Print Sermon

เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์

ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร

ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net




นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันฟื้นฟู

(บทเทศนาที่ 8 ของการฟื้นฟู)
THIS IS WHAT HAPPENS IN REVIVAL!
(SERMON NUMBER 8 ON REVIVAL)
(Thai)

โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์
by Dr. R. L. Hymers, Jr.

เทศนาในตอนเย็น วันของพระเป็นเจ้าที่ 21 เดือนกันยายน ค.ศ. 2014 ณ
คริสตจักรแบ๊บติสต์แห่งนครลอสแอนเจลิส
A sermon preached at the Baptist Tabernacle of Los Angeles
Lord's Day Evening, September 21, 2014


ตอนนี้ให้เปิดไปที่พระธรรมกิจการ 8:5.

“ส่วนฟีลิปจึงลงไปยังเมืองสะมาเรียและประกาศเรื่องพระคริสต์ให้ชาวเมืองนั้นฟัง” (กิจการ 8:5)

ตอนนี้ให้ไปดูที่ข้อแปด

“จึงเกิดความปลื้มปีติอย่างยิ่งในเมืองนั้น” (กิจการ 8:8)

พวกคุณนั่งลงได้

เกิดอะไรขึ้นหลังวันเพนเทคอส ดร. มาร์ติน ลอยด์ โจนส์ กล่าวว่า

เป็นความจริง [คำพูดที่เป็นจริง] การฟื้นฟูของศาสนาตามที่คริสตจักรทราบกัน นั้นเกิดขึ้นซ้ำๆเหมือนอย่างที่เคยเกิดในวันเพนเทคอสกัน...และการฟื้นฟูของ ศาสนา ผมบอกได้ว่าเป็นการย้อนรอยสิ่งที่เกิดขึ้นในวันเพนเทคอส…เราควรจะหยุด [กล่าวว่า] นั่นเป็นการเกิดขึ้นเฉพาะในวันเพนเทคอสเท่านั้น ไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น (Martyn Lloyd-Jones, M.D., Revival, Crossway Books, 1987, pp. 199, 200)

ผมได้กล่าวไว้ในคำเทศนาก่อนหน้านี้ว่าการฟื้นฟูมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ นั่นคือการทำให้สำนึกในบาป (ยอห์น 16: 8) และประการที่สองพระวิญญาณบริสุทธิ์นำคนบาปมายังพระคริสต์ (ยอห์น 16:14, 15) นั่นเป็นจริงให้กับคนบาป หลายปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นอย่างนี้ให้กับคริสตจักรของเราประมาณเดือนละครั้ง นั่นคือการกลับใจของแต่ละคนในแต่ละเดือน แต่เมื่อมีการฟื้นฟูเกิดขึ้น จะมีคนมากมายกลับใจใหม่ในเวลาอันสั้น เลน เอช เมอเรย์ กล่าวว่า "นับตั้งแต่วันเพนเทคอสเป็นต้นมา พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำสองพันธกิจนี้ [วิธี] นั่นคือธรรมดาและพิเศษ" (Iain H. Murray, Pentecost Today? The Biblical Basis for Understanding Revival, The Banner of Truth Trust, 1998, p. 18). เราได้รับประสบการณ์ทำงานแบบ "ปกติ" ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ นั่นคือการกลับใจใหม่ของแต่ละคนในสี่ถึงห้าสัปดาห์ แต่เมื่อพระเจ้าส่งการฟื้นฟูลงมาท่ามกลางพวกเรา นั่นคือ "พิเศษ" จำนวนคนที่กลับใจ - บางทีสิบหรือสิบสองคน (หรือมากกว่า) ในช่วงเวลาเวลาสั้นๆ

ผมกลัวว่าบางคนอาจคิดว่าการฟื้นฟูเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำอย่างหนัก เราจะต้องทำอะไรหนักให้กับคนบาป หนักและยากต่อการประกาศ ความจริงความคิดนี้คือมาจากฟินเนย์ เป็นคำสอนที่ตรงกันข้ามกับการที่พระเจ้าทรงส่งการฟื้นฟูลงมา

