หมายสำคัญของกาลเวลา

SIGNS OF THE TIMES
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

บทเทศนาที่คริสตจักรแบ๊บติสต์ในนครลอสแอนเจลิส
ในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 2015
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord’s Day Morning, December 27, 2015

“โอ คนหน้าซื่อใจคด ท้องฟ้านั้นท่านทั้งหลายยังอาจสังเกตรู้และเข้าใจได้ แต่หมายสำคัญแห่งกาลนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ?” (มัทธิว 16:3)

พวกฟาริสีและพวกสะดูสีทั้งสองกลุ่มนี้คือผู้นำศาสนาในยุคของพระเยซูคริสต์ พวกเขาเรียกร้องหมายสำคัญพิเศษจากสวรรค์ แต่พวกเขาก็เห็นหมายสำคัญต่างๆมาแล้วมากมาย – นี่ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าพระคริสต์เป็นพเมสิยาห์ของพวกเขา เพราะพระองค์ได้ทรงเลี้ยงอาหารให้กับห้าพันคน - ทรงทำอัศจรรย์โดยขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัว (มัทธิว 14: 15-21) พระองค์ดำเนินบนน้ำที่ทะเลสาปกาลิลี (มัทธิว 14: 22-33) พระองค์ทรงรักษาคนจำนวนมากมายที่ได้มาสัมผัสพระองค์ (มัทธิว 14:36) พระองค์ทรงรักษาลูกสาวของหญิงชาวคานาอัน (มัทธิว 15: 21-28) พระองค์ทรงรักษาคนตาบอด คนใบ้ "และอื่น ๆ อีกมากมาย" (มัทธิว 15: 29-31) พระองค์ทรงเลี้ยงคนสี่พันคนนั่นเป็นความอัศจรรย์ครั้งที่สอง - โดยขนมปังเจ็ดก้อนและ "ปลาสองสามตัว" (มัทธิว 15: 32-39)

พระองค์ทรงทำหมายสำคัญมากมายให้กับพวกเขา – แสดงให้เห็นว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์ ของพวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขายังคงถามหาหมายสำคัญอื่น แมทธิว เฮนรี่ นักแปลพระคัมภีร์ชาวอังกฤษกล่าวว่าพวกเขาต้องการ "หมายสำคัญจากสวรรค์" ใช่ว่าเพราะพวกเขาต้องการที่จะเชื่อในพระองค์ พวกเขาต้องการหมายสำคัญ "จากสวรรค์" เพื่อใช้เป็นข้ออ้างว่านั่นมาจากซาตาน "เจ้าแห่งอำนาจในอากาศ" พวกเขาต้องการที่จะพิสูจน์ว่าพระคริสต์กำลังทำงานให้กับซาตานไม่ใช่สำหรับพระเจ้า (Matthew Henry’s Commentary on the Whole Bible, Hendrickson Publishers, 1991 reprint, volume 5, p. 182)

พระคริสต์ทรงบอกพวกเขาว่า

“คนชาติชั่วและเล่นชู้แสวงหาหมายสำคัญ และจะไม่โปรดให้หมายสำคัญแก่เขา เว้นไว้แต่หมายสำคัญของโยนาห์ผู้พยากรณ์เท่านั้น” …” (มัทธิว 16:4)

หมายสำคัญของโยนาห์คือกล่าวถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์มาจากความตาย

“ด้วยว่า โยนาห์ได้อยู่ในท้องปลาวาฬ [“เจ้าแห่งสมุทร”] สามวันสามคืน ฉันใด บุตรมนุษย์จะอยู่ในท้องแผ่นดินสามวันสามคืนฉันนั้น” (มัทธิว 12:40)

ในขณะที่โยนาห์รอดมาจากท้องปลา เหมือนกันพระคริสต์เป็นขึ้นมาจากหลุมฝังศพ (cf. J. Vernon McGee, Th.D., Thru the Bible, Thomas Nelson Publishers, 1983, volume IV, p. 69; note on Matthew 12:40) การฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์ เป็นหมายสำคัญเดียวที่พระองค์ให้พวกเขา

ตอนนี้เรามาดูคำตรัสของพระคริสต์

“โอ คนหน้าซื่อใจคด ท้องฟ้านั้นท่านทั้งหลายยังอาจสังเกตรู้และเข้าใจได้ แต่หมายสำคัญแห่งกาลนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ?” (มัทธิว 16:3)

เวลาพวกเขามองไปที่ท้องฟ้าอาจจะบอกได้ว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นไรในวันถัดไป แต่พวกเขากลับตาบอดในฝ่ายจิตวิญญาณมากเกินกว่าที่จะเข้าใจหมายสำคัญที่พระคริสต์ทรงทำท่ามกลางพวกเขา

และนั่นคือสิ่งที่เป็นไปในทุกวันนี้ มีหมายสำคัญเกิดขึ้นอยู่รอบตัวเราชี้ไปที่ความจริงที่ว่าเรากำลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของโลก การเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ และยุคสุดท้ายของโลกกำลังเข้ามาใกล้ และมาอย่างรวดเร็ว แต่น่าแปลกมากที่เราเทศนาน้อยมากถึงสิ่งเหล่านี้ในทุกวันนี้ - แทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้! นั่นเคยเป็นหัวข้อที่นิยมมานานหลายปี นั่นคือสมัย บิลลี่ เกรเฮ็ม ท่านมักกล่าวในตอนท้ายของการเทศนาฟื้นฟูของท่าน

แต่ปัจจุบันนี้มีการเทศน์เช่นนี้น้อยมาก ผมถามพวกเขาเช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงถาม

“แต่หมายสำคัญแห่งกาลนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ?” (มัทธิว 16:3)

ทำไมคุณถึงไม่สามารถมองเห็นหมายสำคัญของเวลานั้น? อะไรที่ทำให้คุณไม่วามารถมอฃหมายสำคัญแห่งจุดสิ้นสุดของโลกที่เรากำลังอยู่ใกล้นี้? ทุกหมายสำคัญชี้ถึงความจริงว่าดวลานั้นใกล้หมดแล้ว ย่คสุดท้ายกำลังเข้ามาใกล้

“แต่หมายสำคัญแห่งกาลนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ?” (มัทธิว 16:3)

I. หมายสำคัญแรกบอกว่ายฺคสุดท้ายใกล้เข้ามาคือคริสเตียนในโลกตะวันตกและในที่อื่นๆมีการละทิ้งความเชื่อไป

หนังสือพิมพ์ฉบับ ยูเอส ทูเดย์ ได้กล่าวในหัว้อ “สำรวจการละทิ้งศาสนาของคนอเมริกัน” (USA Today, March 7, 2002, pp. 1A, 1D, 7D)

ในสหรัฐอเมริกาคนละทิ้งการเอาจริงเอาจังในคริสต์ศาสนา เหมือนกับที่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรและยุโรปและที่อื่น ๆ นี่คือเปอร์เซ็นต์ในเจ็ดรัฐที่กล่าวว่าพวกเขา "ไม่มีศาสนา"

วอชิงตัน       25%
เวอร์มอนต์    22%
โคโลราโด    21%
โอเรกอน      21%
เนวาดา        20%
ไวโอมิง        20%
แคลิฟอร์เนีย 19%

สิ่งที่แสดงให้เห็นนี้จริงๆคือพวกฮิปปี้เก่านั่นเอง - ความจริงที่เป็นเช่นนี้ – พวกเขาบูชาตัวเองแทนที่จะไปที่คริสตจักรอย่างที่พระคัมภีร์ในฮีบรู 10:25 สอนเรา พวกเขานมัสการรับใช้ "ธรรมชาติมากกว่าพระผู้สร้าง" (โรม 1:25) "อ้างว่าตัวเองเป็นคนฉลาด [ที่สุดของยุคฮิปปี้] ... กลายเป็นคนโง่" (โรม 1:22)

พระคริสต์ทรงตรัสว่าความรักที่แท้จริงของคริสเตียนหายไปในโลกตะวันตก เหมื่อนยุคสุดท้ายใกล้เข้ามา:

“ความรักของคนเป็นอันมากจะเยือกเย็นลง เพราะความชั่วช้าจะ [แผ่ขยาย] ออกไป” (มัทธิว 24:12)

