เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
การกลับใจใหม่ของเปโตรTHE CONVERSION OF PETER โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 3 เดือนเมษายน ค.ศ. 2015 ณ “และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ซีโมน ซีโมนเอ๋ย ดูเถิด ซาตานได้ขอพวกท่านไว้เพื่อจะฝัดร่อนพวกท่านเหมือนฝัดข้าวสาลีแต่เราได้อธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้ขาด และเมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน”” (ลูกา 22:31-32). |
ปัจจุบันนี้ผมได้เทศนาสามกันณ์ในหัวข้อพระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูเร็มเพื่อไปสิ้นพระชนม์ที่นั่น คุณสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ – “Determined to Suffer;” “The Fear of the Disciples;” และ “คำนั้นก็ถูกซ่อนไว้จากเขา” ในกันณ์แรกนั้นเป็นบทนำ ส่วนในกันณ์ที่สองนั้นกล่าวถึงสองและความกลัวและความไม่เชื่อของพวกสาวก แสดงอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกสาวกไม่ เชื่อ ใน พระกิตติคุณจนกระทั่งพระคริสต์ฟื้นคืนจากความตาย พระเยซูคริสต์ทรงตรัสว่า “บุตรมนุษย์จะต้องถูกมอบไว้ในเงื้อมมือของคนทั้งหลาย และเขาจะประหารท่านเสีย เมื่อประหารแล้ว ในวันที่สามท่านจะเป็นขึ้นมาใหม่ แต่ถ้อยคำนี้เหล่าสาวกหาเข้าใจไม่ ครั้นจะทูลถามพระองค์ก็เกรงใจ” (มาระโก 9:31-32) คำแนะนำในประโยคที่ว่า “ถ้อยคำนี้เหล่า [พระกิตติคุณ] สาวกหาเข้าใจไม่ ครั้นจะทูลถามพระองค์ก็เกรงใจ” ดร. เอ ที โรเบิร์ต์สัน กล่าวว่า พวกเขายังคงไม่เข้าใจอีกต่อไป พวกเขาอาศัยความรู้ [ไม่เชื่อ] ที่กล่าวถึงการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์ และการเป็นขึ้นมาจากความตาย แม้หลังจากเป็นขั้นมาแล้ว...เหมือนอย่างตอนที่พวกเขามาที่ภูเขาต่างก็สงสัยและไม่เชื่อในเรื่องการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระคริสต์ (มาระโก 9:10) มัทธิว 17:23 กล่าวว่า “พวกเขาอาจรู้เศร้าใจที่ได้ยิน [พระเยซูครืสต์ตรัสการสิ้นพระชนม์ของพระองค์]” แต่มาระโกกล่าวเสริมว่ะพวกเขา “จะทูลถามพระองค์ก็เกรงใจ” (A. T. Robertson, Litt.D., Word Pictures in the New Testament, Broadman Press, 1930, volume I, p. 344; note on Mark 9:32) นี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกสาวกไม่เชื่อพระกิตติคุณของพระคริสต์จนกระทั่งหลังจากที่พระองค์ฟื้นจากความตายมาแล้ว ดร. เจ เวอร์นอน แมคกี้ กล่าวว่าพวกสาวกยังไม่ได้บังเกิดใหม่ (ถูกสร้างใหม่) จนกว่าพวกเขาจะได้พบกับพระคริสต์ผู้ฟื้นคืนพระชนม์ในตอนเย็นของวันอีสเตอร์ ดร. แมคกี้ กล่าวว่า "ผมเองเชื่อว่าในขณะคริสต์ทรงเทลมหายใจให้กับพวกเขา [ยอห์น 20:22] คนเหล่านี้ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ ก่อนหน้านี้พวกเขายังไม่ได้รับพระวิญญาณของพระเจ้า" (J. Vernon McGee, Th.D., Thru the Bible, Thomas Nelson Publishers, volume