เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
หมายสำคัญต่างๆถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์SIGNS OF CHRIST’S SECOND COMING โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 17 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2015 ณ “ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้” (มัทธิว 24:3). |
ผมอ่านหนังสือพิมพ์สามฉบับทุกวัน ผมยังใช้เวลาดูทีวีทางเคเบิลทีวีสองสามช่องด้วยกัน ทุกสิ่งที่เราได้ยินข่าวทางทีวีนั้นแสดงให้เห็นว่าโลกของเรามีแต่ความวุ่นวาย การก่อการร้าย สงครามตัวประกันและระเบิดที่เกิดขึ้นทั่วโลกทุกๆวัน คริสตจักรถูกเผาและคริสเตียนถูกตัดศีรษะ ในเร็วๆนี้อิหร่านกำลังจะมีระเบิดนิวเคลียร์ พวกเขากำลังคุกคามพวกเราทุกๆวัน พวกเขาบอกว่าจะระเบิดมืองของเรา จุดมุ่งหมายของการระเบิดนั้นคือการทำลายวิธีชีวิตของเรา ประธานาธิบดี จอห์น เอฟเคนเนดี เป็นคาทอลิก วันหนึ่งในขณะที่ท่านกำลังเล่นกอล์ฟกับบิลลี่ เกรแฮม ท่านบอกเกรแฮมว่าคาทอลิกก็เชื่อการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์ พวกเขามีการท่องความเชื่อที่ว่า "จากที่นั่นพระองค์จะเสด็จมาพิพากษาคนเป็นและคนตาย" แต่ประธานาธิบดีเคนเนดี้ต้องการที่จะทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมาครั้งที่สอง หกสิบปีที่ผ่านมามนขณะที่ เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิล ยังดำรงนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรอยู่นั้น ชายหนุ่มที่ชื่อ บิลลี่ เกรแฮม ทำงานอยู่ที่สำนักงานของท่านที่ 10 ถนนดาวนิงในกรุงลอนดอน เชอร์ชิลบอกเขาว่า "ผมเชื่อว่าโลกนี้จะอยู่ต่อไปอีกไม่นาน ปัญหาของเราอยู่นอกเหนือเรานี้เอง" ผู้นำในทุกวันนี้เกือบทุกคนเชื่อและกลัวว่าทุกอย่างกำลังจะไปเป็นเช่นนั้น ยุคที่ผ่านมากำลังผ่านตาของเราไป ดูเหมือนว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปสู่จุดสุดยอดของประวัติศาสตร์และจุดสิ้นสุดของโลก พวกสาวกกำลังสนใจสิ่งที่พระเยซูทรงสอน พวกเขาจึงถามพระเยซูว่า "เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้” ในภาษากรีกแปลคำว่า "โลก" คือ "Aion" ซึ่งหมายความว่า “ยุค” – ยุคที่เราอยู่ในตอนที้ เราจะเห็นว่าพระเยซูไม่ได้ปฏิเสธที่จะตอบพวกเขา - "สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้ [ยุค]?” แทนที่จะต่อว่าพวกเขา แต่พระองค์กลับบอก “หมายสำคัญ” พวกเขาถามแค่บอกมาสิ่งเดียว แต่พระคริสต์บอกพวกเขาหลายหมายสำคัญด้วยกันตามที่ปรากฏในมาระโก 13 และลูกา 21 มีสามคำสอนที่สอนผิดเกี่ยวกับหมายสำคัญของพระคริสต์ หนึ่ง พวกพรีเตอรีส์ บังคับให้เชื่อหมายสำคัญเหล่านี้เกิดขึ้นในศสมัยตวรรษแรกแล้ว พวกเคลวิน ในสมัยนี้จำนวนมากก็เชื่ออย่างนั้นด้วย ผมคิดว่าพวกเขาเชื่อผิด ตัวอย่างเช่นในข้อที่ 