พวกฮิปปี้แก่ๆที่มีอายุระหว่าง 51 และ 71 โกหกคนหนุ่มสาวว่า คุณสามารถออกจากคริสตจักรไปนมัสการธรรมชาติและไม่จำเป็นต้องไปที่คริสตจักร คนฮิปปี้แก่เหล่านี้หลอกคุณ! โกหก! พูดโกหก! มันเป็นเรื่องโกหก! ในศตวรรษที่สาม! (AD 200-258) ซินเบรียนบอกว่า "ถ้าคุณไม่มีคริสตจักรเป็นแม่ของคุณ คุณก็ไม่สามารถมีพระเจ้าเป็นพ่อของคุณเช่นกัน!" บอกพวกเขาว่าผมเห็นด้วยกับซินเบรียน! นักปฏิรูปผู้ยิ่งใหญ่อย่าง จอห์น คาลวิน กล่าวอย่างเดียวกัน! หากคุณไม่มีคริสตจักรท้องถิ่นเป็นแม่ของคุณ คุณก็ไม่สามารถมีพระเจ้าเป็นพ่อของคุณด้วยเช่นกัน!

ซินเบรียนกลับใจใหม่ในช่วงปลายของชีวิต เขาได้รับเลือกให้เป็นบาทหลวงในคริสตจักรที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาที่เมืองคาร์เธจ เขาต่อต้านบิชอปแห่งโรมเรื่องอำนาจการนำที่ไม่เท่าเทียมกันของศิษยาภิบาล สมเด็จพระสันตะปาปาสตีเฟ่นแห่งกรุงโรมขู่ว่าจะคว่ำบาตรซินเบรียนที่ไปวิจารณ์ระเบียบวินัยใน คริสตจักร หลายคนได้ออกจากคริสตจักรภายใต้การกดขี่ข่มเหงอย่างรุนแรงโดยพวกโรมัน ซินเบรียนต่อว่าพวกเขาโดยกล่าวว่าไม่ควรปล่อยให้คนใดคนหนึ่งถวายตัวแบบไปๆมๆหรือซ้ำๆ สมเด็จพระสันตะปาปาสตีเฟนแย้งว่าการทำง่ายๆเช่นนี้เพื่อเปิดโอกาศให้ผู้ที่หนีออกจากคริสตจักรเพราะถูกขมเหงกลับมา แต่ซินเบรียนก็แย้งว่าถึงอย่างนั้นก็ตาม ก็ไม่ควรปล่อยให้คนเหล่านั้นกลับมาแบบง่ายๆเช่นนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาแห่งโรมจึงขู่ว่าจะคว่ำบาตรซินเบรียน แต่เขาก็รอดพ้นจากการถูกคว่ำบาตรและการทรมานจากคนต่างศาสนา เขายึดมั่นในคริสตจักร ซินเบรียนยังเน้นถึงคริสตจักท้องถิ่นอย่างที่เขาเรียกว่า "คริสตจักรที่มองเห็นด้วยตา" เขารู้สึกว่าผู้ที่ออกจากคริสตจักรท้องถิ่นที่มองเห็นด้วยตาเพราะถูกกดขี่ข่มเหง ควรตรวจสอบอย่างละเอียดและให้กลับใจใหม่ ก่อนที่จะมาเป็นสมาชิกในคริสตจักรในท้องถิ่น ความคิดของซินเบรียนในประเด็นนี้ เป็นเหมือนโปรเตสแตนต์ในยุคแรก หากสมเด็จพระสันตะปาปาสตีเฟนยอมฟังเขาสักนิด คริสตจักรคาทอลิกในทุกวันนี้คงจะเข้มแข็งมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นี้