ลองมาคิดเกี่ยวกับการฟื้นฟูครั้งแรกในวันเพนเทคอส คุณจะเห็นว่านี่เป็นความคิดที่ผิดพลาด ผมสามารถพูดได้ว่ามันเป็นความคิดที่มาจากซาตาน นั่นคือแบบเดียวที่ซาตานบอกคนที่ยังหลงหาย? มันทำให้พวกเขาคิดอย่างนี้ใช่หรือไม่? มันบอกว่า "ถ้าคุณได้รับความรอดแล้วมันจะยากยิ่งกว่านี้ คุณต้องทำงานให้หนักมากขึ้น และไม่มีทางทีคุณจะมีความสุขได้" แต่ความเป็นจริงมารโกหก ตรงข้ามกับความเป็นจริง! พระเยซูเท่านั้นที่บอกความจริงให้เรา! และพระเยซูตรัสว่า “เราจะให้เจ้าหายเหนื่อย" (มัทธิว 11:28) และพระเยซูตรัสอีกว่า "ท่านทั้งหลายจะพบที่สงบสุขในใจของตน" (มัทธิว 11:29) ลองดูที่มัทธิว 11: 28-30 กรุณายืนและอ่าน ดัง ๆอยู่หน้า 1011 ในพระคัมภีร์ฉบับ Scofield

“บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเรามีใจอ่อนสุภาพและถ่อมลง และท่านทั้งหลายจะพบที่สงบสุขในใจของตน ด้วยว่าแอกของเราก็แบกง่าย และภาระของเราก็เบา” (มัทธิว 11:28-30)

พวกคุณนั่งลงได้ ตอนนี้ใช้ปากกาของคุณและขีดเส้นใต้ห้าคำสุดท้ายในข้อ 28 "เราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข" ตอนนี้ขีดเส้นใต้เจ็ดคำสุดท้ายในข้อ 29 "ท่านทั้งหลายจะพบที่สงบสุขในใจของตน" ตอนนี้ขีดเส้นใต้ข้อสามสิบทั้งหมด "ด้วยว่าแอกของเราก็แบกง่าย และภาระของเราก็เบา"

ผมมักเคยได้ยินคนที่กลับใจใหม่พูดว่า "ทำไมตอนนี้ทุกอย่างดูช่างง่ายมาก! ฉันเคยคิดว่ามันคงเป็นเรื่องยาก หลังจากฉันกลายเป็นคริสเตียนแล้ว แต่ตอนที่ฉันมาวางใจพระเยซูและฉันก็รู้สึกหายเหนื่อย มันง่ายมากตอนที่พระเยซูช่วยกู้ฉันแล้ว" ความคิดทั้งหมดเหล่านี้ที่ถูกกล่าวออกมาในบทเพลงนมัสการของเรา! พวกคุณบางคนร้องเพลงเหล่านี้แต่กลับไม่รู้สึกใดๆ!

ไม่ใช่สิ่งที่ฉันทำด้วยมือของฉัน
   ที่สามารถตอบสนองพระบัญญัติของพระเจ้า
ความกระตือรือร้นของฉันไม่อาจช่วยอะไรได้
   น้ำตาของฉันจะไหลตลอดไปหรือ
บาปทั้งหมดไม่สามารถชดเชยได้เลยหรือ
   แต่พระองค์เท่านั้นที่ทรงสามารถช่วยกู้ฉันได้
(“Rock of Ages, Cleft For Me” by Augustus M. Toplady, 1740-1778)

คุณไม่อาจพบได้ในโลกที่ล้มเหลว
   สิ่งใดที่จะทดแทนความทุกข์ใจด้วยสันติสุข
จงมาที่คริสต์และเชื่อในพระองค์
   คุณจะได้พบกับความสงบและความสุข
ทำไมไม่มาตอนนี้? ทำไมไม่มาตอนนี้ ?
   ทำไมไม่มาที่พระเยซูตอนนี้
ทำไมไม่มาตอนนี้? ทำไมไม่มาตอนนี้ ?
   ทำไมไม่มาที่พระเยซูตอนนี้
(“Why Not Now?” by Daniel W. Whittle, 1840-1901)

พระเยซูเรียกคนเหน็ดเหนื่อยให้หายเหนื่อย -
   ทรงเรียกในวันนี้ ทรงเรียกในวันนี้
จงวางภาระไว้ที่พระองค์แล้วจะเป็นสุข
   พระองค์จะไม่หนีห่างไปไหน
(“Jesus is Calling” by Fanny J. Crosby, 1820-1915).

