เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
คำอธิษฐานของพระคริสต์ในสวนเกทเสมเนCHRIST’S PRAYER IN GETHSEMANE โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 29 เดือนมีนาคม ค.ศ. 2015 ณ |
พระเยซูทรงรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับเหล่าสาวก หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงนำพวกเขาเข้าไปในสวนเกทเสมเน ที่นั่นพระองค์ทรงละเหล่าสาวกแล้วเดินออกไปยังที่เปลียวเพื่ออธิษฐาน พระองค์ทรงเป็นทุกข์ยิ่งนัก พระองค์ทรงกันแสงขอพระเจ้าทรงช่วยกู้ให้รอดพ้นจากความทุกข์นั้น ในขณะที่พระองค์ทรงอธิษฐานนั้นพระเทโสของพระองค์ก็หลั่งออกมา “พระเสโทของพระองค์เป็นเหมือนโลหิตไหลหยดลงถึงดินเป็นเม็ดใหญ่” (ลูกา 22:44) นั่นนำเราสู่เนื้อหาของเรา และเนื้อหาตอนนี้บอกเรามากมายเกี่ยวกับการอธิษฐานของพระคริสต์ในสวนเกทเสมเน “ฝ่ายพระเยซู ขณะเมื่อพระองค์ดำรงอยู่ในเนื้อหนังนั้น พระองค์ได้ถวายคำอธิษฐาน และทูลวิงวอนด้วยทรงกันแสงมากมายและน้ำพระเนตรไหล ต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ และพระเจ้าได้ทรงสดับเพราะพระองค์นั้นได้ยำเกรง” (ฮีบรู 5:7) ช่างเป็นอะไรที่ดียอดเยี่ยมที่หนังสืออรรถรรธิบายหลายเล่มอธิบายถึงข้อนี้ หนังสือเหล่านั้นต่างกล่าวว่านั่นคือการอธิษฐานของพระคริสต์ในสวนเกทเสมเน แต่มีอยู่หลายเล่มก็บอกว่านั่นเป็นการอธิษฐานของพระเยซูเพื่อขอการช่วยกู้จากพระเจ้าให้รอดพ้นจากการถึงตรึงที่กางเขนในอีกหนึ่งวันข้างหน้า ดร. เลนสกี้ ตอบข้อสงสัยต่างๆเหล่านี้และรวมถึงความสับสนของศาสนศาสตร์ โดยอ้างจากพระธรรมฮีบรู 5:7 (R. C. H. Lenski, Ph.D., The Interpretation of the Epistle to the Hebrews and the Epistle of James, Augsburg Publishing House, 1966 edition, p. 162-165; note on Hebrews 5:7) เราลองมาพิจารณาประโยคต่อประโยค เพราะเกี่ยวข้องกับพระคริสต์ตอนทรงอยู่คนเดียวและอธิษฐานในสวนเกทเสมเนในคืนก่อนที่พระองค์จะถูกตรึงที่กางเขน “ฝ่ายพระเยซู ขณะเมื่อพระองค์ดำรงอยู่ในเนื้อหนังนั้น พระองค์ได้ถวายคำอธิษฐาน และทูลวิงวอนด้วยทรงกันแสงมากมายและน้ำพระเนตรไหล ต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ และพระเจ้าได้ทรงสดับเพราะพระองค์นั้นได้ยำเกรง” (ฮีบรู 5:7) I. ประการแรก ข้อนี้กล่าวถึง “ในเนื้อหนังนั้น” ประโยคนี้แสดงให้เราเห็นว่าข้อความตอนนี้ไม่ได้หมายถึงพระเยซูก่อนที่จะบังเกิดมาเป็นมนุษย์ หรือก่อนเสด็จลงมาจากสวรรค์ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าข้อนี้ไม่ได้หมายถึงประสบการณ์ของพระคริสต์ที่ได้รับก่อนเสด็จกลับสู่สวรรค์ ข้อนี้มุ่งเน้นไปเฉพาะตอนพระเยซูทรงอธิษฐาน "กันแสง" ใน "ในวันเนื้อหนังของพระองค์" ในโลกนี้ พระคัมภีร์บอกเราสามอย่างเกี่ยวกับการทรงกันแสงของพระคริสต์ ครั้งแรกคือที่หน้าหลุมศพของลาซารัส พระวจนะกล่าวว่า “พระเยซูทรงพระกันแสง” (ยอห์น 11:35) พระเยซูทรงกันแสงครั้งที่สองคือเพื่อกรุงเยรูซาเร็ม “ครั้นพระองค์เสด็จมาใกล้ทอดพระเนตรเห็นกรุงแล้ว ก็กันแสงสงสารกรุงนั้น” (ลูกา 19:41) ดร. เจ เวนนอน แมคกี้ กล่าวว่า “พระองค์ทรงกันแสงครั้งที่สามคือที่เกทเสมเน” (J. Vernon McGee, Th.D., Thru the Bible, Thomas Nelson Publishers, 1983, volume V, p. 540; note on Hebrews 5:7) นี่แสดงอย่างชัดเจนว่าพระธรรมของเราข้อนี้ไม่ได้หมายถึงการกันแสงของพระองค์ที่หลุมฝังศพของลาซารัส และก็ไม่ได้หมายถึงการกันแสงตอนพระองค์ทรงทอดพระเนตรกรุงเยรูซาเล็ม แต่กันแสงครั้งนี้เป็นเพราะการทรงทนทุกข์ของพระองค์ในสวนก่อนถูกตรึงบนไม้กางเขน ตอนกลางคืนในสวนเกทเสมเนนั้น “ฝ่ายพระเยซู ขณะเมื่อพระองค์ดำรงอยู่ในเนื้อหนังนั้น พระองค์ได้ถวายคำอธิษฐาน และทูลวิงวอนด้วยทรงกันแสงมากมายและน้ำพระเนตรไหล ต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ และพระเจ้าได้ทรงสดับเพราะพระองค์นั้นได้ยำเกรง” (ฮีบรู 5:7) II. ประการที่สอง พระรรมข้อนี้บอเราถึงพระคริสต์ทรงอธิษฐานต่อพระเจ้า ผู้ทรงสามารถที่จะช่วยกู้พระองค์จากความตายในสวนเกทเสมเน ลองฟังดีๆในพระวจนะ มัทธิว 26:36-38 “พระองค์ก็พาเปโตรกับบุตรชายทั้งสองของเศเบดีไปด้วย พระองค์ทรงเริ่มโศกเศร้าและหนักพระทัยยิ่งนัก พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ใจของเราเป็นทุกข์แทบจะตาย...” [“จุดของการสิ้นพระชนม์” NIV] (มัทธิว 26:37-38) ดร. จอห์น แมคอาเธอ กล่าวได้ดีมากถึงพระธรรม ฮีบรู 5: 7 แต่ท่านกล่าวผิดในประโยคสุดท้ายของข้อนี้ โดยกล่าวว่า "พระเยซูขอร้องให้รอดพ้นจากความตาย ตัวอย่าง [นั่นคือ] การฟื้นคืนพระชนม์" (John MacArthur, D.D., The MacArthur Study Bible, Word Bibles, 1997, p. 1904; note on Hebrews 5:7) พระเยซูไม่ได้ทรงอธิษฐานให้ “รอดพ้นจากความตาย” คือการฟื้นคืนพระชนม์! ไม่ใช่อย่างนั้น มัทธิว 26:38 บอกเราชักเจนว่า “ทรงเป็นทุกข์หนัก จนเกือบสิ้นพระชนม์” – ไปที่จุดของการสิ้นพระชนม์ – ที่สวนเกทเสมเนนั้น – พระเยซูเกือบสิ้นพระชนม์! พระเยซูทรงอธิษฐานให้รอดจากความตายในสวนนั้น! พระกิตติคุณลูกาบอกเราว่า “พระเสโทของพระองค์เป็นเหมือนโลหิตไหลหยดลงถึงดินเป็นเม็ดใหญ่” (ลูกา 22:44) พระเยซูทรงอยู่ในช่วงเวลาที่ทนทุกข์มากจนพระเสโทไหลออกมาเป็นเลือด ความตายนั้นคือคืนในสนเกทเสมเนเท่านั้น คือก่อนที่พระองค์จะถูกตรึงที่กางเขน โยเซฟ ฮาร์ต กล่าวว่า เห็นพระบุตรของพระเจ้าทรงทนทุกข์ ลองฟังมัทธิว 26:38-39 “พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ใจของเราเป็นทุกข์แทบจะตาย จงเฝ้าอยู่กับเราที่นี่เถิด แล้วพระองค์เสด็จดำเนินไปอีกหน่อยหนึ่ง ก็ซบพระพักตร์ลงถึงดิน อธิษฐานว่า “โอ พระบิดาของข้าพระองค์ ถ้าเป็นได้ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด แต่อย่างไรก็ดี