ผมเชื่อว่าคริสตจักรแบ๊บติสของเราต้องการคนรุ่นใหม่มาเป็นนักเทศน์ ที่มีความกล้าหาญพอที่จะต่อว่าบาทหลวง เหมือนอย่างผู้รับใช้ในยุคต้นที่ยึดถือระเบียบวินัยของคริสตจักรอย่างจริงจัง และผมจะใช้คำพูดของซินเบรียนและจอห์นคาลวิน "หากคุณไม่มีคริสตจักรท้องถิ่นเป็นแม่ของคุณ คุณก็ไม่สามารถมีพระเจ้าเป็นพ่อของคุณด้วยเช่นกัน! " (cf. J. D. Douglas, Who’s Who in Christian History, Tyndale House, 1992, pp. 186-187) บอกทุกคนว่าผมเห็นด้วยกับซินเบรียน ท่านเป็นคนยอมตายเพราะยึดมั่นในความเชื่อ ผมเห็นด้วยกับเขาที่ว่าคุณต้องซื่อสัตย์ต่อคริสตจักรของคุณตลอดไป ผมเห็นด้วยกับเขาและกับจอห์น คาลวิน คนที่บอกคุณว่าคุณควรออกจากคริสตจักรคือพวกโกหก คนที่บอกคุณว่าพวกเขาเป็นคริสเตียนที่ไม่เข้าร่วมนมัสการในคริสตจักรในวันอาทิตย์ พวกนั้นเป็นผู้โกหกหลอกลวง นั่นเป็นเรื่องโกหกที่มาจากซาตาน "คริสเตียน" ที่ไม่เข้าร่วมในคริสตจักรท้องถิ่นเป็นหมายสำคัญของยุคสุดท้าย!

“แต่หมายสำคัญแห่งกาลนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ?” (มัทธิว 16:3)

II. หมายสำคัญที่สองของยุคสุดท้ายคือความสับสนทางจิตที่เกิดจากยาเสพติด โทรทัศน์ วิดีโอเกม "ท่องเน็ต" และดูภาพลามกอนาจาร

พระคัมภีร์กล่าวว่าคนจะเลวทรามยิ่งกว่าสัตว์ เพราะบาปของพวกเขาในยุคสุดท้าย พระคัมภีร์กล่าวว่า

“แต่จงเข้าใจข้อนี้ด้วย คือว่าในวันสุดท้ายนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุคเป็นคน ... เป็นคนหาความใส่เขา เป็นคนไม่มีสติรั้งใจ เป็นคนดุร้าย เป็นคนชังคนดี” (2 ทิโมธี 3:1, 3)

คำภาษากรีกแปลว่า "อันตราย" พบเพียงที่เดียวในพันธสัญญาใหม่ ซึ่งใช้ให้กับชายที่ชื่อว่า กาดารา เขาถูกวิญญาณเข้าสิงโดยบอกว่าเขาเป็นคน "ดุร้าย" (มัทธิว 8:28) คำภาษากรีกแปลว่า "รุนแรง" เช่นเดียวกับคำว่า "อันตราย" ใน 2 ทิโมธี 3: 1 คำนั้นคือ "chalepos" และหมายถึง "อันตรายรุนแรง" (Strong’s) คนที่เป็นเช่นนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากมาย - " อันตรายและรุนแรง" เราเห็นอยางนี้ตามข่าวต่างๆ

คุณจำได้หรือเปล่าจากรายงานข่าวที่ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในเมืองฟอร์ตเวิร์ รัฐเท็กซัส? เธอเป็นผู้ช่วยพยาบาล เธอเป็นคนที่ "ติดยา" เธอขับรถไปชนผู้ชายคนหนึ่งและชายคนนั้นก็กระเด็นไปติดอยู่ที่กระจกหน้ารถของเธอ เธอกลับไม่สนใจและขับรถเข้าไปจอดในโรงรถของเธอและปิดประตูไว้ ชายที่ถูกชนนี้ติดอยู่ในกระจกหน้ารถของเธอเป็นเวลาสามวัน และค่อยๆเสียชีวิตเพราะสูญเสียเลือดไปมาก หลายวันต่อมาเธอจึงเดินออกไปเพื่อดูว่าเขาตายหรือยัง เขาเสียชีวิตสามวันต่อมา หลังจากนั้นเธอก็นำศพนี้ใส่รถไปทิ้งในสวนสาธารณะแรนท์เคาน์ตี้ ต่อมาอัยการในรัฐเท็กซัสบอกว่า "เป็นความโหดร้ายที่เกินคำบรรยาย ใจร้ายมั้ย? ไร้มนุษยธรรมมั้ย? บางทีเราต้องนิยามใหม่ว่าคนไร้มนุษยธรรม" (Los Angeles Daily News, March 8, 2002, p. 1) โปรดจำไว้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นผู้ช่วยพยาบาล และโปรดทราบว่าผู้หญิงคนนี้บอกว่าตัวเองเป็นคริสเตียนด้วย ตอนนี้เรามีฆาตกรเลือดเย็นที่เรียกตัวเองว่าคริสเตียน! คุณเชื่อหรือไม่! คริสเตียนที่แท้จริงไม่ทำเช่นนั้น!

