เราได้เรียนรู้อะไรจากพระธรรม 1 โครินธ์ในสองบทแรก? หนึ่งในนั้นคือการรู้ถึงผู้เชื่อในยุคต้น คุณไม่อาจอ่านบทนี้โดนที่ไม่รู้เลยว่าพระเยซูคือศูนย์กลางของพวกเขา คนที่คิดว่าฉลาดได้ปฏิเสธพระเยซู “คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าการประกาศเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่ แต่พวกเราที่รอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า” (1:18). “ประกาศเรื่องพระคริสต์ผู้ทรงถูกตรึงที่กางเขนนั้น (1:23). “พระคริสต์ทรงเป็นฤทธานุภาพและพระปัญญาของพระเจ้า” (1:24) “ในพระเยซูคริสต์ เพราะพระเจ้าทรงตั้งพระองค์ให้เป็นปัญญา ความชอบธรรม การแยกตั้งไว้ และการไถ่โทษ สำหรับเราทั้งหลาย” (1:30) “เพราะข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะไม่แสดงความรู้เรื่องใด ๆ ในหมู่พวกท่านเลยเว้นแต่เรื่องพระเยซูคริสต์ และการที่พระองค์ทรงถูกตรึงที่กางเขน” (2:2). ดร. เจ เวนนอน แมคกี้ กล่าวว่า
เปาโลไม่ได้พูดแบบปรัชญา ... เขาประกาศถึงพระเยซูพระคริสต์ผู้ถูกตรึงบนไม้กางเขน เพราะว่าท่านเทศนาถึงพระผู้ช่วยให้รอดผู้ถูกตรึงที่กางเขน นั่นคือพันธกิจที่สมควรทำในทุกวันนี้ (J. Vernon McGee, Th.D., Thru the Bible, volume 5, Thomas Nelson Publishers, 1983, p. 13; note on I Corinthians 2:2)
“ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า” (I โครินธ์1:31)
ภาษากรีกแปลคำว่า "พระสิริ" ว่า "โอ้อวด" - เพื่อแสดงถึงความภาคภูมิใจ พวกอัครสาวกภูมิใจที่ได้ประกาศถึงพระคริสต์ – ภาคภูมิใจในพระคริสต์ – โอ้อวดในพระคริสต์ - “ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า” คริสเตียนในยุคต้นพูดเกี่ยวกับพระคริสต์มากจนทำให้บรรดาผู้ที่ไม่เชื่อกล่าวหาว่าเป็นพวกนมัสการคนยิวที่ตายแล้ว ดร. ไมเคิล กรีน กล่าวว่า "มีตัวอย่างหนึ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนี้ [ที่พูดถึงพระเยซูคริสต์] อยู่ในหน้าหนังสือของเด็กที่ฝ่ากำแพงกรุงโรม มันเป็นภาพวาดในช่วงต้นศตวรรษที่สามโดยเป็นฝีมือ [เด็กคนหนึ่ง] ภาพนั้นมีเด็กชายคนหนึ่งกำลังยืนชูมือข้างหนึ่งนมัสการ ต่อหน้าไม้กางเขนที่มีร่างเป็นคนแต่ศีรษะเป็นลา นั่นคือภาพของ 'อาเล็กซามินอสนมัสการพระเจ้าของเขา' เห็นได้ชัดว่าหนึ่งในหน้าหนังสือเหล่านั้นต้องเขียนโดยคริสเตียนและไม่มีความอับอายต่อการกระทำเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะถูกเยาะเย้ยโดยเพื่อนที่โรงเรียนก็ตาม