เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
ซาตานทำให้คนตาบอดSATANIC BLINDING โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 22 เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 ณ “แต่ถ้าข่าวประเสริฐของเราถูกบังไว้จากใคร ก็จากคนเหล่านั้นที่กำลังจะพินาศ ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้น พระของยุคนี้ได้กระทำใจของเขาให้มืดไป เพื่อไม่ให้ความสว่างของข่าวประเสริฐอันมีสง่าราศีของพระคริสต์ ผู้เป็นพระฉายของพระเจ้า ส่องแสงถึงพวกเขา” (2 โครินธ์ 4:3, 4) |
ในเช้าวันนี้ผมอยากจะพูดเกี่ยวกับซาตาน นี่เป็นบทเทศนาที่เตรียมยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเตรียมมา ผมแน่ใจว่าซาตานคงไม่ต้องการให้ผมนำมาเทศน์ให้กับพวกคุณในวันนี้ ผมมีหนังสือของ ดร. ดับบริว เอ คริสเวลล์ และผมจะใช้เป็นแหล่งอ้างอิง ผมได้ศึกษาบทเทศนาของท่านเกี่ยวกับซาตานและวิญญาณชั่ว และผมจะนำบางส่วนในนั้นมาใช้เป็นบทนำของการเทศนาในครั้งนี้ ผมตั้งหนังสือเล่มนี้ไว้บนโต๊ะของผม แต่เมื่อถึงเวลาที่จะเตรียมบทเทศนา ผมกลับหาหนังสือเล่มนี้ไม่เจอ! ดูเหมือนว่าจะหายไปแล้ว! มันต้องอยู่ในห้องทำงานของผม แต่ผมใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ผมมั่นใจว่าซาตานต้องมีส่วนทำให้มันหายไปแน่นอน หลังจากนั้น เอลีนา ก็กลับมาถึงบ้าน ผมจึงหยุดอธิษฐานขอพระเจ้าช่วยให้ผมพบมัน เอลีนาเดินผ่านหนังสือทุกเล่มที่วางอยู่บนพื้นรอบโต๊ะของผม ในขณะที่เธอกำลังทำอย่างนั้น ผมคิดว่าจะลองค้นหาดูอีกครั้งหนึ่งตามที่ๆผมเคยค้นหามาก่อนหน้านั้น ผมค้นหาที่นั่นสามรอบมาแล้ว แต่ผมจะลองหาอีกครั้งหนึ่ง และก็เจอวางอยู่ตรงนั้น! ผมกระโดดโล่เต้นด้วยความดีใจ! พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของผมโดยนำผมไปพบกับหนังสือเล่มนี้! บางคนอาจคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กๆ – สำหรับการมองหาหนังสือเล่มหนึ่ง แต่นั่นก็เป็น "สิ่งเล็ก ๆ" ที่เราจะเห็นว่ซาตานเฝ้าดูอย่างระมัดระวังและอย่างละเอียดถี่ถ้วน ชื่อของ "ซาตาน" ในภาษาฮิบรูคือ “ซอว์ตาน" หรือ “Sawtan" - หมายความว่า "ตรงข้าม" หรือหมายความว่า "ปรปักษ์" "ศัตรู" และ "ผู้คัดค้าน" "ซาตาน" ยังมาจากภาษาฮิบรูอีกคำหนึ่งซึ่งหมายถึง "โจมตี" ซาตานเป็นศัตรูของพระเจ้า มันต่อต้านพระเจ้า มันโจมตีการงานของพระเจ้า และมันก็มีพลังอำนาจมาก ดร. ดับบริว คริสเวลล์ เคยเป็นศิษยาภิบาลที่คริสตจักรแบ๊บติสที่หนึ่งดัลลัส รัฐเท็กซัสเกือบหกสิบปี ท่านได้รับปริญญาเอกในสาขาพระคัมภีร์ภาษากรีกและศาสนศาสตร์ ท่านเป็นผู้มีความรู้ทางด้านพระคัมภีร์เป็นอย่างดี ท่านเป็นนักเทศน์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแบ๊บติสใต้ เป็นหนึ่งในนักเทศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบ ดร. คริสเวลล์ กล่าวไว้ว่า ซาตานอาศัยอยู่ตามแหล่งสถานศึกษา