เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
ต้องการ – ผู้ชายเข้าร่วมต่อสู้! (คำเทศนาในวันพ่อ) โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าวันที่ 15 เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 ณ “บัดนี้ พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ในกาลภายหลังจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปีศาจ การหน้าซื่อใจคดของคนที่พูดโกหก คือทำไปทั้งรู้ ๆ เหมือนอย่างกับเอาเหล็กแดงนาบลงไปบนจิตสำนึกผิดชอบของเขา” (1 ทิโมธี 4:1-2) |
วันนี้เป็นวันพ่อแห่งชาติ ผมคิดว่าจะเทศนาบางอย่างเกี่ยวกับการเป็นพ่อที่ดี แต่ผมรู้สึกว่าพระเจ้าไม่ต้องการให้ผมทำอย่างนั้นในเช้าวันนี้ ถ้าผมบอกคุณว่าจะทำอย่างไรที่จะเป็นพ่อที่ดีคุณอาจจะไม่ได้รับอะไรมากนัก เพราะบทเทศนาส่วนใหญ่จะพูดถึงศีลธรรมเท่านั้น นาย เดวิด มูรอย์ ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ทำไมผู้ชายถึงเกลียดการไปที่คริสตจักร (David Murrow, Thomas Nelson Publishers, 2004) ผมคิดว่านักเทศน์ทุกคนควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้ ตาม ดร. มูรอย์ หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผู้ชายเกลียดการไปคริสตจักร เพราะคำเทศนากล่าวถึงเรื่องศิลธรรมน้อยมาก เพียงบอกให้พวกเขาเป็นเด็กผู้ชายที่ดี - คำที่มีผล ผู้ชายไม่ต้องการคำสอนเกี่ยวกับการเป็นคนดี เพราะแม่ของพวกเขาล้วนเป็นแบบอย่างให้พวกเขาตอนอยู่ในวัยเด็ก - และพวกเขาก็เรียนรู้ที่จะนำมาใช้ ผมไม่ได้บอกว่าแม่ของพวกเขาทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยธรรมชาติแม่ต้องสอนลูกๆของพวกเธอ แต่ผู้ชายที่แก่แล้วไม้ต้องการอย่างนั้น ผู้ชายคนหนึ่งเรียนรู้ที่จะเลียนแบบผู้ชายอีกคนหนึ่ง ถ้าผู้ชายติดตามพระเยซูคริสต์ ผมพบว่าชีวิตของพวกเขาไปไม่ไปไกล ดังนั้นผมจึงต้องการแน่ว่าพวกเขารอดและทำตามพระองค์ นายมูรอย์บอกว่าผู้ชายต้องการความท้าทาย จึงสมัครเป็นทหารในกองทัพที่จะต่อสู้เพื่อพระเจ้าในฐานะทหารแห่งไม้กางเขน! ผมคิดว่าที่นายมูรอย์กล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง! นั่นคือสิ่งที่ผมเทศนา และนั่นคือสาเหตุที่คริสตจักรของเราเต็มไปด้วยผู้ชาย และเป็นผู้ชายที่มีความกระตือรือร้นที่จะ "ต่อสู้เพราะความเชื่อ [และ] ชีวิตนิรันดร์" (1 ทิโมธี 6:12) ไม่มีอะไรอีกอีกแล้วในคริสตจักรที่ผู้ชายต้องการมากกว่านี้ เราอยู่ในสงคราม - และเราต้องการผู้ชายที่ต่อสู้ – ผู้ชายที่ไม่กลัวที่จะต่อสู้เพื่อพระเจ้าและสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อต่อต้านมารซาตาน-ที่ควบคุมโลกของเรา แน่นอนผู้เชื่อในคริสตจักรจำนวนมาก ไม่รู้ว่าเราอยู่ในสงคราม! และพวกเขาไม่ทราบว่าใครเป็นศัตรู! ศิษยาภิบาลส่วนใหญ่ไม่เคยบอกพวกเขา! เช้านี้ผมจะทำอย่างนั้น ตามนี้! ฟังพระวจนะอีกครั้ง “บัดนี้ พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ในกาลภายหลังจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปีศาจ การหน้าซื่อใจคดของคนที่พูดโกหก คือทำไปทั้งรู้ ๆ เหมือนอย่างกับเอาเหล็กแดงนาบลงไปบนจิตสำนึกผิดชอบของเขา” (1 ทิโมธี 4:1-2) อัครทูตเปาโลพูดอย่างนี้ "ภายหลัง" ผมเชื่อว่าคำพูดหมายถึง "วันสุดท้าย" พูดอยู่ใน 2 ทิโมธี 3:1 ผมได้ศึกษาพระคัมภีร์มานานกว่า 55 ปีและผมก็เชื่อว่าเรากำลังอาศัยอยู่ในช่วงเวลานี้ เรากำลังอาศัยอยู่ในเวลาของ "ภายหลัง" เราอาศัยอยู่ใน "วันสุดท้าย" เรากำลังอาศัยอยู่ในเวลาที่ใกล้การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์และจุดสิ้นสุดของโลกนี้ และเรากำลังอาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่นรกทั้งหมดดูเหมือนว่าจะกำลังเปิดออก ซาตานและสมุนของมันเดินผ่านตามถนนร่วมกับเรา