14 นั้นไม่ใช่อธิบายที่ศตวรรคที่หนึ่ง ข้อนี้กล่าวว่า “ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรนี้จะประกาศไปทั่วโลกให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:14) นี่คือการกล่าวล่วงหน้าของพระเยซูคริสต์ ซึ่งชัดเจนว่านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ เรารู้ว่าพวกสาวกประกาศพระกิตติคุณไปทั่วจักรวรรดิโรมัน แต่พวกเขาไม่ได้ประกาศไป "ทั่ว โลก" - แน่นอนอย่างทวีปอเมริกาเหนือและใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย หมู่เกาะทางทะเลและที่อื่น ๆ มัทธิว 24:14 กล่าวว่าต้องไป "ทั่วโลก" จากนั้นผมคิดว่าคำสอนผิดอย่างที่สอนคือสอนว่าหมายสำคัญนี้บอกถึงเหตูการณ์ในอนาคต ที่กล่าวถึงความทุกข์ยากลำบากในเจ็ดปี นั่นคือสิ่งคริสเตียนสมัยนี้เชื่อกัน ดังนั้นผมจึงคิดว่าเป็นความผิดพลาดที่สอนว่านั่นเกิดขึ้นในศตวรรษแรก - และผมก็คิดว่าสอนผิดที่บอกว่าหมายสำคัญนั้นกล่าวถึงความหายนะครั้งใหญ่ ผมเชื่อว่า "หมายสำคัญ" ที่ทรงบอกให้เรานั้นคือยุคแห่งความชั่วนี้ นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การเทศนาน้อยมากเกี่ยวกับหมายสำคัญนี้ กับผมแล้วดูเหมือนว่าคนในปัจจุบันนี้ปฏิเสธหมายสำคัญนี้ด้วยตัวเอง! ผมเองก็กลัวว่าจะมีนักเทศน์บางคน “จะเยาะเย้ย” และบอกว่า "ไหนล่ะที่เป็นพระสัญญาที่บ่งบอกถึงการเสด็จมาของพระองค์" (2 เปโตร 3: 3-4) และผมก็เชื่อว่าการปฏิเสธของหมายสำคัญนี้แสดงให้เห็นว่า "เมื่อเจ้าบ่าวยังช้าอยู่ พวกเธอทุกคนก็พากันง่วงเหงาและหลับไป" (มัทธิว 25:5) คริสตจักรที่นอนหลับไม่ต้องกาได้ยินเกี่ยวกับหมายสำคัญเหล่านี้ มันอาจจะปลุกให้พวกเขาขึ้น! ดร. ม.ร.ว. ดีฮาม กล่าวว่า "มีสองอย่างที่เป็นอันตราย หนึ่ง การสอนที่เป็นอันตรายเกี่ยวกับเรื่องของวันเวลา และสองความชั่วร้ายตรงข้ามอย่างพวกวิญญาณชั่วจะไม่สนใจหมายสำคัญเหล่านั้น ... " (M. R. DeHaan, M.D., Signs of the Times, Kregel Publications, 1997 edition, p. 13) พวกนักเทศน์ก็ปฏิเสธหมายสำคัญนี้ในทุกวันนี้! จากนั้นคำสอนผิดที่สามคือเกิดในปี 2011 แฮโรลด์ แคมป์บอกถึงวันและชั่วโมงของพระคริสต์ที่สด็จมาในหมู่เมฆ เขาบอกว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม 2011 เวลา 6 โมงเย็น แน่นอนว่าเขาสอนผิด พระเยซูตรัสอย่างชัดเจนว่า " แต่วันนั้น โมงนั้น ไม่มีใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์ในสวรรค์ก็ไม่รู้" (มัทธิว 24:36) ถ้าใครบอกคุณว่าพวกเขารู้เวลาที่พระคริสต์จะมาไม่ฟังคนที่! สาวกถามแค่หมายสำคัญหนึ่งอย่างเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระองค์ "และในยุคสุดท้ายของ [ยุค]" แต่พระคริสต์ทรงบอกพวกเขาหมายหมายสำคัญด้วยกัน ผมจะนำหมายสำคัญของพระเยซู และพวกสาวกสักสองสามอย่างมาเล่าในที่นี้ I. อับดับแรก