แหล่งวิชาการของเราและสถานที่สอนต่างๆ มันครอบงำและมีบทบาทในขั้นตอนการเรียนการสอน เพื่อให้แน่ใจว่าพระเจ้าถูกคัดออกจากระบบการศึกษานั้น ซาตานเป็นเจ้าแห่งโลกนี้ แต่มันซ่อนการมีชีวิตในพระคริสต์โดยไม่ไห้คุณรู้ มันซ่อนความว่างเปล่าและความเศร้าโศกไว้จากคุณ มันซ่อนความตายหากไม่มีพระคริสต์และหลุมฝังศพแห่งความสิ้นหวัง มันซ่อนการพิพากษาคนครั้งสุดท้ายหากผู้นั้นยังไม่รอด มันซ่อนจิตวิญญาณที่ต้องทนทุกข์ทรมานนิรันดร์ในเปลวไฟและความทุกข์ทรมานไปตลอดกาลนิรันดร์ในบึงไฟนรกไม่บอกให้คุณรู้! นั่นคือซาตาน นั่นคือเจ้าแห่งโลกนี้! และนี้คือสิ่งที่มันเป็นอยู่ นี่คือซาตานตามที่อัครสาวกกล่าวเอ้าไว้ “แต่ถ้าข่าวประเสริฐของเราถูกบังไว้จากใคร ก็จากคนเหล่านั้นที่กำลังจะพินาศ ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้น พระของยุคนี้ได้กระทำใจของเขาให้มืดไป เพื่อไม่ให้ความสว่างของข่าวประเสริฐอันมีสง่าราศีของพระคริสต์ ผู้เป็นพระฉายของพระเจ้า ส่องแสงถึงพวกเขา” (2 โครินธ์ 4:3, 4) I. ประการแรก อะไร คือสิ่งที่ถูกซ่อนจากคนที่หลงหาย ทำไม นั่นคือพระกิตติคุณ "พระกิตติคุณอันรุ่งโรจน์ของพระคริสต์" นั่นคือสิ่งที่ถูกซ่อนจากบรรดาผู้ที่หลงหาย พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์นั้นง่ายมากต่อการเรียนรู้ คุณสามารถเรียนรู้ข้อเท็จจริงพื้นฐานของพระกิตติคุณภายในเวลาที่น้อยกว่าห้านาที อัครสาวกเปาโลสรุปพระกิตติคุณสั้นๆ ดังนี้ “เรื่องซึ่งข้าพเจ้ารับไว้นั้น ข้าพเจ้าได้ประกาศแก่ท่านทั้งหลายก่อน คือว่าพระคริสต์ได้ทรงวายพระชนม์เพราะบาปของเราทั้งหลาย ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ และทรงถูกฝังไว้ แล้ววันที่สามพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาใหม่ตามที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์นั้น” (I โครินธ์ 15:3, 4) นี่คือส่วนหนึ่งในประโยค หนึ่งประโยคนั้นอธิบายพระกิตติคุณ! หนึ่ง "พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพราะบาปของเรา" พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเรา ไม่ใช่มนุษย์ที่ไหน แต่เป็นพระเยซูคริสต์ที่พระเจ้าทรงส่งลงมาจากสวรรค์ นั่นคือพระคริสต์ผู้ที่บังเกิดจากมารีย์หญิงพรมจารีย์ พระองค์ปราศจากบาป นั่นเป็นพระคริสต์ แม้กระทั่งผู้ว่าราชการโรมันอย่างปิลาตยังกล่าวว่า "เราไม่พบความผิดในตัวเขาเลย" (ยอห์น 18:38) ไม่มีความผิดเลย! แท้จริงแค่ไหน แม้แต่ศัตรูของพระองค์ก็ไม่อาจพบความผิดหรือบาปในพระองค์ พวกเขาต้องโกหกเกี่ยวกับพระองค์และบอกว่าพระองค์ตรัสว่าพระองค์จะสร้างพระวิหารภายในสามวัน ทั้งที่พระองค์เองไม่เคยตรัสอย่างนั้น! มันเป็นเรื่องโกหก! พวกเขาโกหกเพื่อให้ดูเหมือนสมเหตุสมผลต่อการที่จะฆ่าพระองค์เท่านั้น นี่คือพระเยซูคริสต์ ผู้ไม่เคยโกหกและเป็นผู้ที่ไม่เคยทำอะไรนอกเสียจากช่วยเหลือผู้คน