-5 “พระเยซูตรัสตอบเขาว่า ระวังให้ดี อย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านให้ หลงด้วยว่าจะมีหลายคนมาต่างอ้างนามของเรา กล่าวว่า เราเป็นพระคริสต์ เขาจะล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป” (มัทธิว 24:4-5) นั่นกล่าวถึงพวกวิญญาณชั่วที่อ้างว่าพวกเขาเป็นพระคริสต์ อาจารย์เปาโลเตือนว่า “พระคริสต์องค์อื่นที่เราไม่ได้เทศนาถึง” (2 โครินธ์ 11:4) อาจารย์เปาโลกล่าวว่า “บัดนี้ พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ในกาลภายหลังจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปีศาจ” (1 ทิโมธี 4:1) ทุกวันนี้ความเชื่อที่ว่า “วิญญาณ-พระคริสต์” ของพวกจีน็อสตินิยมถูกนำมาเทศน์ในหลายคริสตจักร พวกนี้เชื่อว่าพระคริสต์คือวิญญาณที่ไม่มีร่างกายอย่างพระคริสต์ที่ปรากฏในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์กล่าวว่า “และวิญญาณทั้งปวงที่ไม่ยอมรับว่า พระเยซูคริสต์ได้เสด็จมารับสภาพของเนื้อหนัง วิญญาณนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า” (1 ยอห์น 4:3) ท่ามกลางฉบับแปลปัจจุบัน มีแต่ฉบับคิงเจมส์เท่านั้นที่แปลข้อนั้นถูกต้อง ในภาษากรีกคือคำว่า “elēluthota” นั่นเป็นประโยคสมบูรณ์ ที่กล่าวถึงการทรงสถิตของพระคริสต์ (cf. Jamieson, Fausset and Brown) ฉบับคิงเจมส์แปลถูกต้องว่า พระคริสต์” มีเนื้อหนัง” พระองค์บังเกิดมาเป็นมนุษย์ และทรงสภาพอย่างนั้น ในวันที่พระองค์เสด็จจากความตายในสภาพที่มีเนื้อหนัง หลังจากที่พระองคเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว ก็ตรัสว่า “เพราะว่าผีไม่มีเนื้อและกระดูกเหมือนท่านเห็นเรามีอยู่นั้น” (ลูกา 24:39) และร่างกายของพระองค์ยังคงอยู่ในสภาพที่มีเนื้อหนังและกระดูกตอนฟื้นคืนพระชนม์ - ในสวรรค์ พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระเยซูคริสต์ยังทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ และเวลาวันนี้ และต่อ ๆ ไปเป็นนิจกาล” (ฮีบรู 13:8) ดังนั้น ในทุกวันนี้ความเชื่อที่ว่า วิญญาณ-พระคริสต์ นั้นผิด “วิญญาณที่ล่อลวง” (1 ทิโมธี 4:1)! แม้ว่าในคริสตจักรแบ๊บติสต์ของเราก็ตาม ยังมีคนที่คิดว่าพระคริสต์เป็นวิญญาณหรือผี ดังนั้น พวกเขาจึงเชื่อมารมากกว่าในพระคริสต์จริง! ดร. ไมเคิล ฮอร์ตันพูดถึงวิญญาณพระคริสต์ของพวกจีนอสติเอาไว้ในหนังสือของเขาที่ชื่อ Christless Christianity (Baker Books, 2008) จงไปหาซื้อมาอ่านดู พระคริสต์ตรัสอีกครั้งว่า “ด้วยว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จ และผู้พยากรณ์เทียมเท็จเกิดขึ้นหลายคน และจะทำหมายสำคัญอันใหญ่และการมหัศจรรย์ ถ้าเป็นไปได้จะล่อลวงแม้ผู้ที่ทรงเลือกสรรให้หลง” (มัทธิว 24:24) อาจารย์เปาโลเตือนว่า “เพราะจะถึงเวลาที่คนจะทนต่อคำสอนอันถูกต้องไม่ได้ แต่เขาจะรวบรวมครูไว้ให้สอนในสิ่งที่เขาชอบฟัง ตามความปรารถนาของตนเอง เพราะมีหูที่คัน และเขาจะบ่ายหูจากความจริง หันไปฟังเรื่องนิยายต่าง ๆ” (2 ทิโมธี 4:3-4) ผมเชื่อว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงต้นของการละทิ้งความเชื่อ "ถอยห่างออกไป" อย่างที่อัครสาวกเปาโลพยากรณ์ไว้ใน 2 เธสะโลนิกา 2: 3 พระคริสต์ตรัสอีกครั้งว่า “ความรักของคนเป็นอันมากจะเยือกเย็นลง เพราะความชั่วช้าจะแผ่ [ทวี] ขยายออกไป” (มัทธิว 