หมายสำคํญในคริสตจักร หมายสำคัญแรกพระเยซูกล่าวในมัทธิว 24:4-5, “พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ระวังให้ดี อย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านให้หลง ด้วยว่าจะมีหลายคนมาต่างอ้างนามของเรา กล่าวว่า ‘เราเป็นพระคริสต์’ เขาจะล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป” (มัทธิว 24:4-5). นี่ดูเหมือนว่าจะกล่าวถึงวิญญาณชั่ว ที่อ้างว่าพวกเขาเป็นพระคริสต์ อาจารย์เปาโลเตือนเราว่า “พระคริสต์อีกองค์หนึ่ง ที่ไม่ได้เทศนา” ( 2 โครินธ์ 11:4) อาจารย์เปาโลกล่าวว่า “บัดนี้ พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ในกาลภายหลังจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปีศาจ” (1 ทิโมธี 4:1). วันนี้เราเห็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "วิญญาณ-พระคริสต์" แห่งจีทอสตินิยมหรือพวกที่เชื่อความรู้ได้สอนในคริสตจักรอย่างนี้ว่า พระเยซูคริสต์องค์นี้เป็นเพียงแค่วิญญาณ ไม่มีเนื้อกระดูกจริงตามเหมือนคนที่สอนในพระคัมภีร์ แต่พระคัมภีร์กล่าวว่า "และวิญญาณทั้งปวงที่ไม่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมนุษย์ วิญญาณนั้นก็ไม่ได้มา จากพระเจ้า วิญญาณนั้นแหละเป็นปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมา และบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว" (1 ยอห์น 4: 3) ในทุกฉบับแปลสมัยนี้ ยกเว้นเพียง KJV แปลข้อนั้นได้ถูกต้อง! คำภาษากรีกคือ "elēluthota." มันมีอยู่ในรูปการเขียนแบบเน้นเหตุการณ์ในปัจจุบันอย่างสมบูรณ์ นั่นแสดงให้เห็นว่าคำตรัสของพระเยซูคริสต์กล่าวถึงปัจจุบัน (cf. Jamieson, Fausset and Brown) พระค้มภีร์ฉบับ KJV กล่าวถึงคำตรัสของพระคริสต์ถูกต้องดังนี้ "มาในสภาพมนุษย์" พระองค์เสด็จมาอย่างมนุษย์ และก็อยู่อย่างนั้น ตอนพระองค์เป็นขึ้นมาจากความตายนั้นมาในสภาพที่มีเนื้อหนัง หลังจากที่พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย พระเยซูทรงตรัสว่า "บางคนที่อยู่กับเราก็ไปจนถึงอุโมงค์ และได้พบเหมือนพวกผู้หญิงเหล่านั้นได้บอก แต่เขาหาได้เห็นพระองค์ไม่" (ลูกา 24:39) ดังนั้นวันนี้กลุ่มที่เรียกว่า จิตวิญญาณ-พระคริสต์นั้นมาจากมาร! อีกครั้งหนึ่งในพระเยซูทรงตรัสเอาไว้ในมัทธิว 24:24 “ด้วยว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จและผู้พยากรณ์เทียมเท็จเกิดขึ้นหลายคน และจะทำหมายสำคัญอันใหญ่และการมหัศจรรย์ถ้าเป็นไปได้จะล่อลวงแม้ผู้ที่ทรงเลือกสรรให้หลง” (มัทธิว 24:24). อย่าให้เราหลงไปเชื่อ “หมายและคำสอนหลอกลวง” จากคนชั่วร้ายในทุกวันนี้ “เพราะคนอย่างนั้นเป็นอัครสาวกเทียม เป็นคนงานที่หลอกลวง ปลอมตัวเป็นอัครสาวกของพระคริสต์ การกระทำเช่นนั้นไม่แปลกประหลาดเลย ถึงซาตานเองก็ยังปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์แห่งความสว่างได้ เหตุฉะนั้นจึงไม่เป็นการแปลกอะไรที่ผู้รับใช้ของซาตานจะปลอมตัวเป็นผู้รับใช้ของความชอบธรรม ท้ายที่สุดของเขาจะเป็นไปตามการกระทำของเขา” (2 โครินธ์ 11:13-15). อาจารย์เปาโลเตือนเราว่า “เพราะจะถึงเวลาที่คนจะทนต่อคำสอนอันถูกต้องไม่ได้ แต่เขาจะรวบรวมครูไว้ให้สอนในสิ่งที่เขาชอบฟัง ตามความปรารถนาของตนเอง เพราะมีหูที่คันและเขาจะบ่ายหูจากความจริง หันไปฟังเรื่องนิยายต่าง ๆ” (2 ทิโมธี 4:3-4). ผมเชื่อว่าเรากำลังอยู่ในช่วงที่คนละทิ้งความเชื่อ “หลงหายไป” อาจารย์เปาโลกล่าวล่วงหน้าเอาไว้ว่าใน 2 เธสะโลนิเก 2:3 พระเยซูทรงตรัสอีกครั้งหนึ่งว่า “ความรักของคนเป็นอันมากจะเยือกเย็น [เกิดขึ้น] ลง เพราะความชั่วช้าจะแผ่ขยายออกไป” (มัทธิว 24:12). พระคริสต์ทรงตรัสเอาไว้ว่าในยัคสุดท้ายนั้นความรักของผู้เชื่อในคริสตจักรจะเยือกเย็นลง คริสตจักรต่างๆเปิดการนมัสการในช่วงเย็นลง เพราะการนมัสการที่แท้จริงนั้นเป็นเพียงแค่อดิต สมาชิกในคริสตจักรไม่มีความรักต่อกันและกันเหมือนคริสตจักรในยุคต้น (cf กิจการ 2: 46-47) นอกจากนี้พระเยซูยังตรัสอีกว่าในยุคสุดท้ายนั้นการอธิษฐานจะมีน้อยลง (cf ลูกา 18: 1-8) จึงไม่แปลกใจที่การอธิษฐานในปัจจุบันนี้แถบไม่มี เช่นการนมัสการในคืนวันพุธ (ถ้ามี) ก็เปลี่ยนจากการอธิษฐานไปเป็นเข้าศึกษาพระคัมภีร์ แน่นอนนี่เป็นหมายสำคัญถึงยุคสุดท้าย! "แต่เมื่อบุตรมนุษย์มา ท่านจะพบความเชื่อ [ความเชื่อแห่งการอธิษฐาน] ในแผ่นดินโลกหรือ" (ลูกา 18: 8) แต่โปรดจำตามที่พระเยซูทรงกล่าวเอาไว้ “เมื่อเหตุการณ์ทั้งปวงนี้เริ่มจะบังเกิดขึ้นนั้น จงยืดตัวและผงกศีรษะขึ้น ด้วยการไถ่ท่านใกล้จะถึงแล้ว” (ลูกา 21:28). ร้องบทเพลงนมัสการบทที่ 3 ในข้อที่สอง! กลางคืนคือความมืด ความบาปต่อต้านฉัน II. ประการที่สอง หมายสำคัญเกี่ยวกับการกดขี่ขมเหง พระเยซูทรงตรัสว่า “ในเวลานั้นเขาจะมอบท่านทั้งหลายไว้ให้ทนทุกข์ลำบากและจะฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่าง ๆ จะเกลียดชังพวกท่านเพราะนามของเรา คราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไปและทรยศกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกัน” (มัทธิว 24:9-10). “ม้ว่าพี่ก็จะทรยศน้องให้ถึงความตาย พ่อก็จะมอบลูก และลูกก็จะทรยศต่อพ่อแม่ให้ถึงแก่ความตาย ท่านจะถูกคนทั้งปวงเกลียดชังเพราะเห็นแก่นามของเรา แต่ผู้ที่ทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด” (มาระโก 13:12-13). การกดขี่ขมเหงเกิดขึ้นมากมายไปทั่วโลก ลองคลิกที่นี่เพื่อไปอ่าน www.persecution.com. ISIS กำลังฆ่าคริสเตียนเป็นนับพันๆคน เป้าหมายที่พวกเขาบอกไว้คือทำลายคริสเตียนทั่วโลก! ตอนนี้การต่อต้านคริสเตียนนี้กำลังรุนแรงโลกตะวันตก ศิษยาภิบาลที่ซื่อสัตย์ถูกโจมตีโดยคริสเตียนบางคนในคริสตจักรให้เกิดการแตกแยก