บุตรของพระเจ้าเป็นผู้ที่สมบูรณ์แบบปราศจากบาป สอง "พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเรา" พระคริสต์สิ้นพระชนม์ในที่ของเรานั่นคือบนไม้กางเขนเพื่อชดใช้ความผิดของเรา อัครสาวกเปโตรกล่าวว่า “พระคริสต์เช่นกันก็ได้ทนทุกข์ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะความผิดบาป คือพระองค์ผู้ชอบธรรมเพื่อผู้ไม่ชอบธรรม” (1 เปโตร 3:18) ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์กล่าวว่า “ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความละเมิดของเราทั้งหลาย” (อิสยาห์ 53:5) “พระเยโฮวาห์ทรงวางลงบนท่านซึ่งความชั่วช้าของเราทุกคน” (อิสยาห์ 53:6) นี่คือพระคริสต์ ผู้แทนของเรา พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในที่ของเรา – ชดใช้บาปของเราในสายพระเนตรของพระเจ้า สาม "พระองค์ถูกฝัง และ ... ฟื้นคืนพระชนม์ในวันที่สาม" พระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนจริงๆ พระศพของพระองค์ถูกวางอยู่ในถ้ำ พวกเขาปิดผนึกปากถ้ำและวางพระศพของพระองค์ไว้ข้างในถ้ำ แต่ในวันที่สามพระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ร่างกายทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย - เพื่อประทานชีวิตให้เรา “เพื่อผู้ใดที่เชื่อในพระองค์จะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 3:15) นั่นคือพระกิตติคุณ! นั่นเป็นอะไรที่ง่ายมาก! “แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา บัดนี้เราจึงเป็นคนชอบธรรมแล้วโดยพระโลหิตของพระองค์...เราได้กลับคืนดีกับพระเจ้าโดยที่พระบุตรของพระองค์สิ้นพระชนม์ ยิ่งกว่านั้นอีกเมื่อเรากลับคืนดีแล้ว เราก็จะรอดโดยพระชนม์ชีพของพระองค์แน่” (โรม 5:8-10) นั่นคือพระกิตติคุณ เด็กๆก็สามารถเรียนรู้ข้อเท็จจริงเหล่านี้ภายในห้านาที! พวกคุณที่มาที่คริสตจักรแห่งนี้สองหรือสามครั้งต่างก็รู้ข้อเท็จจริงเหล่านี้ คุณได้เรียนรู้ข้อเท็จจริงแห่งพระกิตติคุณนี้ และยัง ... และยัง ... และคุณยังไม่ได้รับความรอด คุณรู้จักพระกิตติคุณ แต่คุณยังไม่รอด “แต่ถ้าข่าวประเสริฐของเราถูกบังไว้จากใคร ก็จากคนเหล่านั้นที่กำลังจะพินาศ” (2 โครินธ์ 4:3) II. ประการที่สอง ทำไมพระกิตติคุณจึงถูกซ่อนไว้จากผู้ที่หลงหาย คำตอบอยู่ในข้อของเรา "เจ้าของยุคนี้ได้กระทำใจของเขาให้มืดไป เพื่อไม่ให้ความสว่างของข่าวประเสริฐอันมีสง่าราศีของพระคริสต์ ผู้เป็นพระฉายของพระเจ้า ส่องแสงถึงพวกเขา" (2 โครินธ์ 4: 4) ซาตานถูกเรียกว่า "เจ้าแห่งโลกนี้" ยอห์น 12:31 ซาตานถูกเรียกว่า "เจ้าแห่งยุคนี้" ใน ยอห์น 5:19 บอกเราว่า “และชาวโลกทั้งสิ้นตกอยู่ใต้อำนาจของความชั่ว” (I ยอห์น 5:19) ฉบับ The Scofield แปลเอาไว้ว่า “ชาวโลกทั้งสิ้นโกโหกในความชั่วนั้น” และฉบับบ NASV กล่าวว่า “ชาวโลกทั้งสิ้นโกโหกภายใต้อำนาจของความชั่วนั้น”” พระธรรมในข้อเหล่านี้บอกถึงระบบของโลก (จักรวาล) ไว้ได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับ บรรดาพวกผู้ปกครอง ศาสนาเทียมเท็จ คนชั่วร้ายและความคิดบิดเบือนเพราะถูกควบคุมโดยซาตาน ความคิดความเห็นเป้าหมายและมุมมองของคนส่วนใหญ่จะถูกควบคุมโดยวิญญาณแห่งโลกนี้ เอลลีคอทเรียกมันว่า "วิญญาณแห่งความเกลียดชังและความเท็จและความเห็นแก่ตัว [ซึ่ง] ความจริงคือบ่งบอกถึงมาร" (Ellicott’s Commentary on the Whole Bible, volume VII, Zondervan, n.d., p. 375; note on II Corinthians 4:4) และเอลลีคอท บอกว่า “วิญญาณแห่งโลกนี้เป็นปรปักษ์โดยครงกับการ [ทำงาน] ของพระเจ้า" (ibid.) นั่นคือชื่อ "ซาตาน" หมายถึง – ปรปักษ์ ศัตรู ผู้ต่อต้าน ผู้คัดค้าน คุณอาจจะไม่ได้ตระหนักในเรื่องนี้ แต่ทุกคนที่ยังไม่กลับใจล้วนเป็นผู้ที่ต่อต้านพระเจ้า ทุกคน! ไม่มีคนที่ถูกยกเว้น! บรรดาผู้ที่เราประกาศผ่านโทรศัพท์รู้เรื่องนี้โดยจากประสบการณ์ พวกเขาไม่เคยพบใครที่เข้ามาในคริสตจักรและรับความรอดโดยไม่มีปัญหาใดๆ – แต่ปัญหาใหญ่จะไม่มีอีกต่อไป! นั่นคือความจริงที่เกิดขึ้นกับคนอเมริกาผิวขาว! – ไม่ว่าจะทางใดก็ทางหนึ่ง และก็เป็นความจริงที่เกิดขึ้นให้กับชาติอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน แม้ว่าแม่ชาวจีนที่ "ดี" คนหนึ่งจะบอกว่า "ไม่เป็นไร หล่อนสามารถมาที่คริสตจักร แต่อย่าบัพติศมาเธอ!" พวกเขาพูดอย่างนั้นทำให้คุณสามารถรู้ได้เลยว่าในใจของพวกเขากำลังต่อต้านพระเจ้า ความคิดของพวกเขาถูกควบคุมโดยเจ้าแห่งโลกนี้ อย่างที่ เอลีคอท กล่าวเอาไว้ว่า "วิญญาณเท็จและความเห็นแก่ตัว" (ibid.). ผมก่อตั้งคริสตจักรแห่งนี้ในเดือนเมษายนปี 1975 – และเป็นเวลาสี่สิบปีที่ผมต้องต่อสู้กับปัญหาใหญ่ ความขัดแย้ง ต่อสู้กับโลกของวิญญาณ และกับผู้ที่ถูกซาตานครอบงำและเป็นศัตรูของพระเจ้าและคนของพระองค์ ในเอเฟซัส 2: 2 เรียกซาตานว่า "จ้าแห่งอำนาจในย่านอากาศ คือวิญญาณที่ครอบครองอยู่ในบุตรแห่งการไม่เชื่อฟัง" นั่นคือซาตาน! นั่นคือเจ้าแห่งโลกนี้! ผู้ที่เป็นศัตรูของพระเจ้าอย่างแท้จริง! มันทำงานในใจมนุษย์ทุกคนเพื่อขัดขวางไม่ให้เป็นคริสเตียนที่แท้จริง นี่ไม่ใช่เป็นเพียงความคิดของผม ลองฟัง ดร. ลอยด์ โจนส์ นักเทศน์แห่งสหราชอาณาจักร และถือว่าท่านเป็นหนึ่งในนักเทศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบ ดร. ลอยด์ โจนส์ กล่าวว่า มารมีอยู่เพื่อรอคอยที่จะสร้างความสับสนให้กับเรา มันต้องการที่จะทำลายงานของพระเจ้า ... ในรูปแบบที่ลึกซึ้งมาก มันเอาแต่ใจความคิดของมันเอง (Martyn Lloyd-Jones, M.D., Spiritual Blessing, Kingsway Publications, 1999, p. 158) ดร. ลอยด์ โจนส์ ยังกล่าวถึงมารในอีกที่หนึ่งว่า "ความพยายามอย่างใหญ่หลวงของมารคือการแยกมนุษย์ออกจากพระเจ้า" "[ซาตาน] เป็นศัตรูใหญ่ของพระเจ้า: ทั้งหมดของมันคือการเกลียดพระเจ้า" (Authentic Christianity, volume 