อย่าให้เป็นตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์” (มัทธิว 26:38-39) การตีความคำอธิษฐานนี้ตามที่พบบ่อยมากคือว่า พระเยซูคริสต์ทรงขอพระเจ้าให้ช่วยพระองค์รอดพ้นจากการถูกตรึงที่กางเขน แต่ผมมั่นใจว่านั่นไม่ได้เป็นไปตามที่พระคัมภีร์สอนไว้ ดร. เจ เวอร์นอน แมคกี้ นักศาสนศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงชาวอเมริกันกล่าวว่า คำตรัสที่พระเยซูพยายามขอร้องนั้น คือเพื่อที่จะหลุดพ้นจากการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนนั้น...ไม่เป็นความจริง ความเป็นมนุษย์ของพระองค์ได้ทนทุกข์และกลัวเป็นอย่างมากเพราะบาปของมนุษย์โลกได้ตกลงบนพระองค์...(J. Vernon McGee, Th.D., Thru the Bible, 1983, Thomas Nelson Publishers, volume IV, p. 141; note on Matthew 26:36-39) ดร. โอลิเวอร์ บัสเวลล์ ผู้มีความรู้ด้านศาสนศาสตร์ กล่าวว่า เหงื่อที่หลั่งออกมาตามคำอธิบายในพระรรมลูกาเป็นลักษณะอาการตกใจกลัวอย่างสุดขีด เพราะอันตรายถึงขั้นเสียเสียชีวิต ... องค์พระเยซูคริสต์ของเรา ได้มาพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาพที่ตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรง จึงได้อธิษฐานเพื่อช่วยให้พ้นจากความตายในสวนนั้น เพื่อว่าพระองค์จะได้บรรลุวัตถุประสงค์ของพระองค์บนไม้กางเขน [ของวันถัดไป] (J. Oliver Buswell, Ph.D., A Systematic Theology of the Christian Religion, Zondervan Publishing House, 1962, part III, p. 62) “พระองค์ก็พาเปโตรกับบุตรชายทั้งสองของเศเบดีไปด้วย พระองค์ทรงเริ่มโศกเศร้าและหนักพระทัยยิ่งนัก พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ใจของเราเป็นทุกข์แทบจะตาย...” [“จุดของการสิ้นพระชนม์” NIV] (มัทธิว 26:37-38) ลองศึกษาให้ดีๆตามที่ ดร. จอห์น อาร์ ไรซ์ ได้อธิฐายถึงคำกล่าวของ ดร. เวนนอน แมคกี้ และ ดร. โอลิเวอร์ บัสเวลล์ ดร. ไรซ์ กล่าวว่า ถ้าคุณไม่รู้ในข้อ 37 และ 38 [ของมัทธิว 26] คุณจะเข้าใจความหมายของการอธิษฐานในสวนเกทเสมเนผิดไป จิตวิญญาณของพระเยซูทรงเป็น “ทุกข์หนักจนเกือบสิ้นพระชนม์” นั่นคือ [พระองค์] เกือบสิ้นพระชนม์เพราะทรงทนทุกข์...พระเยซูเกือบสิ้นพระชนม์ในสวนเกทเสมเน ตามที่กล่าวไว้ในข้อ 39 และ 42 คือถ้วยแห่งความตาย คือตายอยู่ในสวนเกทเสมเน นีค่อนข้างชัดเจนในพระธรรมฮีบรู 5:7 บอกเราถึงพระคริสต์ดังนี้ว่า “ฝ่ายพระเยซู ขณะเมื่อพระองค์ดำรงอยู่ในเนื้อหนังนั้น พระองค์ได้ถวายคำอธิษฐาน และทูลวิงวอนด้วยทรงกันแสงมากมายและน้ำพระเนตรไหล ต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ และพระเจ้าได้ทรงสดับเพราะพระองค์นั้นได้ยำเกรง” เพราะความตายในสวนนั้น พระเยซูจึงทรงขอให้เลื่อนถ้วยนั้นไป เพื่อให้พระองค์จะสามารถไปสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขนในวันถัดไป พระวจนะกล่าวว่า “พระองค์ทรงได้ยิน”! พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของพระองค์...