คุณไม่สามารถใช้ "ยาอี" หรือยาเสพติดอื่น ๆ แค่ครั้งเดียวถึงจะเป็นคนที่โหดร้าย คนที่มีวิญญาณชั่วควบคุมจะดุร้ายและอันตราย ทุกวันนี้คนที่มีวิญญาณชั่วควบคุมนั้นอยู่เต็มตามท้องถนน พวกเขาติดโทรทัศน์และภาพยนตร์ และภาพยนตร์เหล่านั้นเต็มไปด้วยแวมไพร์ ซอมบี้ ฆาตกรรม ทรมาน เลือดและความบ้าบิ่น แย่ลงทุกปี! ชาวอเมริกันได้กลายเป็นพวกกระหายเลือดเหมือนชาวโรมันโบราณ - ที่โยนคริสเตียนให้สิงโต – และนั่งอยู่บนอัฒจันทร์ส่งเสียงโห่ร้องดูคริสเตียนเหล่านี้นถูกสิงโตฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย! คนสมัยนี้ได้รับอิทธิพลจากมาร คนเหล่านี้ที่ถูกมารควบคุมพยายามบอกคุณให้หนีออกจากคริสตจักรของคุณ หลายคนที่ออกจากคริสตจักรของเราเมื่อยี่สิบปีที่ผ่านมาได้โจมตีเราในอินเทอร์เน็ต พวกเขาทำเหมือนถูกวิญญาณเข้าสิง ผมเชื่อว่าบางคนในนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของซาตาน เราต้องบอกให้เอฟบีไอถึงจะหยุดการโจมตีของพวกเขาได้! พวกเขาไม่กลัวพระเจ้า แต่กลับกลัวเอฟบีไอ! สรรเสริญพระเจ้า! พระคัมภีร์กล่าวว่า

“เปโตรจึงกล่าวอีกหลายคำเป็นพยานและได้เตือนสติเขาว่า [วิปลาสคดเคี้ยวเหยเก Strong’s] จงเอาตัวรอดจากยุคที่คดโกงนี้เถิด” (กิจการ 2:40)

ความป่วยทางจิตและความรุนแรงของคนจำนวนมากเพราะถูกปีศาจเข้าสิง นั่นเป็นหมายสำคัญบอกว่ายุคสุดท้ายใกล้ามาแล้ว

“แต่หมายสำคัญแห่งกาลนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ?” (มัทธิว 16:3)

III. หมายสำคัญที่สามแห่งยุคสุดท้ายคือพวกก่อการร้ายมีอยู่ทั่วโลก

นิตยสารไทม์กล่าวว่า

ระเบิด [นิวเคลียร์] 10-พันตันระเบิดในนิวยอร์กหรือไม่? ยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่มันก็อาจจะมี หกเดือนหลังจากวันที่ 11 กันยายน อเมริกา [คือ] มีปัญหาหรือหมดหวังที่จะแก้ไขระบบ ก่อนที่จะมีการโจมตีตามมา ในฐานะที่เป็นสายลับของเรา พยายามที่จะกระชับสุทธิสืบถามว่าเราสามารถหยุดการโจมตีหรือไม่ (มีนาคม 11, 2002, หน้า 24-25)

ไทม์ก็ไม่แน่ใจว่าเราจะสามารถปกป้องตัวเองได้หรือไม่ บทความจบลงด้วยคำเหล่านี้ "ตอนนี้เราตกไปเป็นที่น่ารังเกียจ คำถามสำคัญคือไม่ว่าเราจะทำอะก็ตาม"(อ้างแล้ว. พี. 37) นิตยสารไทม์ยังบอกเราอีกว่า