IV, p. 498; note on John 20:21) จากการศึกษาพระคัมภีร์ของผม ผมเองก็เชื่อว่าซีโอน เปโตร ยังไม่ได้บังเกิดใหม่และยังไม่ได้กลับใจใหม่ จนกระทั่งเขาได้พบกับพระเยซูผู้ฟื้นคืนพระชนม์ในเย็นของวันอีสเตอร์ ยังกล่าวในอีกที่หนึ่งว่า “และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ซีโมน ซีโมนเอ๋ย ดูเถิด ซาตานได้ขอพวกท่านไว้เพื่อจะฝัดร่อนพวกท่าน เหมือนฝัดข้าวสาลีแต่เราได้อธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้ขาด และเมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” (ลูกา 22:31-32). ซาตานได้ยูดาห์เรียบร้อยแล้ว “ฝ่ายซาตานเข้าดลใจยูดาส” (ลูกา 22:3) ตอนนี้พระเยซูทรงตรัสให้กับ เปโตรว่า “ซาตานได้ขอพวกท่านไว้เพื่อจะฝัดร่อนพวกท่าน [ด้วย] เหมือนฝัดข้าวสาลี” (ลูกา 22:31) ในระหว่างที่พระคริสต์ทรงทนทุกข์นั้น เปโตรำด้เข้าสู่ช่วง “แห่งการต่อสู้กับตัวเองจนตัวสั่น” เหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ (Dr. R. C. H. Lenski) เปโตรอาจมีบาความเชื่อ และพระคริสต์ก็ทรงอธิษฐาน “อย่าให้เขาล้มลง” สเปอร์เจียนเรียกความเชื่อของเปโตรว่า “ความเชื่อก่อนความเชื่อ” ซึ่งแสดงถึงก่อนการกลับใจใหม่ พระเจ้าได้สำแดงให้เขาเห็นแสงสว่างแล้ว จนเขาสามารถพูดได้ว่า “พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” (มัทธิว 16:16) ตอนนี้พระเยซูทรงอธิฐานให้เปโตรเพื่อให้ความเชื่อของเขาไม่ต้องตกภายใต้การครอบงำของซาตาน ก่อนที่เขาจะถูกสร้างใหม่และกลับใจใหม่ในวันอิสเตอร์ “เมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” (ลูกา 22:32) การอธิบายในที่นี่ไม่ได้เป็นไปตามในข้อนี้ แต่ผมคิดว่าความจริงก็น่าจะเป็นอย่างนั้น กรุณาอดทนกับผมและรอให้จนถึงตอนจบ อย่าด่วนสรุปไปตัดสินผม นี่คือสามจุดที่ทำให้ผมเชื่อในพระเยซูคริสต์ ตามพระธรรมของเราตอนนี้พูดถึง ซีโมน เปโตร กลับใจใหม่ในตอนเย็นของวันอีสเตอร์ I. ประการแรก ข้อนี้กล่าวถึงการกลับใจใหม่ของเปโตร เพราะพระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์ และฉบีบเจนีวาปี 1599 แปลคำว่า “กลับใจใหม่” จากภาษากรีกได้อย่างถูกต้อง ผมทราบว่าพระคัมภีร์ฉบับบ NIV แปลคำนี้ว่า “หันกลับ” ฉบับ NASV แปลคำนี้ว่า “หันกลับอีกครั้ง” แต่มันทำให้ผมไม่เข้าใจและเกิดความสับสน เพราะตามรากศัพท์เดิมที่เป็นภาษากรีกที่ใช้นั้นจะเป็นเหมือนกับที่ใช้ในกิจการ 15:3 ซึ่งกล่าวถึง “การกลับใจใหม่ของคนต่างชาติ” (ดูฉบับ the NIV and NASV ซึ่งสองเล่มนี้ต่างก็แปลว่า “กลับใจใหม่”) ทำไมในภาษากรีกคำว่า “epistrephō,” “epistrophe,” ถึงแปลว่า “หันกลับ” ในพระธรรมลูกา 22:32 และ “กลับใจ” ใน กิจการ 15:3? ผมคิดว่าเหตุผลนั้นง่ายมากแก่การเข้าใจ – เพราะว่าคนต่างชาติจำเป็นต้อง “กลับใจใหม่อย่างแท้จริง” ส่วน ”หันกลับ” ไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่ฉบับแปลสมัยหรือปัจจุบันได้พูดถึงเปโตรในลูกา 22:32 ตามศาสนศาสตร์ที่เรียกกันว่า “พวกตักสินใจนิยม” หรือ “decisionist” หากตามข้อสันนิษฐานแล้วอาจเป็นเพราะพวกเขาไม่อนุญาตให้ใช้คำว่า “กลับใจ” ตาม KJV ฉับบเก่า และ ฉับบ พระคัมภีร์เจนีวาปี 1599 สำหรับผมแล้วฉบับแปลในปัจจุบันมีความน่าเชื่อถือน้อยมาก ดร. เบอร์นาร์ด แรม กล่าวว่า “การตีความพระคัมภีร์นั้นเป็นแบบวิทยาศาสตร์และเป็นศิลปะอย่างหนึ่งในการอธิบายพระคัมภีร์” (Bernard Ramm, Ph.D., Protestant Biblical Interpretation, Baker Book House, 1970 edition, page 1) ดร. แรม ยังกล่าวอีกว่า “พวกรีฟอร์มบอกว่าพระวจนะอธิบายพระวจนะ” หนึ่งในหลักการของการอรรถธิบายพระคัมภีร์คือให้พระวจนะอธิบายพระวจนะ ถ้านักวิชาการแปล กิจการ 15:3 ว่า “การกลับใจของคนต่างชาติ” พวกเขาก็ควรจะแปลลูกา 22:32 ว่า “ตอนที่มีการกลับใจใหม่” ตามแบฉบับของ เจนีวาปี 1599 และพระคัมภีร์ฉบับคิงเจมศ์! ถึงแม้ว่าพระคัมภีร์ฉบับคิงเจมศ์ฉบับปรับปรุงใหม่อาจจะแปลผิดที่ใช้คำว่า ”การกลับใจใหม่” และย้ำอีกครั้งว่านั่นคือเหตุผลที่ผมชอบใช้พระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์! นำคำพูดของ มูดี้ มากล่าวใหม่ว่า พระคมภีร์ฉบับคิงเจมส์ สะท้อนให้เห็นถึงฉบับแปลใหม่ในสมัยปัจจุบันนี้! และผมก็ค้นพบว่าคำกล่าวนี้ถูกต้องทีเดียว “แต่เราได้อธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้ขาด และเมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” (ลูกา 22:32) เพื่อนๆของผมไม่ใช่คนต่างชาติเท่านั้นที่จะต้องกลับใจใหม่! แต่รวมถึงเปโตรด้วย! ไม่ใช่คนนอกหรือคนอยู่ตามท้องถนนเท่านั้นที่จำเป็นต้องกลับใจใหม่ โอ้ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน ยังรวมถึงคนที่อยู่ในคริสตจักรนี้และในเย็นวันนี้ก็ต้องกลับใจใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่ "หันกลับอีกครั้ง!" ต้องกลับใจใหม่! พระเยซูตรัสว่า "เจ้าจะต้องบังเกิดอีกครั้ง" (ยอห์น 3: 7) คุณต้องถูกสร้างใหม่และกลับใจใหม่ไม่งั้งคุณ "ไม่สามารถเข้าแผ่นดินของพระเจ้า" (ยอห์น 3: 5) “เมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” (ลูกา 22:32) II. ประการที่สอง ข้อนี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครที่จะกลับใจใหม่โดยการติดตามพระเยซูคริสต์ การบัพติศมา หรือการแม้แต่การทรงสำแดงของพระเจ้าให้แก่คนๆนั้น นั่นคือบทเรียนอย่างที่สองที่เราได้เรียนรู้จากการกลับใจใหม่ของเปโตร โรมันคาทอลิกและ “พวกตัดสินใจนิยม” แบ็บติสต์และโปรเตสแตนต์จำนวนมากมายคิดว่าเปโตรกลับใจตอนเขาติดตามพระเยซู พระคัมภีร์กล่าวว่า “ขณะที่พระองค์เสด็จไปตามชายทะเลกาลิลี พระองค์ก็ทรงทอดพระเนตรเห็นซีโมนและอันดรูว์น้องชายของซีโมน กำลังทอดอวนอยู่ที่ทะเล ด้วยว่าเขาเป็นชาวประมง และพระเยซูตรัสกับเขาว่า ท่านจงตามเรามาเถิด และเราจะตั้งท่านให้เป็นผู้หาคนเหมือนคนหาปลา เขาก็ละอวนตามพระองค์ไปทันที” (มาระโก 1:16-18) การคิดว่าพวกสาวกได้รับความรอดโดยการติดตามพระเยซู นั่นเป็นคำสอนผิดที่เป็นของ ปีลาเกียนิยม หรือ Pelagianism และนั่นเป็นความเชื่อผิดๆที่คริสตจักรจำนวนมากในปัจจุบันเชื่อกันอย่างไม่มีข้อสงสัย ใช่เปโตรและแอนดรูว์ “ละอวนตามพระองค์ไปทันที” (มาระโก 1:18) แต่เราจะไม่อาจกลับใจโดยการกระทำใด ๆ ที่เป็นการงานของมนุษย์ เช่นเดียวกันกับ ยูดาส "บุตรแห่งหายนะ" ก็ยังติดตามพระองค์ แต่เขาไม่ยอมกลับใจใหม่ พระกิตติคุณลูกาเรียกเขาว่า “ยูดาสอิสคาริโอทที่เป็นผู้ทรยศพระองค์ด้วย” (ลูกา 6:16) พระเยซูเรียกเขาว่า “มารร้าย” (ยอห์น 6:70) ใช่ ยูดาสและเปโตรติดตามพระเยซูได้สามปี แต่ทั้งสองก็ยังไม่เชื่อในพระกิตติคุณ ลองฟังลูกา 18:31-34 “พระองค์ทรงพาสาวกสิบสองคนไปกับพระองค์แล้วตรัสกับเขาว่า “ดูเถิด เราทั้งหลายจะขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และสิ่งสารพัดซึ่งเหล่าศาสดาพยากรณ์ได้เขียนไว้ว่า ด้วยบุตรมนุษย์นั้นจะสำเร็จด้วยว่าบุตรมนุษย์นั้นจะต้องถูกมอบไว้กับคนต่างชาติ และเขาจะเยาะเย้ยท่าน กระทำหยาบคายแก่ท่าน ถ่มน้ำลายรดท่าน เขาจะโบยตีและฆ่าท่านเสีย แล้วในวันที่สามท่านจะเป็นขึ้นมาใหม่ ฝ่ายเหล่าสาวกมิได้เข้าใจในสิ่งเหล่านั้นเลย และคำนั้นก็ถูกซ่อนไว้จากเขา และเขาไม่รู้เนื้อความซึ่งพระองค์ตรัสนั้น” (ลูกา 18:31-34) “คำนั้นก็ถูกซ่อนไว้จากเขา” “คำนั้น” คืออะไร? คำในพระกิตติคุณนั้นกล่าวว่าพะเยซูจะถูกทำให้สิ้นพระชนม์ และเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่สาม เปโตรและยูดาส “ตักสินใจ” ที่จะติดตามพระเยซู แต่พระกิตติคุณยัง “ซ่อนไว้จากพวกเขา”ดร. ชาร์ลส์ ไรย์รี กล่าวว่า “ยูดาสคือตัวอย่างของสาวกที่ไม่ได้รับความรอด” (Ryrie Study Bible; note on Matthew 10:1) แต่ทำไมถึงเป็นแค่ยูดาสเท่านั้นทั้งที่เปโตรก็ปฏิเสธพระเยซู? เขาทั้งสองต่างก็ไม่เข้าใจในพระกิตติคุณ ซึ่ง “ซ่อนไว้จากพวกเขา” (ลูกา 18:34) เพื่อนๆของผม คุณ "สามารถก้าวออกไปข้างหน้า" ในตอนนมัสการแต่ยังไม่อาจที่จะบังเกิดใหม่ได้ คุณสามารถตัดสินใจที่จะทำตามพระคริสต์ แต่ยังไม่อาจทำให้กลับใจใหม่ได้ คุณยังสามารถพูดตาม "คำอธิษฐานของคนบาป" และยังคงไม่ได้รับความรอด ทำไมล่ะ? เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการงานของมนุษย์ และเราไม่สามารถกลับใจใหม่ด้วยการงานของมนุษย์! พระคัมภีร์กล่าวว่า “ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายเอง ความรอดนั้นเป็นของประทานจากพระเจ้า ไม่ใช่โดยการกระทำใด ๆ ด้วยเกรงว่าคนหนึ่งคนใดจะอวด” (เอเฟซัส 2:8-9) พระวจนะกล่าวว่า “พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้รอด มิใช่ด้วยการกระทำที่ชอบธรรมของเราเอง แต่พระองค์ทรงพระกรุณาชำระให้เรามีใจบังเกิดใหม่ และทรงสร้างเราขึ้นมาใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์นั้นได้ทรงประทานแก่เราทั้งหลายอย่างบริบูรณ์ โดยพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา” (ติตัส 3:5-6) คุณไม่สามารถรับความรอดโดยการติดตามพระเยซู