ออกจากพันธนาการแห่งความเศร้าโศกและมืดมิด
   พระเยซูข้าฯพระองค์เข้ามา ข้าฯพระองค์เข้ามา
มีอิสระเสรีภาพชื่นชมยินดีอยู่ในพระองค์
   พระเยซู ข้าฯพระองค์เข้ามา...
(“Jesus, I Come” by William T. Sleeper, 1819-1904).

โอจิตวิญญาณ คุณเหนื่อยล้าและมีปัญหาหรือไม่?
   ในความมืดคุณมองไม่เห็นแสงสว่าง?
จงมองแสงสว่างในพระผู้ช่วยให้รอด
   แล้วชีวิตจะมีความอุดมสมบูรณ์และอิสระ!
เปิดตาของคุณมองไปที่พระเยซู
   มองดูพระพักต์ของพระองค์ให้เต็มตา
แล้วสิ่งต่างๆในโลกนี้ก็จะมลายหายไป
   ในแสงสว่างและสง่าราศีของพระองค์
(“Turn Your Eyes Upon Jesus” by Helen H. Lemmel, 1863-1961)

ผมสามารถร้องเพลงนี้อย่างไม่หยุดหย่อน!

วันแห่งสันติสุข วันแห่งสันติสุข วันที่พระเยซูล้างบาปของฉันออกไป!
พระองค์สอนฉันถึงวิธีการดูและอธิษฐานและมีสันติสุข
วันแห่งสันติสุข วันแห่งสันติสุข วันที่พระเยซูทรงล้างบาปของฉันออกไป!
   (“O Happy Day” by Philip Doddridge, 1702-1751)

มารบอกคุณว่ามันยากต่อการจะเป็นคริสเตียน แต่บทเพลงนี้บอกว่าจะเป็นวันที่มีความสุข! และพระเยซูตรัสว่า "เราจะให้เจ้าหายเหนื่อย... แอกของเราก็เรื่องง่ายและภาระของเราก็เบา" (มัทธิว 11:28, 30)

และนั่นคือช่วงเวลาของการฟื้นฟู! "จึงเกิดความปลื้มปีติอย่างยิ่งในเมืองนั้น" (กิจการ 8: 8) นั่นเกิดขึ้นในวันเพนเทคอส นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในสะมาเรีย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกการฟื้นฟูที่แท้จริง "จึงเกิดความปลื้มปีติอย่างยิ่งในเมืองนั้น" ดร. ลอยด์ โจนส์ กล่าวว่า "ทุกการฟื้นฟู ... ผมพูดความจริงว่าเป็นการเกิดขึ้นซ้ำในวันเพนเทคอส" (Revival, ibid., pp. 199, 200) ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องจำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันเพนเทคอส ใจความสำคัญคือการฟื้นฟู ถ้าเราคิดถึงวันเพนเทคอส ขอให้รู้ว่านั่นคือสิ่งที่เราร้องขอ และเราแสวงหากัน

เปโตรลุกขึ้นยืนในวันเพนเทคอสและอ้างพระธรรมโจเอลดังนี้ว่า

“พระเจ้าตรัสว่า ต่อมาในวันสุดท้าย เราจะเทพระวิญญาณของเรามาเหนือเนื้อหนังทั้งปวง…บุตรชายบุตรสาวของท่านจะพยากรณ์ คนหนุ่มของท่านจะเห็นนิมิต และคนแก่จะฝันเห็น ในคราวนั้นเราจะเทพระวิญญาณของเราบนทาสชายและหญิงของเรา และคนเหล่านั้นจะพยากรณ์” (กิจการ 2:17, 18)