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าผู้ก่อการร้ายกำลังทำงานเพื่อหาวิธีที่จะก่อความเสียหายในสหรัฐซึ่งยังคงไม่ได้ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตี

[ผู้ก่อการร้ายนั้นถูกสร้างขึ้นมา] อุปกรณ์ที่บรรจุในยูเรเนียมนั้นสามารถแพร่กระจายรังสีบริเวณกว้างก่อให้เกิดความตื่นตระหนกทั้งโลก (ibid., pp. 26-27)

พวกมุสลิมหัวรุนแรงอาจระเบิดระเบิดในนิวยอร์กหรือลอสแอนเจลิส? นิตยสารไทม์คิดว่าพวกเขาอาจจะทำ สำนักข่าวรอยเตอร์ของอังกฤษมีรายงานที่น่ากลัวเรื่อง "ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าโลกจะจมอยู่ใต้น้ำโดยนิวเคลียร์" (มีนาคม 6, 2002, www.reuters.com)

ดร. ลิยูดมิลา ไซท์เจวา แห่งมหาวิทยาลัย สเตนฟอร์ด กล่าวว่า "มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างแท้จริง" นักวิจัยนานาชาติได้รวบรวมสิ่งที่พวกเขาบอกว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกจะหายไป โดยวัตถุนิวเคลียร์ - โลกจะจมอยู่ใต้น้ำด้วยธาตุยูเรเนียมและพลูโตเนียมที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ บริการข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า "ข้อเท็จจริงที่น่าสะพรึงกลัว" (อ้างอิง) ตอนนี้อิหร่านกำลังสร้างอาวุธนิวเคลียร์โจมตีอเมริกาและอิสราเอล ใครจะหยุดพวกเขาได้? โอบามาหรือคลินตันฮิลลารี ไม่ใช่เลย! พวกเขากลับทำข้อตกลงกับอิหร่านจะช่วยให้พวกเขาทำอาวุธนิวเคลียร์! พระเจ้าโปรดช่วยเราด้วย! กับชนิดขผู้นำที่เราอยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตรายวันนี้!

โลกจะระเบิดในเปลวไฟความร้อน? พระคัมภีร์กล่าวว่า:

“ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เทขันของตนลงที่ดวงอาทิตย์ และทรงให้อำนาจแก่ดวงอาทิตย์นั้นที่จะคลอกมนุษย์ด้วยไฟ ความร้อนแรงกล้าได้คลอกคนทั้งหลาย และพวกเขาพูดหมิ่นประมาทพระนามของพระเจ้า …” (วิวรณ์ 16:8-9)

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพระเจ้าอนุญาตให้อิหร่านมีอิสระปล่อยชนิดเปลวไฟที่ร้ายแรงนี้? หากนครลอสแอนเจลิสถูกเผาด้วยแรงของนิวเคลียร์จะเกิดอะไรขึ้นให้กับคุณ? คุณจะทำอย่างไรเมื่อโลกอยู่ในไฟ? คุณจะซ่อนที่ไหนในเวลาเราถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์

ในวัยหนุ่มนั้น บิลลี่ เกรแฮม มักจะกล่าวถ้อยคำนี้ซึ่งเกี่ยวกับการพิพากษาด้วยไฟ

เมื่อผู้เผยพระวจนะพูดถึงไฟแห่งการพิพากษาโลก หรือตอนเปโตรกล่าวถึงไฟในยุคสุดท้ายนั้น มันไม่ได้หมายถึงไฟที่ให้ความอบอุ่นในยามหนาว แต่นั่นเป็นไฟแห่งการทำลายล้างอย่างพลังงานนิวเคลียร์ โดยอะตอมต่างๆ ... แน่นอนมันเป็นไฟแห่งการพิพากษาโลกของคนชั่ว (Billy Graham, World Aflame, Doubleday, 1965, pp. 246-247).

ตอนไฟแห่งพระพิโรธของพระเจ้าลงมาพิพากษานครลอสแอนเจลิส คุณจะทำอย่างไรเพื่อที่จะหลบหนีพ้น? เมื่อมุสลิมหัวรุนแรงทำความชั่ว "สกปรก" ยิงระเบิดนิวเคลียร์ใส่เมืองของเรา และทำให้เกิดหลุมนรก คุณจะซ่อนตัวที่ไหน?