หรือโดยอาศัยการงานของมนุษย์ ตัวผมเองพยายามที่จะรับความรอดโดยทางเหล่านี้ แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ผมเป็นนักเทศน์คณะแบ๊บติสมานานกว่าสามปีก่อนที่พระคริสต์จะช่วยให่ผมรอดโดยพระคุณของพระองค์ จากนั้นผมก็ถูกนำไปยังคริสต์โดยพระเจ้าและทรงชระล้างความผิดบาปของผมโดยพระโลหิตของพระคริสต์ “แต่” บางคนอาจบอกว่า “เปโตรรับบัพติศมาแล้วนะ” ใช่ผมรู้ และยูดาห์ด้วย และผมเองก็รับบัพติศมาแล้ว – เจ็ดปีก่อนที่ผมจะกลับใจใหม่เสียด้วย! “แต่” บางคนก็อาจจะถามว่า “เปโตรมีตวามเชื่อถึงได้พูดอย่างนั้น “พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” (มัทธิว 16:16) – และพระเยซูตรัสว่าพระเจ้าได้ ‘ทรงสำแดง’ ให้กับเขา (มัทธิว 16:17) ใช่ ผมทราบดี นั่นคือพระเจ้าได้ทรงสำแดงให้เขาทราบว่าพระเยซูคือพระคริสต์ให้กับเขาก่อนที่จะกลับใจใหม่ เช่นเดียวกันพระเจ้าก็ยังทรงสำแดงให้พวกวิญญาณชั่ว ผีก็ออกมาจากคนหลายคนด้วย ร้องว่า ท่านเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า...เพราะว่ามันรู้แล้วว่าพระองค์เป็นพระคริสต์ (ลูกา 4:41) มารพูดถึงพระเยซูเช่นเดียวกับเปโตร จึงหมายความก่อนที่เปโตรจะกลับใจใหม่นั้นก็ไม่รู้จักพระคริสต์มากไปกว่ามาร ไม่อาจกลับใจเพียงแค่เพราะติดตามพระเยซู เราไม่อาจกลับใจโดยการรับบัพติศมา และเราก็ไม่สามารถกลับใจใหม่ได้แค่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์ เปโตรมีประสบการณ์เหล่านี้ทั้งหมด แต่พระเยซูยังตรัสให้กับเขาว่า “เมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” (ลูกา 22:32) III. ประการที่สาม พระธรรมข้อนี้ควรจะมองในลักษณะของบอกเรื่องราวทั้งหมดในพระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม พระเยซูทรงสนทนากับเปโตรและคนอื่นๆในพระกิตติคุณทั้งสี่เล่มว่า พระองค์จะเสด็จไปสิ้นพระชนม์ที่กรุงเยรูซาเร็ม และจะเป็นขึ้นมาในวันที่สาม พระเยซูตรัสย้ำอย่างนั้นให้กับพวกเขาถึงห้าครั้งในมัทธิว 16:21; 17:12; 17:22-23; 20:18-19; and 20:28 ดร. เจ เวอนอน แมคกี้ กล่าวถึงเปโตรและคนอื่นๆดังนี้ “พวกสาวกไม่เข้าใจความหมายของ [พระกิตติคุณ] จากการบอกกล่าวนี้ จนกระทั่งหลังการฟื้นคืนพระชนม์” (J. Vernon McGee, Th.D., Thru the Bible, Thomas Nelson Publishers, volume IV, p. 93; note on Matthew 16:21) “เมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” (ลูกา 22:32) “แน่นอน” บางคนอาจพูดว่า “พระคัมภีร์บอกตอนไหนว่าเปโตรกลับใจใหม่หลังจากพระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว?” ทำไม จริงๆแล้วในตอนท้ายของพระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม! โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพระธรรมลูกาบอกอย่างชัดเจว่า “เมื่อเขาทั้งสองกำลังเล่าเหตุการณ์เหล่านั้น พระเยซูเองทรงยืนอยู่ที่ท่ามกลางเขา และตรัสกับเขาว่า ท่านทั้งหลายจงเป็นสุขเถิดฝ่ายเขาทั้งหลายสะดุ้งตกใจกลัวคิดว่าเห็นผี พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่าท่านทั้งหลายวุ่นวายใจทำไมเหตุไฉนความคิดลังเลจึงบังเกิดขึ้นในใจของท่านทั้งหลายเล่าจงดูมือของเราและเท้าของเราว่า เป็นเราเอง จงคลำตัวเราดู เพราะว่าผีไม่มีเนื้อและกระดูกเหมือนท่านเห็นเรามีอยู่นั้นเมื่อตรัสอย่างนั้นแล้ว พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น เมื่อเขาทั้งหลายยังไม่ปลงใจเชื่อ เพราะเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างเหลือเชื่อ และกำลังประหลาดใจอยู่ พระองค์จึงตรัสถามเขาว่า พวกท่านมีอาหารกินที่นี่บ้างไหม เขาก็เอาปลาย่างชิ้นหนึ่งกับรวงผึ้งชิ้นหนึ่งมาถวายพระองค์ พระองค์ทรงรับมาเสวยต่อหน้าเขาทั้งหลาย พระองค์ตรัสกับเขาว่า นี่เป็นถ้อยคำของเรา ซึ่งเราได้บอกไว้แก่ท่านทั้งหลายเมื่อเรายังอยู่กับท่านว่า บรรดาคำที่เขียนไว้ในพระราชบัญญัติของโมเสส และในคัมภีร์ศาสดาพยากรณ์ และในหนังสือสดุดีกล่าวถึงเรานั้น จำเป็นจะต้องสำเร็จ ครั้งนั้น พระองค์ทรงบันดาลให้ใจเขาทั้งหลายเกิดความสว่างขึ้นเพื่อจะได้เข้าใจพระคัมภีร์ (ลูกา 24:36-45) และยอห์นเสริมว่า “ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันแรกของสัปดาห์ เมื่อปิดประตูห้องที่พวกสาวกชุมนุมกันอยู่แล้วเพราะกลัวพวกยิว พระเยซูได้เสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ท่ามกลางเขา และตรัสกับเขาว่า สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด ครั้นพระองค์ตรัสอย่างนั้นแล้ว พระองค์ทรงให้เขาดูพระหัตถ์และสีข้างของพระองค์ เมื่อพวกสาวกเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว เขาก็มีความยินดี พระเยซูจึงตรัสกับเขาอีกว่า สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาของเราทรงใช้เรามาฉันใด เราก็ใช้ท่านทั้งหลายไปฉันนั้น ครั้นพระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงทรงระบายลมหายใจออกเหนือเขา และตรัสกับเขาว่า ท่านทั้งหลายจงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด” (ยอห์น 20:19-22) พระเยซูทรงปรากฏให้แก่เปโตรและคนอื่น ๆ ในตอนเย็นของวันอีสเตอร์ และแสดงแผลที่ฝ่ามือ และแผลที่ถูกหอกแทงด้านข้าง จากนั้นพระองค์ก็ช่วยให้พวกเขาเข้าใจพันธสัญญาเดิมที่กล่าวถึงพระองค์ถูกตรึงบนไม้กางเขน จากนั้นพระองค์ก็เป่าลมให้พวกเขาและแล้วพวกเขาก็ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในขณะนั้นเปโตรก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ในที่สุด (บังเกิดใหม่อีกครั้ง) และกลับใจใหม่ ที่สำคัญคือการทำงานของพระวิญญาณของพระเจ้า ยิ่งกว่านั้นคือการฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์ และบาดแผลที่ฝ่ามือและที่สีข้าง หลังจากนั้นเปโตรก็ไม่สงสัยอีกต่อไป หลายปีต่อมาเปโตรก็เขียนถึงพระเยซูได้อย่างมั่นใจดังนี้ว่า “แบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายซึ่งตายจากบาปแล้ว จะได้ดำเนินชีวิตตามความชอบธรรม