พระเจ้าทรงเทการฟื้นฟู "ของ" พระวิญญาณลงมา กล่าวว่า "ในวันนั้นเราจะเทพระวิญญาณของเรา" เป็นเรื่องที่แปลกคือพระคัมภีร์ฉบับบแปลในปัจจุบันตักคำว่า "ของ" ออกไป แน่นอนคำนี้มีอยู่ในภาษากรีกคือคำว่า APO พระคัมภีร์ฉบับเจนีวาเก่ามีคำนี้ "วิญญาณของเรา" ฉบับคิงเจมส์ก็มี "วิญญาณของเรา" ปัจจุบันมีแต่เพียงฉบับบ NASV เท่านั้น ที่มีคำนี้คงเอาไว้ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่ไว้ใจเล่มอื่นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมบอกคุณว่าต้องมีพระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์ Scofield เท่านั้นที่คุณสามารถเชื่อได้! ผู้แปลสมัยก่อนไม่ได้เอาคำพูดนี้ออกอย่างที่เรียกว่า "เทียบเท่าแบบไดนามิก" "ในวันนั้นเราจะเทพระวิญญาณของเรา" พวกเสรีนิยมกล่าวว่า "นั่นคือฉบับเซปตัวจินท์" ผมพูดว่า "เหลวไหล" ไร้สาระ! นั่นคือพระวิญญาณของพระเจ้าทรงเขียนคำนี้ในภาษากรีกแห่งพันธสัญญาใหม่ - และพระองค์ไม่ได้โกโหก! เมื่อตอนพระวิญญาณของพระเจ้าตรัสในฉบับเซปตัวจินท์ ฉบับภาษากรีกจึง "มีชีวิต" พันธสัญญาใหม่ ได้รับการดลใจ "ของพระวิญญาณของเรา" ทำไมถึงสำคัญ? ผมจะบอกคุณว่าทำไม พระเจ้าไม่ได้เทพระวิญญาณทั้งหมดของพระองค์ออก พระองค์ทรงส่งไปเท่าที่จำเป็น! จอร์จ สมีนตัน อยู่ในปี 1882 กล่าวว่า “มันเป็นการกล่าวถึงเชิงความหมายเพื่อไม่ให้เข้าใจ ‘พระวิญญาณขอเราผิดไป’ (apó) มันแตกต่างระหว่างการวัด [การให้] กับมนุษย์ และ [ที่สำคัญ] เป็นความสมบูรณ์แบบ” (George Smeaton, The Doctrine of the Holy Spirit, 1882; reprinted by the Banner of Truth, 1974; p. 28) คริสตจักรของพวกอัครสาวกได้รับพระวิญญาณครั้งแล้วครั้งอีก เพราะการทรงประทานนั้นมีหลายทาง ! ผมเองก็ยังไม่เคยสัมผัสด้วยตาตัวเองถึงการฟื้นฟูเช่นนั้น ผมเห็นด้วยกับ เลน เฮช เมอเรย์ ท่านกล่าวว่า “การเป็นพยานถึงการฟื้นฟูไม่ใช่การพูดถึงบางอย่างที่ไม่ใช่ให้มาก่อนหน้านั้น” (ibid., p. 22) ชคำพยานที่เห็นด้วยตาที่ อุลสตา ในไอร์แลนดช์เหนือ “มนุษย์ได้รับอย่างเต็มที่ตามที่พระเจ้าทรงเทให้พวกเขา พวกเขาทั้งงงและสงสัย – และแล้วพวกเขากช็ร้องไห้อย่างดีใจ – ที่บริบูรณ์ด้วยความรักอย่างไม่ร้ชูจักบรรยายออกมา” (William Gibson, The Year of Grace, a History of the Ulster Revival of 1859, Elliott, 1860, p. 432) ในวันที่ 29 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1860 ศาสนาจารย์ ดี เจ โจนส์ กล่าวว่า “เราได้รับการมาเยี่ยมด้วยพระวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ มาเหมือนพายุใหญ่ และ...คริสตจักรคาดหวังเพียงแค่นิดเดียว” (Murray, ibid., p. 25) นั่นแหลคือการมา ของำระวิญญาณ และเปช็นครั้งที่สามที่ผมเห็น พระวิญญาณเสด็จมาอย่างทันทีทันใด อย่างที่คาดไม่ถึง และผมเองก็ไม่มีวันที่จะลืมเหตุการณ์นั้นได้! ผมจะให้พวกคุณหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟชู อ้างมาจาก ดร. ดร. ลอยโจนส์

ไม่มีวันทีจะไม่เชื่อว่ามีพระเจ้าอีกต่อไปอีกแล้ว พระเจ้าทรงกลายเป็นความจริงให้กับพวกเขา พระเจ้าเสด็จลงมา สถิตท่ามกลางพวกเรา ... ทุกคนรับรู้การทรงสถิตอยู่และสง่าราศีของพระองค์(Revival, p. 204).