แต่เขาก็ไม่รู้สึกใดๆ [อับอาย] ... ยังมีอีกบันทึกซึ่งแตกต่างไปจากนี้ [ชี้ถึง] ความจงรักภักดีของอาเล็กซามินอส ภาพวาดการ์ตูนนี้บางทีนี่อาจสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายที่มีต่อพระคริสต์ก็เป็นได้ ผมเองก็คิดว่านั่นจะเป็นอย่างนั้น" (Michael Green, D.D., Evangelism in the Early Church, William B. Eerdmans Publishing Company, 1970, pp. 174, 175)
ผมได้คัดลอกภาพวาดกราฟฟินี้โดยตรงจากภาพดั้งเดิม นี่คือภาพวาดในแบบต้นฉบับที่นำมาจากฝาผนังที่ปาลาตินฮิลล์ในกรุงโรมในช่วงปลายศตวรรษที่สอง
ตอนที่ผมมองไปที่ภาพการ์ตูนโบราณนี้ทำให้ผมถึงกับน้ำตาไหล ตอนนั้นเขาเป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ อายุประมาณ 10 หรือ 12 ขวบ ได้ลุกขึ้นยืนเพื่อพระเยซู! และเด็กเลวคนนั้นได้วาดภาพของเขาที่กำลังนมัสการพระเยซู – ที่มีศีรษะเป็นลา! ผมคิดว่าน่าจะ "ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเด็กเช่น อเล็กซามินอส!"เด็กชายและเด็กหญิงเช่นนั้นที่ได้กระจายพระกิตติคุณของพระคริสต์ไปทั่วชาวโรมัน! เอาไว้ผมค่อยพบคุณในสวรรค์นะอาเล็กซามินอส! ผมอธิษฐานว่าเราจะมีอนุชนในคริสตจักรของเราเป็นเช่นดั่งเขา – ชายหนุ่มและหญิงสาวที่โอ้อวดเกี่ยวกับพระคริสต์ - ไม่ว่าพวกเขาจะถูกเยาะเย้ยและถูกหัวเราะเยาะโดยคนรุ่นนี้ที่ปฏิเสธพระเจ้าก็ตาม! ครอบครัวของ Duggar ถูกใส่ร้ายถูกลงประชาทัณฑ์โดยที่ไม่มีการพิจารณาคดี พวกเขามีลูกสิบเก้าคน สิบสองปีที่ผ่านมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งได้ทำมิดีมิร้ายให้กับพวกน้องสาวของเขา พ่อแม่ของเขาเลยพาเขาไปหาตำรวจ เขามีอายุแค่ 15 ปี ดังนั้นจึงต้องมีการลงบันทึกเอาไว้ ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหัวหน้าตำรวจที่ไร้สมองในเมืองเล็ก ๆ ในรัฐอาร์คันซอได้เปิดเผยบันทึกนี้ให้กับสื่อ พวกเขาได้ตรึงครอบครัวนี้ที่กางเขนและเรียกบ้านหลังนั้นว่า "บ้านที่น่าสะพรึงกลัว" ทำไมพวกเขาถึงถูกทำเช่นนี้? นั่นเป็นเพราะครอบครัวของ Duggars เป็นสมาชิกที่คริสตจักรแบ๊บติส - เพราะพวกเขาเป็นคริสเตียน!!!มีสองพี่น้องได้ไปหาฟ็อกซ์นิวส์ เพราะพวกเธอเชื่อว่านี้คือที่เดียวที่สามารถให้ความเป็นธรรมให้พวกเธอได้