ถ้าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ในสวนเกทเสมเน เราจะไม่ได้รับการช่วยกู้ตามพระกิตติคุณ เพราะพระกิตติคุณคือ “ว่าพระคริสต์ได้ทรงวายพระชนม์เพราะบาปของเราทั้งหลาย ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์” [kata tas graphas], I โครินธ์ 15:3 การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์ไม่ใช่โดยบังเอิญ แต่เป็นไปตามพระวจนะ...พระเยซูจะต้องถูกดึงหนวดออก (อิสยาห์53:5) ... พระองค์ต้องสิ้นพระชนม์ท่ามกลางโจรบนไม้กางเขน [อิสยาห์ 53:12; เศคาริยาห์ 12:10; เศคาริยาห์ 13:6] พวกเขาต้องเจาะแขนและเท้าของพระองค์ (สดุดี 22:16)...แม้แต่ การกันแสง [ของพระองค์] การตะโกนร้อง [จากกางเขน] “พระบิดาทำไมพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์?”... ถูกพยากรณ์เอาไว้ในพระคัมภีร์ (สดุดี 22:1) การเยาะเย้ยของพวกธรรมาจารย์และผู้คน [ตอนพระองค์ถูกตรึงบนไม้กางเขน] สิ่งเหล่านี้เพื่อให้เป็นไปตามที่พระวจนะได้กล่าวเอาไว้ (สดุดี 22:7-8) [พวกทหาร] จะต้องถอดฉลองของพระองค์ [เสื้อคลุม] ตาม (สดุดี 22:18) เราไม่อาจถูกช่วยกู้จากบาปของเราหากพระคริสต์สิ้นพระชนม์ในสวนกทเสเนก่อนไปถึงที่ไม้กางเขน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพราะพระเยซูสิ้นพระชนม์แบบ “kata tas graphas” “ฝ่ายพระเยซู ขณะเมื่อพระองค์ดำรงอยู่ในเนื้อหนังนั้น พระองค์ได้ถวายคำอธิษฐาน และทูลวิงวอนด้วยทรงกันแสงมากมายและน้ำพระเนตรไหล ต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ และพระเจ้าได้ทรงสดับเพราะพระองค์นั้นได้ยำเกรง” (ฮีบรู 5: 7) III. ประการที่สาม พระธรรมข้อนี้บอกเราว่าพระเจ้าทรงตอบตำอธิษฐานของพระคริสต์ พระองค์ทรงอธิษฐานเพื่อหลีกเลี่ยงไม้กางเขน และพระเจ้าก็ไม่ได้ยินหรือช่วยกู้พระองค์หรือเปล่า! เปล่าเลย พระเจ้าทรงได้ยินและทรงตอบคำอธิษฐานของพระเยซู พระองค์ไม่ได้สิ้นพระชนม์ในสวนเกทเสมเน! พระเจ้าทรงช่วยพระองค์เพื่อที่จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปของเรา “kata tas graphas” – “เป็นไปตามพระคัมภีร์”! พระเยซู “พระเจ้าได้ทรงสดับเพราะพระองค์นั้นได้ยำเกรง” (ฮีบรู 5:7) ผมคิดว่านี่หมายถึงว่าพระองค์ทรงกลัวว่าจะไปยอมเชื่อฟังพระเจ้าโดยสิ้นพระชนม์ก่อนถึงที่ไม้กางเขน พระวจนะกล่าวว่า “เพราะเห็นแก่ความยินดีที่มีอยู่ตรงหน้านั้น พระองค์ได้ทรงทนเอากางเขน” (ฮบรู 12:2) พระเยซูมิได้สิ้นพระชนม์โดยบังเอิญ ไม่เลย พระองค์ทรงเต็มพระทัยที่จะไปทนทุกข์และ “สิ้นพระชนม์” [“ที่ตรงจุดแห่งความตายนั้น” NIV] ในสวนเกทเสมเน (มัทธิว 26:38)? ทำไมพระองค์ถึงต้องเป็น “ทุกข์ยิ่งนัก” และ “แบกภาระหนัก” ตรงนั้น? ทำไมพระองค์ “วิตกยิ่งและหนักพระทัยนัก” (มัทธิว 14:33)? ทำไมพระองค์ “ทรงเป็นทุกข์มากนัก” (ลูกา 