ทรงประทานผลลัพท์นี้ให้กับคริสตจักร เป็นการรับประการที่จริงและยิ่งใหญ (ibid.)

คริสตจักรเต็มไปด้วยสันติสุขและการสรรเสริญ ... เมื่อคริสตจักรมาถึงจุดของการฟื้นฟู คุณอย่าห้ามให้คนเหล่านั้นสรรเสริญ ไม่มีทางที่คุณจะหยุดพวกเขาได้ พวกเขาเต็มด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า ใบหน้าของพวกเขาบอกว่าอย่างนั้น พวกเขาเปลี่ยนไป ... เต็มไปด้วยสันติสุข "เต็มไปด้วยพระสิริที่ไม่อาจบรรยายได้" (ibid., p. 206)

ไม่ทางที่คุณจะห้ามพวกเขาให้มานมัสการสรรเสริญ และ [ฟัง] พระคำ พวกเขาตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น พวกเขามาทุกคืนและพวกเขาอาอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมง บางครั้งจนถึงเช้า จะเป็นไปตามนั้นตลอดไป (ibid., p. 207)

[ในการฟื้นฟู] บทเทศน์เดียวกัน [ที่ได้รับ] และพวกเขาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ [เป็น] การสำแดงโดยพระวิญญาณและพลังนี้ (ibid., p. 208)

ถ้าคุณต้องการให้คนมากมายเข้ามาในโบสถ์ของคุณ จงอธิษฐานเพื่อมีการฟื้นฟู! เพราะขณะมีการฟื้นฟู ผู้คนก็จะเข้ามา(ibid.)

ก่อนที่เขาจะเสร็จสิ้นการเทศนา พวกเขาก็ร้องไห้ออกมาและพูดว่า "เราจะทำอย่างไรดี" ... พวกเขาอยู่ในสภาพทุกข์ทรมานฝ่ายวิญญาณ ทุกข์เพราะเชื่อเรื่องบาป (p. 209)

มันไม่ใช่เพียงคำถามของการตัดสินใจ ตอนคุณมาร่วมงานฟื้นฟู เป็นการกลับใจอย่างลึกๆ เป็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ คนได้รับชีวิตใหม่และพวกเขาออกจากชีวิตเก่า ... อ่านเรื่องราว เหล่านี้ต่างเป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่เป็นเพียวแค่ความคิดของผม หรือเป็นแค่ทฤษฎี แต่แต่เป็นความจริง (ibid., p. 209)

และคนที่กลับใจเข้าร่วมกับคริสตจักร ... นั่นคือวิธีที่การที่พระเจ้าเริ่มต้นก่อตั้งคริสตจักร นี่เป็นวิธีการที่พระเจ้าทำให้คริสตจักรยังมีชีวิตอยู่ ... นี่ไม่จำเป็นมากใหกับเลาชั่วโมงนี้หรือเปล่า? ถ้าคุณเชื่อว่าอธิษฐานต่อพระเจ้าโดยไม่หยุด ... ผมไม่ได้บอกว่าคุณควรหยุดความพยายามทั้งหมดแล้วเพียงแต่เฝ้ารอคอย ... ไม่เลย จนทำต่อไป ทำทุกอย่างที่คุณกำลังทำ แต่ที่ผมพูดคือแบบนี้ – ให้แน่ใจว่าคุณปล่อยให้กับการอธิษฐานเพื่อการฟื้นฟู และเห็นว่ามีเวลามากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาด้วยฤทธิ์อำนาจ แค่ชั่วโมงเดียวก็สามารถมีมากกว่าเป็นห้าสิบหรือร้อยปี ฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ - นั่นคือความหมายของวันเพนเทคอส ... อธิษฐาน [สำหรับ] พระเจ้าที่จะสงสารและเมตตาและปรทานพระวิญญาณบริสุทธิ์มาในยุคขอวเรา (ibid., pp. 210, 211)