หญิงสาวสองคนนี้ไปหาฟ็อกซ์นิวส์เพื่อหาหนทางที่จะปกป้องพ่อแม่ของพวกเธอ จากนั้นผมเห็น Whoopi Goldberg แสดงกิริยาที่น่าเกลียดออกทางใบหน้าเหมือนปีศาจกรีดร้องใส่พวกเธอและตะโกนว่า "อย่านำพระเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง!" "ให้พวกคริสเตียน! อย่าได้ใส่ใจ! อย่าได้ใจเลย"- การกระทำต่อเด็กผู้หญิงนี้ไม่แตกต่าง หรือเท่ากับว่าโยนพวกเธอเข้าในถ้ำสิงโตให้ฉีกร่างพวกเธอเหมือนสมัยโบราณในยุคของเนโรในกรุงโรม! Whoopi Goldberg เป็นเหมือนกับเนโรหรือคาลิกูลา! "ฆ่าคริสเตียน! ฆ่าพวกเขา! ฆ่าพวกเขา! ฆ่าพวกเขา" พระเจ้าทรงโปรดช่วยพวกเราด้วย - คนที่ควบคุมสื่อ! ในโลกที่โหดร้ายและชั่วร้ายนี้ ขอให้อนุชนทั้งหลายในเช้านี้กล่าวว่า "ความจงรักภักดีของอาเล็กซามีนอส"
“เพื่อให้เป็นไปตามที่เขียนว่า ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า” (1 โครินธ์ 1:31)
มนุษย์ไม่สามารถเปรียบกับพระองค์ได้
ในบรรดาบุตรทั้งหลายของมนุษย์
พระองค์เท่านั้นที่ทรงยุติธรรม
ที่เปี่ยมล้มด้วยพระพรในสวรรค์
ที่เปี่ยมล้มด้วยพระพรในสวรรค์
เพื่อพระองค์ฉันเป็นหนี้ชีวิตและลมหายใจของฉัน
และทุกความสุขที่ฉันมี
พระองค์ทรงทำให้ฉันมีชัยเหนือความตาย
และช่วยฉันจากหลุมฝังศพ
และช่วยฉันจากหลุมฝังศพ!
(“Majestic Sweetness Sits Enthroned” by Samuel Stennett, 1727-1795)
คุณสามารถมีสื่ออยู่ด้านซ้าย! และคุณสามารถมี Whoopi Goldberg และพวกเสรีนิยมทั้งหมด พวกเกลียดพระเจ้า และคนทั้งในฮอลลีวู้ด! คุณสามารถมีพวกเขาได้! แต่พวกเขาไม่มีอะไรที่จะให้คุณได้! ไม่มีอะไร! ไม่มีอะไร! ไม่มีอะไร! - "ความจงรักภักดีของอาเล็กซามินอส" "ความจงรกภักดีของอาเล็กซามินอส" เป็นพระเจ้าผู้เป็นที่รัก! และเป็นเช่นนั้น!
“เพื่อให้เป็นไปตามที่เขียนว่า ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า” (1 โครินธ์ 1:31)
เราไม่ได้มาที่คริสตจักรเพื่อความสนุกสนาน เราไม่ได้มาเพื่อฟัง “ทีมนมัสการ” ร้องเพลงเหมือนอย่างการแสดงในผับที่ลัสเวกัส เราไม่ได้มาฟังเรื่องตลก เรื่องเล่าจูงใจ เราสามารถฟังเรื่องตลกจาก จิมมี่ ฟาลอน เราสามารถอ่านเรื่องเล่าตลกในหนังสือ เราไม่ได้มาคริสตจักรเพื่อฟังเพลงร็อค “คริสเตียน” นั่นมีแต่ความว่างเปล่า ไม่ได้สัมผัสจิตวิญญาณของเราเลย เหมือนเราเคี้ยวลมอยู่ในปาก มีแต่ความว่างเปล่า และเสียเวลาเปล่าๆ!