4, The Banner of Truth Trust, 1966, p. 42) ซาตาน – ทำให้ตาคุณบอดและทำให้พระคุณถูกซ่อนจากคุณ III. ประการที่สาม พระกิตติคุณถูกซ่อนจากผู้ที่หลงหายได้อย่างไร ดร. ลอยด์ โจนส์ กล่าวว่า "หน้าที่ของมารคือพยายามทำให้เราสับสน" พระกิตติคุณนั้นประเสริฐ ยอดเยี่ยม ให้อิสระและความหวังแก่เรา มารไม่ต้องการให้คุณมีสิ่งเหล่านี้เลย! ข้อพระธรรมของเราบอกว่า "แต่ถ้าข่าวประเสริฐของเราถูกบังไว้จากใคร ก็จากคนเหล่านั้นที่กำลังจะพินาศ เพื่อไม่ให้ความสว่างของข่าวประเสริฐอันมีสง่าราศีของพระคริสต์...ส่องแสงถึงพวกเขา" ซาตาน "พยายามทำให้เราสับสน" ผมจะให้คุณบางอย่างที่แสดงให้คุณเห็นถึงซาตานทำให้คนสับสน ไม่ไว้วางใจในพระเยซู ไม่จำเป็นที่ผมต้องบอกหลายๆอย่าง เพราะมารไม่ได้ใช้หลายวิธีการ มันรู้ว่าไม่จำเป็นด้วยเพราะมันรู้ว่ามีเพียงไม่กี่หนทางที่สามารถทำให้คุณตกเป็นทาสของมัน 1. มารเข้าไปในใจของคุณและให้คิดว่า "มันสูญเสียมากเกินไปที่จะทำตามนั้น แค่มาคริสตจักรก็เพียงพอ แต่ถ้าฉันอยากจะเป็นคริสเตียนที่แท้จริง ฉันต้องสูญเสียอะไรหลายอย่าง" พระเยซูมักจะตอบโดยการถามกลับ ถ้ามารบอกคุณว่า "มันสูญเสียมากเกินไปที่จะทำตามนั้น" พระเยซูทรงตรัสว่า "เพราะถ้าผู้ใดได้สิ่งของทั้งสิ้นในโลก แต่ต้องสูญเสียจิตวิญญาณของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร? เพราะว่าผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาจิตวิญญาณของตนกลับคืนมา?" (มาระโก 8:36, 37) ถ้าคุณได้รับทุกสิ่งในโลกนี้ แต่กลับต้องสูญเสียจิตวิญญาณ คุณจะพบกับความหายนะไปชั่วนิรันดร์ จะไม่มีสันติสุข ไม่มีความสุข ไร้ความหวัง – สิ้นหวังไปชั่วนิรันดร์ 2. มารเข้าไปในใจของคุณและทำให้คุณคิดว่า "ฉันก็มาที่คริสตจักรในทุกวันอาทิตย์ ฉันเข้าร่วมกิจการทุกอย่างของคริสตจักร ฉันคิดว่าแค่นี่ก็มากพอแล้ว” สเปอร์เจียน กล่าวว่า "พวกเขาจะไม่ฟังพระคริสต์ เมื่อมารบอกว่า ‘ผู้ที่เชื่อจะไม่ถูกสาปแช่ง ไม่ว่าศีลธรรมของมันจะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ พวกเขาจะไปต่อไป ... ถึงตรงที่ซาตานทำให้คนเหล่านั้นตาบอด” 3. มารเข้าไปในใจของคุณและทำให้คุณคิดว่า "ฉันจะต้องมีความรู้สึกบางอย่าง ฉันรู้ว่าศิษยาภิบาลบอกให้ฉันต้องมองหาความรู้สึก แต่ถ้าฉันไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ฉันก็ไม่มีอะไรที่จะบอก ดร. คาเกน ที่ห้องสอบถามเพิ่มเติม ดร. คาเกนจะพูดว่า 'บอกผมถึงสิ่งนั้น' ฉันไม่มีอะไรที่จะบอกเขา เพราะฉันไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกใด ๆ เลย" ลองฟัง ดร.