กรุณายืนและเปิดเพลงนมัสการบทที่ 7 "พระเยซูทรงรักจิตวิญญาณของฉัน" โดยบทกวีที่ดีและในสมัยยุชคการฟื้นฟูใหญ่ ชาร์ลส์ เวสลีย์

พระเยซูคนรักจิตวิญญาณของฉันให้ฉันบินไปอยู่ในอ้อมอก
   ในขณะที่ใกล้น้ำวกวนในขณะที่พายุยังคงอยู่ในระดับสูง
ซ่อนข้าพระองค์ไว้ ซ่อนข้าฯไว้พระผู้ช่วยจนกว่าพายุจะผ่านไป
   ปลอดภัยยามอยู่ในพระองค ในนที่สุดก็รับจิตวิญญาณของฉัน!

ไม่มีที่หลบภัยอื่น ๆ ให้ข้าฯ หากไม่มีพระองค์ข้าฯก็ไร้ความหวัง
   อย่าปล่อย! อย่าปล่อยให้ข้าฯอยู่คนเดียว โปรดชูใจของข้าฯ
ข้าฯวางใจในพระองค์ ทุกความหวังของข้าฯมาจากพระองค์
   ปกคลุมและป้องกันศีรษะของฉันด้วยร่มเงาแห่งปีกของพระองค์

ข้าแต่พระคริสต์ข้าฯต้องการพระองค์มากกว่าสิ่งอื่นใด ที่ข้าฯเคยพบ
   ยกคนที่ล้มลง รักษาคนป่วยและนำทางคนตาบอด
เพียงและพระนามของพระองค์เท่านั้น ทุกความอธรรมของฉัน
   ข้าฯผิดพลาดและเต็มไปด้วยความบาป พระองค์เต็มไปด้วยความจริงและพระคุณ

ตอนมาพบพระองค์พระคุณนั้นทรงครอบคลุมทุกความบาปของข้าฯ
   ให้ลำธารแห่งการรักษาทำให้ฉันบริสุทธิ์อยู่ภายใน
ชีวิตจึงเป็นดั่งน้ำพุที่มีอิสระอยู่ในพระองค์
   พลุขึ้นอยู่ภายในใจของข้าฯ เพิ่มขึ้นอยู่นิรันดร์
(“Jesus, Lover of My Soul” by Charles Wesley, 1707-1788)

ผมอธิษฐานขอให้คุณมาที่พระเยซู เหมือนอย่างที่ ชาร์ลส์ เวสลีย์กล่าวเอาไว้ พระเยซูรักจิตวิญญาณของคุณ พระเยซูจึงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนชำระบาปของคุณ พระโลหิตของพระองค์ชำระคุณให้สะอาด พระวรกายของพระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ประทานชีวิตนิรันดร์ให้คุณ จงเข้ามาและวางใจในพระเยซ

วางใจพระองค์เท่านั้น วางใจพระองค์เท่านั้น
   วางใจพระองค์เท่านั้น
พระองค์จะช่วยกู้ท่าน พระองค์จะช่วยกู้ท่าน
   พระองค์จะช่วยกู้ท่าน
(“Only Trust Him” by John H. Stockton, 1813-1877).

ดร. ชานโปรดนำเราอธิษฐาน อาเมน

(จบการเทศนา)
คุณสามารถอ่านบทเทศนาของ ดร. ฮิวเมอร์ ได้ในแต่ละอาทิตย์ทางอินเตอร์เนทได้ที่
www.realconversion.com. (กดที่นี่) “บทเทศนาในภาษาไทย”

คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net
– หรือเขียนจดหมายส่งไปให้เขาที่ P.O. Box 15308, Los Angeles, CA 90015.
หรือโทรศัพท์ถึงเขาที (818) 352-0452.

หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
คุณสามารถนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจาก ดร. ไฮเมอร์ส
แต่อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดของ ดร. ไฮเมอร์ส
ที่อยู่ในรูปวิดีโอนั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์และต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้

READING AND SOLO

โครงร่างของ

OUTLINE