24:12) พระคริสต์ทรงทำนายว่าจะมีความเย็นชาเกิดขึ้นในคริสตจักร ความรักอย่าง "อากาเป้" นั่นคือความรักระหว่างสมาชิกในคริสตจักรจะเยือกเย็นลง คริสตจักรจำนวนมากจะปิดการนมัสการในคืนวันอาทิตย์ เพราะความสามัคคีธรรมและความรักที่แท้จริงของคริสเตียนจะเป็นเพียงแค่อดิต สมาชิกคริสตจักรไม่ชอบที่จะอยู่ร่วมกันเหมือนคริสเตียนในช่วงยุคแรก (cf กิจการ 2: 46-47) นอกจากนี้พระเยซูยังทำนายอีกว่าในช่วงปลายนั้นจะมีการอธิษฐานน้อยมาก (ลูกา 18: 1-8) ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทุกวันนี้มีการประชุมอธิษฐานน้อยมก การนมัสการในคืนวันพุธ (ถ้ามี) ก็จะเปลี่ยนจากการอธิษฐานไปเป็นการศึกษาพระคัมภีร์แทน แน่นอนนี่เป็นหมายสำคัญของการสิ้นนุค! “แต่เมื่อบุตรมนุษย์มา ท่านจะพบ [ความเชื่อ] ในแผ่นดินโลกหรือ?” (ลูกา 18:8) แต่จงจำคำตรัสของพระเยซู “เมื่อเหตุการณ์ทั้งปวงนี้เริ่มจะบังเกิดขึ้นนั้น จงยืดตัวและผงกศีรษะขึ้น ด้วยการไถ่ท่านใกล้จะถึงแล้ว”” (ลูกา 21:28) จงร้องเพลงบทที่ 3 ในข้อที่สองด้วยกัน! ความมืดคือกลางคืน และเป็นบาปที่ต่อต้านเรา II. ประการที่สอง หมายสำคัญของการข่มเหง พระคริสต์ตรัสว่า “ในเวลานั้นเขาจะมอบท่านทั้งหลายไว้ให้ทนทุกข์ลำบากและจะฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่าง ๆ จะเกลียดชังพวกท่านเพราะนามของเรา คราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไปและทรยศกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกัน” (มัทธิว 24:9-10) พระคริสต์ตรัสอีกว่า “ท่านจะถูกคนทั้งปวงเกลียดชังเพราะเห็นแก่นามของเรา แต่ผู้ใดที่อดทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอดพ้นได้” (มาระโก 13:13) ในโลกทุกวันนี้เราพบว่ามีการกดขี่ข่มเหงคริสเตียน ยังมีต่อเนื่องและเลวร้ายทั่วโลกโปรดคลิกที่นี่ไปอ่าน www.persecution.com ในขณะนี้พบได้ว่าคริสเตียนที่แท้จริงถูหข่มเหงเพิ่มมากขึ้นที่นี่ในโลกตะวันตก ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ถูกต่อต้านโดยผู้ที่สร้างความแตกแยกให้คริสตจักร ผู้ปกครองข่มเหงลูกของตัวเองเพราะเป็นคริสเตียน และที่น่าตกใจมากคือเห็นบางคนทำร้ายพ่อแม่ชราที่เป็นคริสเตียนที่เคร่งครัด! ตอนนี้หลายคนแทบถูกล็อคให้อยู่ในบ้านและอยู่อย่างโดดเดี่ยว ลูกๆที่ไม่เป็นคริสเตียนไม่เคยไปเยี่ยมเลย ผู้รับใช้หลายคนบอกผมว่า พวกเขาคิดว่าคริสเตียนในอเมริกาเร็ว ๆ นี้จะได้สัมผัสกับการกดขี่ข่มเหงมากขึ้น แต่จำที่พระเยซูทรงกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจะเป็นสุขเมื่อคนทั้งหลายจะเกลียดชังท่าน และจะไล่ท่านออกจากพวกเขา และจะประณามท่าน และจะเหยียดชื่อของท่านว่าเป็นคนชั่วช้า เพราะท่านเห็นแก่บุตร มนุษย์ในวันนั้นท่านทั้งหลายจงชื่นชม และเต้นโลดด้วยความยินดี เพราะ ดูเถิด บำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะว่าบรรพบุรุษของเขาได้กระทำอย่างนั้นแก่พวกผู้พยากรณ์เหมือนกัน” (ลูกา 6:22-23) ถ้าคุณคิดว่าผมเป็นคนพูดเกินความจริง ก็จงไปฟังรายงานข่าวของฟ็อกซ์ ที่กล่าวถึง แฟรงคลิน เกรแฮม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แฟรงคลิน เกรแฮม เป็นบุตรชายของผู้ประกาศข่าวประเสริฐระดับโลกที่มีชื่อเสียงอยาง บิลลี่ เกรแฮม สำนักข่าวฟ็อกซ์กล่าวว่า นักประกาศ แฟรงคลิน เกรแฮม เลิกสนับสนุนรัฐบาล ข่าวฟ็อกซ์ เดือนธันวาคม 22, 2015 นักประกาศ แฟรงคลิน