ลอยด์ โจนส์ อีกครั้ง ท่านกล่าวว่า "จะมีสักกี่ครั้งที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนที่ได้รับความรอดแล้ว ในพันธสัญญาใหม่ไม่เคยบอกว่า ‘ใครก็ตามที่รู้สึกก็จะรอด 'แต่' บอกว่าผู้ใดที่เชื่อ '... เท่านั้นก็ [พอ] สำหรับคุณที่จะพูดว่า 'ฉันมีชีวิตอยู่เพราะการนี้ ไม่ว่าฉันจะรู้สึกหรือไม่ก็ตามไม่ใช่สิ่งที่สำคัญแต่อย่างใด เพราะเราไม่ได้รอดเพราะความรู้สึก แต่เชื่อ’" ในพระเยซู (Life in God, Crossway Books, 1995, p. 105). ตอนนี้ผมรู้ว่าไม่มีใครที่จะสามารถช่วยคุณได้ ยกเว้นแต่พระเจ้าที่จะช่วยให้คุณรู้ว่า ไม่มีทางที่คุณจะสามารถช่วยตัวคุณเองให้เป็นอิสระจากซาตาน คุณจะเห็นว่าคุณไม่สามารถที่จะเลือกพระคริสต์ ดร. ลอยด์ โจนส์ กล่าวว่า "'เจ้าแห่งโลกนี้’ ไม่ได้ช่วยให้ [คุณ] ทำได้เช่นนั้น" (Assurance, Banner of Truth, 1971, p. 310) หากคุณซื่อสัตย์ให้กับตัวเองจริงๆ และกับพระเจ้า ใจของคุณจะร้องออกมาว่า "ข้าฯหลงหายไป! โอ้ พระเยซูโปรดช่วยข้าฯด้วย" ในช่วงเวลาเช่นนั้น พระเยซูจะเสด็จมาที่คุณและพระองค์จะช่วยให้คุณรอด สองสามวันที่ผ่านมาเราได้อ่านพระธรรมมาระโกเกี่ยวกับคนโรคเรื้อน เขาได้มาหาพระเยซูและก็คุกเข่าลง เขากล่าวแด่พระเยซูว่า "ถ้าพระองค์ทรงพอพระทัย ก็ทรงสามารถทำให้ข้าพระองค์ขาวสะอาด" “พระเยซูทรงสงสารเขาจึงทรงยื่นพระหัตถ์… [ตรัส] แก่เขาว่า เราพอใจแล้ว เจ้าจงสะอาดเถิด…และคนนั้นก็สะอาด” (มาระโก 1:41, 42). โอ้ ในเช้าวันนี้ ขอให้ใครบางคนมาหาพระเยซูอย่างนั้น "ถ้าพระองค์ทรงพอพระทัย ก็ทรงสามารถทำให้ข้ฯสะอาด" "ข้าพระองค์ก็จะขาวสะอาด" - แล้วเขาก็สะอาด นั่นคือพระกิตติคุณ! นั่นคือข่าวดีแห่งความรอด! นั่นคือความหวังเดียวที่คุณมี! อยู่ให้ห่างจากมารและการโกหกของมัน! "ถ้าพระองค์ทรงพอพระทัย ก็ทรงสามารถทำให้ข้าพระองค์ขาวสะอาด" "ข้าพระองค์ก็จะขาวสะอาด" ถ้าคุณเชื่อคำพูดที่เป็นบทกวีของ สเปอร์เจียน คุณจะรอดโดยพระเยซูในทันที ความผิด อ่อนแอและไร้ที่พึ่ง และเข้าไปชื่นชมยินดีในพระคริสต์! พระบิดาในสวรรค์ ข้าพระองค์อธิษฐานขอให้คนที่นี่ในเช้าวันนี้แอนกายนอนลงในอ้อมแขนของพระเยซูและรับความรอด อาเมน และฉันรู้ ใช่ ฉันรู้ (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย นาย อาเบล พรูมโหมมี: 2 โครินธ์ 4:3-6. |
โครงร่างของ ซาตานทำให้คนตาบอด SATANIC BLINDING โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “แต่ถ้าข่าวประเสริฐของเราถูกบังไว้จากใคร ก็จากคนเหล่านั้นที่กำลังจะพินาศ ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้น พระของยุคนี้ได้กระทำใจของเขาให้มืดไป เพื่อไม่ให้ความสว่างของข่าวประเสริฐอันมีสง่าราศีของพระคริสต์ ผู้เป็นพระฉายของพระเจ้า ส่องแสงถึงพวกเขา” (2 โครินธ์ 4:3, 4) (2 ทิโมธี 3:5) I. ประการแรก อะไรคือสิ่งที่ถูกซ่อนจากคนที่หลงหาย I โครินธ์ 15:3, 4; ยอห์น 18:38; I เปโตร 3:18; อิสยาห์ 53:5, 6; ยอห์น 3:15; โรม 5:8-10. II. ประการที่สอง ทำไมพระกิตติคุณจึงถูกซ่อนไว้จากผู้ที่หลงหาย ยอห์น 12:31; I ยอห์น 5:19; เอเฟซัส 2:2. III. ประการที่สอง ทำไมพระกิตติคุณจึงถูกซ่อนไว้จากผู้ที่หลงหาย มาระโก 8:36, 37; มาระโก 1:41, 42. |