ผู้ปกครองบางคนข่มเหงลูกๆของตัวเองที่กลายเป็นคริสเตียนอย่างเอาจริงเอาจัง! ที่น่าตกใจคือคริสเตียนบางคนถูกขังอยู่คนเดียว พ่อแม่ไม่เคยไปเยี่ยมเลย! ผู้รับใช้หลายคนบอกผมว่าอีกไม่นานคริสเตียนในอเมริกาจะถูกกดขี่ขมเหงหนักยิ่งกว่า แต่โปรดจำคำตรัสของพระเยซู “ท่านทั้งหลายจะเป็นสุขเมื่อคนทั้งหลายจะเกลียดชังท่าน และจะไล่ท่านออกจากพวกเขา และจะประณามท่าน และจะเหยียดชื่อของท่านว่าเป็นคนชั่วช้า เพราะท่านเห็นแก่บุตรมนุษย์ในวันนั้นท่านทั้งหลายจงชื่นชม และเต้นโลดด้วยความยินดี เพราะ ดูเถิด บำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะว่าบรรพบุรุษของเขาได้กระทำอย่างนั้นแก่พวกผู้พยากรณ์เหมือนกัน” (ลูกา 6:22-23). ร้องบทเพลงนมัสการบทที่ 3 ในข้อที่สองอีกครั้งหนึ่ง! กลางคืนคือความมืด ความบาปต่อต้านฉัน III. ประการที่สาม หมายสำคัญที่ว่าการประกาศข่าวประเสริฐจะออกไปทั่วโลก ลองสังเกตให้ดีถึงหมายสำคัญเหล่านี้ว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไรท่ามกลางหมายสำคัญเหล่านั้น กรุณายืนขึ้น ผมจะอ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ในมัทธิว 24:9-14 “ในเวลานั้นเขาจะมอบท่านทั้งหลายไว้ให้ทนทุกข์ลำบากและจะฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่าง ๆ จะเกลียดชังพวกท่านเพราะนามของเราคราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไปและทรยศกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกัน จะมีผู้พยากรณ์เท็จหลายคนเกิดขึ้นและล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป ความรักของคนเป็นอันมากจะเยือกเย็นลง เพราะความชั่วช้าจะแผ่ขยายออกไปแต่ผู้ที่ทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรนี้จะประกาศไปทั่วโลกให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:9-14). พวกคุณนั่งได้ "พระกิตติคุณแห่งแผนดินของพระเจ้า" ถูกกล่าวอย่างง่ายๆว่าเป็น "พระกิตติคุณ" มาระโก 13:10 กล่าวว่า "ข่าวประเสริฐจะต้องประกาศทั่วประชาชาติทั้งปวงก่อน" ในท่ามกลางของการเลิกเชื่อและการกดขี่ขมเหง พระคริสต์ทรงกล่าวว่า มีการประกาศพระกิตติคุณออกไปทั่วโลก "แล้วที่สุดปลายจะมาถึง" (มัทธิว 24:14) การพยากรณ์ไหน? มีสถานที่อีกไม่มากที่พระกิติคุณยังไปไม่ถึง โดยทางอินเตอร์เนท วิทยุ รายการทีวีต่างๆและโดยมิชชั้นนารีที่เป็นพันๆคน – พระกิตติคุณแพร่กระจายออกไปทั่วโลกในทุกวันนี้! มัทธิว 24:11-14 กำลังจะสำเร็จในยุคของเรา! คริสตจักรในโลกตวันตกได้มีการปิดการนมัสการในช่วงเย็นลง ด้วยเหตุนี้พระกิตติคุณจึงมีการประกาศไปยังโลกที่สามอย่าง – จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้กับม้ง และให้กับพวกคนจนในอินเดีย! การละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟู – เป็นอย่างนั้นในเวลาเดียวกัน – เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงกล่าวเอาไว้! อะไรถึงเป็นเช่นนี้! และนี่คืออย่างที่เกิดขึ้น เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงตรัสเอาไว้! “ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรนี้จะประกาศไปทั่วโลกให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:14) ฮาเลลูยา! พระเยซูจะเสด็จมาอีกครั้ง! พระเยซูจะเสด็จมาอีกครั้ง! กลางคืนคือความมืด ความบาปต่อต้านฉัน คุณรู้จักพระคริสต์หรือไม่? คุณพร้อมหรือเปล่าตอนพระคริสต์เสด็จมา? คุณกลับใจใหม่แล้วหรือยัง? "การถวายตัวใหม่" เท่านั้นไม่ได้ช่วยให้คุณรอดได้ บางคนบอกว่าพวกเขากลับมาที่พระคริสต์เหมือนอย่างบุตรน้อยหลงหาย แต่พระคัมภีร์ไม่เคยบอกว่าบุตรน้อยหลงหายเคยรอดแล้วครั้งหนึ่ง แล้วแค่กลับมาถวายตัวใหม่ ไม่เลย! พระคัมภีร์กล่าวชัดๆว่าบุตรน้อยคนนี้หลงหายไป! พ่อของเขาเองกล่าวว่า “เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นอีก หาย ไป แล้ว แต่ได้พบกันอีก เขาทั้งหลายต่างก็เริ่มมีความรื่นเริงยินดี” (ลูกา 15:24). คุณหลงหายดังนั้นต้องมาที่พระเยซูคริสต์! คลิกที่นี่ไปอ่าน “The Method of Grace” by the great evangelist George Whitefield (1714-1770) ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณหลงหาย คุณจะไม่มาที่พระเยซู คุณจะไม่วางใจพระองค์ผู้เดียว คุณจะไม่พบกับการกลับใจใหม่ที่แท้จริง และคุณจะไม่ได้รับการชำระจากบาปโดยโลหิตของพระคริสต์ หรือถูกสร้างใหม่ผ่านการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ โอ้พระเจ้า เราจะอธิษฐานอย่างไรให้กับจิตวิญญาณของคนที่หลงหาย การได้ยินหรือการอ่านต้นฉบับนี้หรือดูผมเทศนาใน YouTube หรือทางเว็บไซต์ของเรา และเชื่อว่าเป็นคนบาปและต้องการวางใจในพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ อาเมน ถ้าบทเทศนานี้เป็นพระพรให้กับคุณ ขอให้เขียนอีเมล์ไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส และบอกท่าน – rlhymersjr@sbcglobal.net (คลิกที่นี่) คุณสามารถเขียนถึง ดร. ไฮเมอร์สในภาษาของคุณ แต่เป็นไปได้ก็ขอให้เป็นภาษาอังกฤษ (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย ท่าน อาเบล พรูดโฮมมี: มาระโก 13:1-13. |
โครงร่างของ หมายสำคัญต่างๆถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ SIGNS OF CHRIST’S SECOND COMING โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้” (มัทธิว 24:3). (มัทธิว 24:1-2; ลูกา 21:20-24; มัทธิว 24:14, 36) I. อับดับแรก หมายสำคํญในคริสตจักร มัทธิว 24:4-5; II. ประการที่สอง หมายสำคัญเกี่ยวกับการกดขี่ขมเหง มัทธิว 24:9-10; III. ประการที่สาม หมายสำคัญที่ว่าการประกาศข่าวประเสริฐจะออกไปทั่วโลก มัทธิว 24:9-14; มาระโก 13:10; ลูกา 15:24. |