22:44)? ทำไมพระเสโทของพระองค์ “เป็นเหมือนโลหิตไหลหยดลงถึงดินเป็นเม็ดใหญ่ในสวนเกทเสมเน (ลูกา 22:44)? ผมเชื่อว่าในสวนเกทเสมเนของคืนวันนั้นพระเจ้าทรงวางความผิดบาปของมนุยชาติลงบนพระเยซูผู้เป็นลูกแกะของพระเจ้า พระวจนะกล่าวว่า “และพระเยโฮวาห์ทรงวางลงบนท่านซึ่งความชั่วช้าของเราทุกคน” (อิสยาห์ 53:6) ผมเชื่อว่าเหตุการที่เกิดขึ้นในสวนเกทเสมเนนั้นเพราะบาปของคุณได้ถูกวางลงบน “พระวรกายของพระองค์” ในคืนนั้น และในวันถัดไป พระองค์ก็ทรงแบกไปที่กางเขนและไถ่บาปของเรา นี่คือพระคริสต์ “พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น”– บนกางเขน (I เปโตร 2:24) ทรงเห็นพระองค์ทรงเป็ทุกข์ พระเสโทเป็นโลหิตในสวนเกทเสมเน ตอนพระเจ้า “ทรงวางบาปของเราทั้งหมดลงบนพระองค์” จงมองดูพระองค์แบกบากของเราออกจากสวนเกทเสมเนไปที่กางเขน “ไว้ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น” คุณจะปฏิเสธพระผู้ช่วยให้รอดที่ทรงทำเช่นนั้น? หรือว่าคุณเลือกที่จะเข้าหาพระองค์ผู้ทรงทนทุกข์และสิ้นพระชนม์ในที่ของคุณ และเรารับการอภัยบาป? บทเพลงซึ่งเขียนโดย โจเซฟ ฮาร์ต (1712-1768) กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับพระคริสต์ในสวนเกทเสเน เห็นพระบุตรของพระเจ้าทรงทนทุกข์ กรุณายืนขึ้นและร้องเพลงในบทเพลงนมัสการที่เขีบนโดย โจเซฟ ฮาร์ต ซึ่งอยู่ในบทที่หก พระองค์ทรงทนต่อการเยาะเย้ยและการทดลองหลายอย่าง พระเยซูทรงแบกบาปของคุณบนไม้กางเขนเพราะทรงรักคุณ พระเยซูทรงหลั่งพระโลหิตของพระองค์เพื่อชำระคุณจากบาปทั้งหมด นั่นเป็นเพราะทรงรักคุณ ผมอธิษฐานขอให้คุณวางใจในพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงรักคุณไปชั่วนิรันดร์! ไม่มีใครรักคุณเหมือนดั่งพระเยซูคริสต์ ดร. ชานกรุณานำเราอธิษฐาน อาเมน (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย นาย อาเบล พรูมโหมมี: มัทธิว 26:36-39. |
โครงร่างของ อธิษฐานของพระคริสต์ในสวนเกทเสมเน CHRIST’S PRAYER IN GETHSEMANE โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “ฝ่ายพระเยซู ขณะเมื่อพระองค์ดำรงอยู่ในเนื้อหนังนั้น พระองค์ได้ถวายคำอธิษฐาน และทูลวิงวอนด้วยทรงกันแสงมากมายและน้ำพระเนตรไหล ต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ และพระเจ้าได้ทรงสดับเพราะพระองค์นั้นได้ยำเกรง” (ฮีบรู 5:7) (ลูกา 22:44) I. ประการแรก ข้อนี้กล่าวถึง “ในเนื้อหนังนั้น” ยอห์น 11:35; ลูกา 19:41. II. ประการที่สอง พระรรมข้อนี้บอเราถึงพระคริสต์ทรงอธิษฐานต่อพระเจ้า ผู้ทรงสามารถที่จะ
ช่วยกู้พระองค์จากความตายในสวนเกทเสมเน มัทธิว 26:36-39; ลูกา 22:44;
1 โครินธ์ 15:3; อิสยาห์ 50:6; 53:5, 12; เศคาริยาห์12:10; 13:6;
III. ประการที่สาม พระธรรมข้อนี้บอกเราว่าพระเจ้าทรงตอบตำอธิษฐานของพระคริสต์ ฮีบรู
12:2; มัทธิว 26:38; มาระโก 14:33; ลูกา 22:44; อิสยาห์ 53:6;
|