วันเสาร์ที่ผ่านมา ผมและภรรยาได้ไปที่คริสตจักรใหญ่แห่งหนึ่งในเมือง ออแรจ์น ใกล้กับนครเซนดิเอโก เปิดเสียงดนตรีดังมากๆ เป็นดนตรีแนวร็อค เป็นอะไรที่ผมไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
หลังจากนั้นผู้คนก็เดินออกมา พวกเขาต่างก็มึนงง สับสนเดินออกมาเหมือนพวกผีดิบที่ "ฟื้นคืนชีพ" ไม่มีใครยิ้ม ไม่มีใครพูด ไม่มีการทักทายกันและกัน พวกเขาต่างคนต่างออกมาคนเดียว – ผลของความบันเทิง ดร. เดวิด เวลส์ กล่าวว่า "ความเหงาเป็นโรคระบาดในโลกสมัยนี้ นี่คือโรคที่ถูกตัดขาดจากกันและกัน ไม่แนไม่นอน ไม่มีหลักแหล่งไม่มีแก่นแท้จะมีก็แค่แต่ความเลื่อนลอย อยู่อย่างโดดเดี่ยวในโลกแห่งความแตกต่าง" (David F. Wells, Ph.D., The Courage to be Protestant, Eerdmans, 2008, p. 33)
ดร. เวลส์เป็นนักศาสนศาสตร์ และท่านก็กล่าวถูกต้อง "ความเหงาเป็นโรคระบาดในโลกสมัยนี้" แต่คริสตจักรที่ใหญ่ๆกลับไม่มีคำตอบให้กับเรื่องความเหงา ทั้งหมดที่พวกเขามีคือดนตรีวงร็อค - และแต่ละคนก็สะดุดขาตัวเอง - เหมือนหลังจาเกมในสนาม! แล้วคำตอบคืออะไรล่ะ? คำตอบที่แท้จริงคือคริสตจักรที่มีพระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลาง พระคริสต์ทรงเป็นคำตอบ - ไม่ใช่เพลงร็อค พระคริสต์ทรงเป็นคำตอบ - ไม่ใช่คนทั้งหลายที่เงียบเหงา! คริสตจักรใหญ่ในสมัยนี้ไม่มีอะไรที่จะให้! ไม่มีอะไร! ไม่มีอะไร! ไม่มีอะไร! ต้องมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางเท่านั้น ตลอดจนการประกาศถึงพระคริสต์ และคริสตจักรที่ยำเกรงพระองค์เท่านั้นถึงมีคำตอบ! คำตอบนี้คือตัวของพระเยซูคริสต์เอง เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในปลายยุคศตวรรษที่สองเทนั้นรู้ดี นั่นเป็นเหตุผลที่ "อาเล็กซามินอสนมัสการพระเจ้าของเขา!" นั่นคือ “ความจงรักภักดีของอาเล็กซามินอส"
“เพื่อให้เป็นไปตามที่เขียนว่า ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า” (1 โครินธ์ 1:31)
แล้วความรอดล่ะ? คุณเคยได้ยินบรรดานักเทศน์ "ใหญ่มีชื่อเสียง" พูดเกี่ยวกับความรอดหรือไม่? โอ้พระเจ้า ผมได้ยินพวกเขาเทศน์แต่เรื่องอื่นๆ! พวกเขาพูดถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ พวกเขาพูดถึงความรู้สึกดีๆ พวกเขาพูดถึงแต่เรื่องการประสบความสำเร็จ มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อ โจเซฟ พรินส์ พูดแต่เรื่องพระคุณ แต่แล้วใครล่ะที่กล่าวถึงความรอด? ผมไม่เคยได้ยินเลย! ใครพูดถึงไม้กางเขนบ้าง? ผมไม่เคยได้ยินเลย! ใครบ้างที่พูดถึงพระโลหิต ผมไม่เคยได้ยินเลย! ใครล่ะที่เทศนาถึงพระเยซู? ผมไม่เคยได้ยินเลย!
ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีชายชาวคิวบาคนหนึ่งเขียนอีเมล์มาให้ผม เพราะบทเทศนาของผมเหล่านี้ส่งออกไปทั่วทุกมุมโลก - กว่า 200 ประเทศใน 32 ภาษา ดังนั้นชาวคิวบาคนนี้จึงได้อ่านด้วย เลยเขียนจดหมายมาให้ผม เขาบอกว่า เขายอมจำนนต่อพระคริสต์และได้รับบัพติศมาแล้ว แต่ต่อมาเพื่อนของเขาคนหนึ่งบอกเขาเกี่ยวกับการทรงเลือก เขาบอกว่านั่นทำให้เขาสับสน เขาบอกว่าหลังจากได้ยินเกี่ยวกับการทรงเลือก ทำให้เขาสงสัยในความรอดของเขา ผมไม่เข้าใจเรื่องนั้น! กับผมแล้วสำหรับคุณดูเหมือนว่า การทรงเลือกทำให้คุณมั่นใจในความรอดของคุณ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ แต่ขึ้นอยู่กับพระคริสผู้เดียว! อาเมน! แต่เขาเริ่มต้นดู พอ วอเชอร์ และอ่านหนังสือของ จอห์น แมคอาเธอ นอกจากนี้เขายังอ่านบทเทศนาของ เรย์ คอมเฟร์ท "ความลับแห่งนรก" จากนั้นเขายังเห็นวิดีโอเกี่ยวกับคาลวินที่เรียกว่า "พระคุณ" ทั้งหมดนี้ทำให้เขาสับสน ดังนั้นเขาจึงเขียนจดหมายมาถึงเราและบอกว่า "ผมเชื่อว่า ผมต้องการให้คุณแนะนำหนังสือเกี่ยวกับธรรมบัญญัติ และหนังสือเกี่ยวกับการคิด การเตรียมตัวต่อความเชื่อในบาป" เขาบอกว่า "ผมต้องการเข้าใจธรรมบัญัติมากกว่านี้" นี่คือข้อความที่ผมตอบกลับไปให้เขา
เท่าที่รู้คือคุณไม่ได้พูดถึงพระคริสต์เลย! คุณเขียนอีเมล์มาให้ผมพูดแต่เรื่องการเชื่อและบทบัญญัติ โดยที่ไม่พูดถึงพระเยซูคริสต์ การสิ้นพระชนม์ และรับการชำระโดยพระโลหิตเลยแม้แต่นิด! นี่คือวิธีการของผู้ติดตามคาวิลในสมัยนี้ คุณใช้เวลามาอ่านหนังสือของ พอ วอเชอร์ และ จอห์น แมคอาเธอ เป็นเวลาหลายชั่วโมงและคิดแต่เรื่องกฏบัญญัติ แทนที่จะมาพูดถึงพระเยซูคริสต์! นี่คือสิ่งที่ผมตำหนิตคนที่ชื่อ วอเชอร์ แมคอาเธอ และเรย์ คอนเฟอร์ท พวกเขาเทศนาเก่งในเรื่องธรรมบัญญัติมากกว่าพระคุณ! (คลิกที่นี่ไปอ่านบทเทศนาของผมในหัวข้อ ช๊อกกับคำเทศนาให้พวกอนุชน - ผมตอบคำถามของพอล วอเชอร์!)
หลังจากนั้นผมก็ส่งบทเทศนาของผมสองบทไปให้เขา: “ตัวของพระเยซูคริสต์เอง” และ “What Think Ye of Christ?” นั่นคือที่เขาต้องการ – คือตัวของพระเยซูคริสต์เอง! และนี่คือสิ่งที่คุณต้องการด้วย – พระเยซูคริสต์เอง!
“เพื่อให้เป็นไปตามที่เขียนว่า ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า” (1 โครินธ์ 1:31)
มนุษย์ไม่สามารถเปรียบกับพระองค์ได้
ในบรรดาบุตรทั้งหลายของมนุษย์
เป็นธรรมเขากว่าทุกความยุติธรรม
ที่เปี่ยมล้มด้วยพระพรในสวรรค์
ที่เปี่ยมล้มด้วยพระพรในสวรรค์
พระองค์ทอดพระเนตรเห็นข้าฯเป็นทุกข์
และทรงบรรเทาทุกข์ของข้าฯ
พระองค์ทรงยอมอับอายเพราะฉัน
และแบกเอาความทุกข์ของข้าฯ
และแบกเอาความทุกข์ของข้าฯ
ตั้งแต่ที่ข้าฯรับพระกรุณาธิคุณ
นั่นพิสูจฯว่าเป็นความรักของพระเจ้า
ฉันอยากมีพันใจเพื่อรับพระคุณนี้
พระองค์ทุกสิ่งล้วนเป็นของพระองค์
พระองค์ทุกสิ่งล้วนเป็นของพระองค์
การมาที่พระคริสต์นั้นง่ายมาก และเป็นทางเดียวที่เด็กๆในกรุงโรมมาที่พระคริสต์ – และคุณก็สามารถเข้ามาด้วย! อาเล็กซามินอสนมัสการพระเจ้าของเขา! พระเจ้าของเขาถูกตอกตะปูที่กางเขน ทรงทนทุกข์และชดใช้บาปของอาเล็กซามินอส