คนที่ไม่ยอมกลับใจใหม่จะไม่เตรียมตัวเพื่อให้รอดจากไฟของพระเจ้า ที่จะส่งลงมาบนโลกในยุคสุดท้ายนี้ วิธีเดียวที่จะเตรียมความพร้อมนั้นคือมาที่คริสตจักรที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งพระคัมภีร์ และเข้าร่วมการนมัสการทุกครั้ง ฟังคำเทศนาและให้ชีวิตของคุณขึ้นอยู่กับนั้น จากนั้นให้ตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกลับใจใหม่แล้ว - และอย่าเข้าร่วมกับคริสตจักรที่จอมปลอม

นั่นแหละคือสาเหตุที่คฺณต้องมาที่พระคริสต์ ผู้เป็นคนกลางระหว่างคนบาปกับพระเจ้า พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อชดใช้ความผิดของคุณ พระโลหิตของพระองค์ชำระบาปของคุณ พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย พระคริสต์เป็นขึ้นมาจากความตายและเสด็จสู่สวรรค์ประทับ ณ พระหัตถ์ขวาของพระเจ้า คุณต้องมาที่พระคริสต์เพื่อรับความรอด

คุณต้องวางใจในพระองค์ถึงจะกลับใจใหม่ได้ และมาสามัคคีธรรมกับผู้เชื่อในคริสตจักรแบ๊บติสต์ และกลายเป็นสมาชิก คุณต้องกลับใจใหม่เท่านั้นถึงจะรอดพ้นจากไฟที่จะมาเผาเมืองนี้ วางใจพระองค์ จงมาเดียวนี้ - ตอนที่คุณยังมีเวลาเหลืออยู่! อาเมน

หากคุณได้รับพระพรจากบทเทศนานี้ ดร. ไฮเมอร์ส อยากจะได้ยินจากคุณ ตอนที่เขียนจดหมายถึง ดร. ไฮเมอร์ส กรุณาบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือหากท่านไม่อาจตอบอีเมลล์ของท่าน หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่านว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร และนี่คืออีเมล์ของดร.ไฮเมอร์ส – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนส่งจดหมายส่ง ดร. ไฮเมอร์ส ทางไปรษณีตามที่อยู่นี้ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015. คุณสามารถโทรศัพท์ไปท่านได้ที่ (818)352-0452

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร.ไฮเมอร์ส ในแต่ละสัปดาห์ทางอินเทอร์เน็ทได้ที่
at www.sermonsfortheworld.com.
คลิกที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net
– หรือเขียนจดหมายส่งไปให้เขาที่ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015.
หรือโทรศัพท์ถึงเขาที (818) 352-0452.

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดยท่าน อาเบล บรูดโฮมมี: มัทธิว 16:1-4.
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดย ท่าน เบนจามิน คินเคด กรีฟฟี่:
“In Times Like These” (Ruth Caye Jones, 1902-1972).

โครงร่างของ

หมายสำคัญของกาลเวลา

SIGNS OF THE TIMES

โดย ดร. อาร์ เอล ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

“โอ คนหน้าซื่อใจคด ท้องฟ้านั้นท่านทั้งหลายยังอาจสังเกตรู้และเข้าใจได้ แต่หมายสำคัญแห่งกาลนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ?” (มัทธิว 16:3)

I.    หมายสำคัญแรกบอกว่ายฺคสุดท้ายใกล้เข้ามาคือคริสเตียนในโลกตะวันตกและในที่อื่นๆมีการละทิ้งความเชื่อไป ฮีบรู 10:25; โรม 1:25, 22; มัทธิว 24:12.

II.   หมายสำคัญที่สองของยุคสุดท้ายคือความสับสนทางจิตที่เกิดจากยาเสพติด โทรทัศน์ วิดีโอเกม "ท่องเน็ต" และดูภาพลามกอนาจาร 2 ทิโมธี 3:1, 3;
มัทธิว 8:28; กิจการ 2:40.

III.  หมายสำคัญที่สามแห่งยุคสุดท้ายคือพวกก่อการร้ายมีอยู่ทั่วโลก วิวรณ์ 16:8-9.