ด้วยรอยเฆี่ยนของพระองค์ ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หาย” (1 เปโตร 2:24) นั่น แสดง ให้ เห็น ว่า เปโตร กลับใจ แล้ว จริงๆ! หลังจากที่เปโตรกลับใจในตอนเย็นของวันอีสเตอร์แล้วเขาไม่เคยปฏิเสธพระองค์อีก ตรงกันข้ามเขาประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์จนถึงจุดจบของชีวิตของเขา หลังจากผ่านการความทุกข์ทรมานมากมายเพราะพระคริสต์แล้ว เขาก็ถูกตรึงที่กางเขนในลักษณะกลับหัวลง มีอยู่อีกสิ่งหนึ่ง พระเยซูทรงตรัสถึงเปโตรว่า “เมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” (ลูกา 22:32) จากคำสอนนี้ – ตอนที่กลับใจแล้วจริงๆ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำพูด หรืออาศัยแค่ความรู้สึกของคุณเอง การพิสูจน์ที่แท้จริงคืออย่างนี้ – คุณสามารถหนุนใจคนอื่นได้มั้ย? คุณช่วยคนอื่นได้มั้ย? พระเยซูทรงตรัสให้กับเปโตรในตอนท้ายของพระกิตติคุณยอห์นว่า “เจ้ารักเราหรือเปล่า?” เปโตร ตอบว่า...พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระเยซูตรัสกับเขาว่า จงเลี้ยงแกะของเราเถิด” (ยอห์น 21:17) จากจุดนี้เองเปโตรไม่เคยหวั่นไหวอีกต่อไป ชีวิตที่เหลือนั้นท่านได้เทศนาสอนและนำคนมาพบกับพระเยซู หากคุณกลับใจใหม่อย่างแท้จริง คุณจะสามารถหนุนใจคนอื่น ๆ – และช่วยเหลือคนอื่นและเป็นพระพรให้กับคนที่หลงหาย หากผลนี้ไม่อยู่ในชีวิตของคุณแล้ว นั่นแสดงว่าคุณยังไม่กลับใจใหม่อย่างแท้จริง สิ่งที่คุณทำเป็นเพียงแค่คำพูด และคุณยังไม่ได้ “พบกับพระเยซูเอง” (เอเฟซัส 2:20) เราอธิษฐานขอพระเจ้าทรงนำคุณมาที่พระเยซู เพื่อรับการชำระบาปโดยพระโลหิตของพระองค์! และขอให้คุณจะกลับใจใหม่อย่างแท้จริง เหมือนอย่างเปโตรในวันอาทิตย์อีสเตอร์ อาเมน ดร. ชานกรุณานำเราอธิษฐาน (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ ร้องเพลงเดี่ยวพิเศษโดย มร. เบนจามิน คินเคด กริฟฟิท์: |
โครงร่างของ การกลับใจใหม่ของเปโตร THE CONVERSION OF PETER โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ซีโมน ซีโมนเอ๋ย ดูเถิด ซาตานได้ขอพวกท่านไว้เพื่อจะฝัดร่อนพวกท่านเหมือนฝัดข้าวสาลีแต่เราได้อธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้ขาด และเมื่อท่านได้หันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน”” (ลูกา 22:31-32). (มาระโก 9:31-32, 10; มัทธิว 17:23; ลูกา 22:3; มัทธิว 16:16) I. ประการแรก ข้อนี้กล่าวถึงการกลับใจใหม่ของเปโตร เพราะพระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์ และฉบีบเจนีวาปี 1599 แปลคำว่า “กลับใจใหม่” จากภาษากรีกได้อย่างถูกต้อง กิจการ15:3.
II. ประการที่สอง ข้อนี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครที่จะกลับใจใหม่โดยการติดตามพระเยซูคริสต์ การบัพติศ
III. ประการที่สาม พระธรรมข้อนี้ควรจะมองในลักษณะของบอกเรื่องราวทั้งหมดในพระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม, |