เกรแฮม พูดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เขาจะไม่สนับสนุนพรรครีพับลิกันอีก นั่นเป็นเพราะว่าปล่อยแผนงบประมาณอย่างที่เรียกว่า "สิ้นเปลือง" ผ่านในอาทิตย์ที่แล้ว และนี่เปรียบเสมือนนำเงินทุน สำหรับการวางแผนครอบครัวไปยังค่ายกักกันนาซี เกรแฮม กล่าวว่า "ความอัปยศที่รีพับลิกันและเดโมแครต ผ่านแผนงบประมาณสิ้นเปลืองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา" เขากล่าว "และนั่นถือว่าเอาเงินทุนวางแผนครอบครัวตัดออกไป!" เกรแฮม ผู้ที่เคยติเตียนสองพรรคการเมือง ขอให้ท่านจงนำไปโพสต์ไปไว้ใน Facebook "ได้เห็นและได้ยินแผนการวางแผนครอบครัว แต่กลับเมินเฉยพูดเกี่ยวกับการขายชิ้นส่วนจากตัวอ่อนของทารกจากการทำแท้ง นั่นคือการทำลายชีวิตมนุษย์ [ดร.] โจเซฟ เมนกีลี และค่ายกักกันนาซี!" เขาเขียนไว้ว่า "ควรจะปิดระดมทุนของพวกเขา ไม่มีอะไรเลย 2,000 หน้าหรือเป็นงบประมาณเท่ากับ 1.1 ดอร์ลาร์" ท่าน เกรแฮม เคยสนับสนุนโดนอล์ดทรามป์ให้ได้ไปบริหารรัฐบาลในทำเนียบขาว ในขณะเดียวกันคนมุสลิมในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าเขาสูญเสียความเชื่อมั่นในระบบการเมืองไปแล้ว เขาเขียนว่า “ผมไม่มีความหวังในพรรครีพับลิกร เดโมเครติส หรือพรรคที ว่าจะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้อเมริกาได้อีก” ว้าว! นักประกาศท่านนี้กำลังกล่าวถึงอะไร! ร้องเพลงนี้อีกครั้ง - เพลงบทที่ 3 - ข้อที่สอง! ความมืดคือกลางคืน และเป็นบาปที่ต่อต้านเรา III. ประการที่สาม หมายสำคัญของการประกาศไปทั่วโลก ขอให้สังเกตว่าหมายสำคัญนี้ว่าเพิ่มจะปรากฏขึ้นในช่วงกลางของหมายสำคัญน่ากลัวเหล่านี้ “ในเวลานั้นเขาจะมอบ ท่านทั้งหลายไว้ให้ทนทุกข์ลำบากและจะฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่าง ๆ จะเกลียดชังพวกท่านเพราะนามของเราคราวนั้น คนเป็นอันมากจะถดถอยไปและทรยศกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกัน จะมีผู้พยากรณ์เท็จหลายคนเกิดขึ้นและล่อลวงคนเป็นอันมาก ให้หลงไปความรักของคนเป็นอันมากจะเยือกเย็นลง เพราะความชั่วช้าจะแผ่ขยายออกไปแต่ผู้ใดที่อดทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอดพ้นได้ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรนี้จะประกาศไปทั่วโลกให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:9-14) นั่นเป็น “ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักร” ง่ายๆ “พระกิตติคุณ” ในมาระโก 13:10 กล่าวว่า ข่าวประเสริฐจะต้องประกาศทั่วประชาชาติทั้งปวงก่อน” ท่ามกลางคนที่ละทิ้งความเชื่อและการถูกขมเหง อย่างที่พระคริสต์ตรัสว่าพระกิตตคุณจะประกาศไปทั่วโลก “แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:14) สิ่งที่ทำนายนี้! มีคนน้อยมากในโลกที่ยังไม่เคยได้ยินข่าวประเสริฐตามคำทำนายของพระเยซูนี้ เพราะได้ยินโดยทางอินเตอร์เนท วิทยุ คลื่นสั้น โทรทัศน์ผ่านจานดาวเทียมและผ่านมิชชันนารีเป็นพันคน - พระกิตติคุณได้ถูกแพร่ไปทั่วโลกในเช้าวันนี้ พระธรรมมัทธิว 24: 11-14 สำเร็จในยุคของเรา! แต่แปลกมากคริสตจักรในโลกตะวันตกกลับปิดการประชุมอธิษฐานของพวกเขาลง และหยุดการนัมสการในช่วงเย็นของพวกเขาเสีย แต่พระกิตติคุณของพระเยซูกลับถูกนำไปสู่ในโลกที่สาม - อย่างในประเทศจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลายประเทศในแอฟริกา ให้กับคนม้ง และชั้นวรรณะในอินเดีย! การละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟู - ได้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน - เป็นไปตามที่พระเยซูทรงทำนายเอาไว้! มีสองสิ่งขัดแย้งเกิดในเวลาเดียวกัน! ตามที่พระเยซูทรงทำนายเอาไว้! “จะมีผู้พยากรณ์เท็จหลายคนเกิดขึ้นและล่อลวงคนเป็นอันมาก ให้หลงไปความรักของคนเป็นอันมากจะเยือกเย็นลง เพราะความชั่วช้าจะแผ่ขยายออกไปแต่ผู้ใดที่อดทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอดพ้นได้ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรนี้จะประกาศไปทั่วโลกให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:11-14) ฮาเลลูยา! พระเยซูจะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่ง! ร้องอีกครั้งหนึ่ง! ความมืดคือกลางคืน และเป็นบาปที่ต่อต้านเรา คุณรู้จักพระคริสต์หรือไม่? คุณพร้อมหรือไม่เมื่อพระองค์เสด็จมา? คุณกลับใจใหม่หรือยัง? "การถวายตัวไปๆมาๆ" ไม่ช่วยให้คุณรอดได้ บางคนบอกว่าพวกเขากลับมาที่พระคริสต์เหมือนบุตน้อยหลงหาย แต่พระคัมภีร์ไม่เคยบอกว่าบุตรน้อยนั้นรอดหลังกลับมาหาพ่อใหม่ ไม่เลย! พระคัมภีร์แค่กล่าวชัดเจนว่าเขาหลงหายไป! พ่อของเขาเองกล่าวว่าดังนั้น! “เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นอีก หายไปแล้ว แต่ได้พบกันอีก’ เขาทั้งหลายต่างก็เริ่มมีความรื่นเริงยินดี” (ลูกา 15:24) คุณต้องมาที่พระคริสต์ และต้องเชื่อว่าคุณหลงหายไป! เพราะผู้ที่ไม่เชื่อว่าเขาหลงหายไปจะไม่มาที่พระเยซู ไม่วางใจในพระองค์ ไม่พบกับการกลับใจที่แท้จริง ไม่ได้รับการชำระบาปโดยพระโลหิตของพระคริสต์หรือถูกสร้างใหม่โดยการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ คุณต้องรู้ว่าคุณหลงหายไป ก่อนที่คุณจะได้รับความรอด! โอ้พระเจ้า เราจะอธิษฐานอย่างไรเผื่อจิตวิญญาณที่หลงหายไปนั้น เพื่อจะได้ยินหรืออ่านบทเทศนานี้ และเพื่อจะมาอยู่ภายใต้ความเชื่อว่าเป็นคนบาปและมาวางใจพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ อาเมน คลิกที่นี่ไปอ่าน “The Method of Grace” by the great evangelist George Whitefield (1714-1770) หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452 (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดยท่าน อาเบล บรูดโฮมมี: มาระโก 13:1-13. |
โครงร่างของ หมายสำคัญยุคสุดท้าย - กล่าวเพิ่มเติม SIGNS OF THE END – UPDATED AND EXPANDED โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “ฝ่ายพระเยซูทรงออกจากพระวิหาร แล้วพวกสาวกของพระองค์มาชี้ตึกทั้งหลายของพระวิหารให้พระองค์ทอดพระเนตร พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า สิ่งสารพัดเหล่านี้พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ที่นี่ ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้ เมื่อพระองค์ประทับบนภูเขามะกอก พวกสาวกมาเฝ้าพระองค์ส่วนตัวกราบทูลว่า ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้”? (มัทธิว 24:1-3) (ลูกา 21:24; มาระโก 13:32, 33; มัทธิว 24:14, 37) I. ประการแรก หมายสำคัญในคริสตจักร มัทธิว 24:4-5; II. ประการที่สอง หมายสำคัญของการข่มเหง III. ประการที่สาม หมายสำคัญของการประกาศไปทั่วโลก มัทธิว 24:9-14; มาระโก 13:10; ลูกา 15:24. |