โรเบิร์ต ไฮเมอร์ส นมัสการพระเจ้าของเขา! พระเจ้าของเขาถูกตอกตะปูที่กางเขน ทรงทนทุกข์และชดใช้บาปของโรเบิร์ต ไฮเมอร์ส อาเล็กซามินอสนมัสการพระเจ้าของเขา! พระเจ้าของเขาคือพระเยซูชาวนาซาเล็ธ พระเจ้าของเขาลงมาจากสวรรค์ เพื่อสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อชดใช้บาปของอาเล็กซามินอส และคุณ พระเจ้าของเขาคือพระเยซู พระกายของพระองค์เป็นขั้นมาจากความตายแล้วและขณะนี้สถิตในสวรรค์ – ประทับ ณ พระหัตถ์ขวาของพระบิดา
อาเล็กซามินอสนมัสการพระเจ้าของเขา! โลกนี้พูดว่าพระเจ้าของพวกเขามีหัวเป็นก้น! พวกเขาจึงล้อเลียนถึงการที่อาเล็กซามินอสนมัสการพระเยซู แต่เขาเขียนบนผนังอื่น ๆ "ความจงรักภักดีของอาเล็กซามินอส" ทำไมเขาจงรักภักดี? เพราะพระเจ้าพระเยซูของเขาตรัสว่า
“ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา” (ยอห์น 14:6)
อาเล็กซามินอสนมัสการพระเจ้าของเขา! และโลกทั้งหมดของโรมันได้ล่มสลายลง และรูปเคารพต่างๆพังพินาศลง และความสนุกสนานทั้งหลายต่างก็ละลายหายไป และคริสขึ้นเหนือซากปรักหักพังของโคลีเซียมและวิหารพาร์เธนอน
“เพื่อให้เป็นไปตามที่เขียนว่า ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า” (1 โครินธ์ 1:31)
อาเล็กซามินอสนมัสการพระเจ้าของเขา! และพระคัมภีร์ได้ทำนายว่าจะมีเสียงคลื่นและแผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือน ดวงจันทร์จะเปลี่ยนไปเป็นสีเลือดและอาคารและหินและภูเขาจะพังพินาศลง และอาณาจักรแห่งแผ่นดินโลกจะละลายหายไป คนจะซ่อนตัวอยู่ในซอกหินเพราะความกลัว และพวกเขาต่างก็มีความผิด เว้นแต่เด็กที่เป็นเหมือน "ความจงรักภักดีของอาเล็กซามินอส" คุณวางใจในพระเจ้าของเขาหรือเปล่า? คุณวางใจพระเยซูและรับการชำระบาปทั้งหมดของคุณโดยโลหิตอันมีค่าของพระองค์หรือไม่? ผมอธิษฐานให้คุณทำอย่างนั้น ในพระนามของพระองค์ อาเมน
หากบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ กรุณาเขียนอีเมล์ส่งไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่าน – www.realconversion.com (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์ส ในภาษาของคุณ แต่หากเป็นไปได้ก็ขอให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ
(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร. ฮิวเมอร์ ได้ในแต่ละอาทิตย์ทางอินเตอร์เนทได้ที่
www.realconversion.com. (กดที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”
คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net
– หรือเขียนจดหมายส่งไปให้เขาที่ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015.
หรือโทรศัพท์ถึงเขาที (818) 352-0452.
หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้
อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย ท่าน อาเบล พรูดโฮมมี: 1 โคนริธ์ 1:26-31.
ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดย มร. เบนจามิน คินเคด กริฟฟิท์:
“Majestic Sweetness Sits Enthroned” (Samuel Stennett, 1727-1795).