ปีนเข้ามาในบ้านของเราและทำลายทางแห่งชีวิตของเรา แม้แต่ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกายังเข้าใจว่าเป็นบางผิดปกติ มีการฆาตกรรมอีกครั้งหนึ่งในวันพุธที่ผ่านมา มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุ 15 ปีในรัฐโอเรกอนได้ไปโรงเรียนพร้อมด้วยปืนกล เขาก็ยิงเด็กผู้ชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บและยิงครูก่อนที่เขาจะยิงตัวเอง ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า ตอนนี้มันเกิดขึ้นหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ ระดับของความรุนแรงของปืนมีมากขึ้น ... ประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้มีการจัดการกับคนบ้า .... เราฆ่ากันและกัน [สูงขึ้น] กว่าที่อื่น ๆ (Barack Obama, The Los Angeles Times, Wednesday, June 11, 2014) แน่นอนคำตอบของโอบามาคือกำจัดปืน แต่ผมไม่เห็นด้วย พวกเขาสามารถกำจัดปืนของทุกคนในประเทศของเรา แต่ความรุนแรงเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีเด็กใช้มีดล่าสัตว์และเฉือน 20 คนที่โรงเรียนของเขา ถ้าพวกเขาห้ามไม่ให้มีดล่าสัตว์ คนพวกนั้นก็จะฆ่ากันด้วยหินหรือขวด - หรืออุปกรณ์อื่น ๆ อย่างที่ผ่านมาใช้ใน ลอสแอนเจลิส คาอินฆ่าน้องชายของเขาอาเบลก่อนที่จะมีการคิดค้นปืนขึ้นมาใช้! ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่มีมากไปกว่าปืน ผมเชื่อว่าทั้งหมดนี้เพราะว่าซาตานและกองกำลังปีศาจของมันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความรุนแรงและความวิกลจริตนี้ และนี่คือการที่เราสูญเสียหรือขาดการป้องกันโดยพระเจ้าจากความรุนแรงเหล่านี้ เราเริ่มต้นขาดการคุ้มครองโดยพระเจ้าตอนที่ศาลฎีกาประกาศห้ามไม่ให้นักเรียนในนิวยอร์กอธิษฐานในโรงเรียน ในปี ค.ศ. 1962 ศาลบอกว่ามอธิฐานเป็นอะไรที่ผิดกฎหมายที่อนุญาตให้นักเรียนอธิษฐาน พระเจ้ายิ่งใหญ่ เราทราบถึงการอยู่โดยที่ไม่พึ่งพาพระองค์ เราขอพรเจ้าให้พวกเรา พ่อแม่ของเราครูและประเทศของเรา จากนั้นในปี 1963 ศาลก็ประกาศห้ามเด็กอนุบาลอธิษฐานก่อนรับประทานอาหารเที่ยง เราขอขอบคุณสำหรับดอกที่สวยงาม; บทกวีที่ไม่ได้พูดถึงพระเจ้า แต่ศาลบอกว่ามันอาจจะทำให้พวกเขาคิดเกี่ยวกับพระเจ้า! ผู้พิพากษาคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกล่าวว่า "ดังนั้นเราจะขอให้ศาลห้ามไม่เพียงแต่ไม่ให้เด็กท่องคำเหล่านี้ แต่ยังรวมถึงสิ่งที่เด็กเหล่านั้นคิดด้วย ... ซึ่งอาจเป็นเรื่องประหลาดใจให้กับผู้เขียนเป็นอย่างมาก" ในปีเดียวกัน 1963 ศาลตัดสินว่าการสมัครใจอ่านพระคัมภีร์ในโรงเรียนเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ศาลไปเชื่อตามนักจิตวิทยาที่บอกว่าการอ่านพระคัมภีร์ "อาจเป็นไปได้และได้รับผลกระทบร้ายต่อจิตใจ [เด็ก]" ลองคิดถึงเรื่องนี้! ตามคำกล่าวของนักจิตวิทยากล่าวว่าการอ่านพระคัมภีร์อาจจะ "เป็นอันตรายต่อจิตใจ" ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1962 และ 63. ที่ฤดูใบไม้ร่วงที่พระเจ้าทรงคุ้มครองเขาออกไปและประธานาธิบดีจอห์นเอฟเคนเนดีอย่างแท้จริงมีสมองของเขาเป่าออกในดัลลัส, เท็กซัส อเมริกาได้รับการโยกและ socked และฉีกขาดโดยความรุนแรงนับตั้งแต่ ประธานทุกคนได้รับการตัดสินตั้งแต่นั้นมา มีข้อยกเว้น, โรนัลด์เรแกนประธานทุกอื่น ๆ ได้ออกจากที่ทำงานในความอัปยศและความล้มเหลว ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1962 และ 63. ในฤดูใบไม้ร่วง พระเจ้าไม่ได้คุ้มครองประธานาธิบดี จอห์น เอฟเคนเนดี จึงทำให้ท่านถูกลอกยิงเมืองดาลาส ร็ฐ เท็กซัส อเมริกาจึงมีเป็นแต่เรื่องรุนแรงนับตั้งแต่นั้นมา! ทุกประธานาธิบดีถูกตัดสินตั้งแต่นั้นมา มีข้อยกเว้นแต่ โรนัลด์เรแกนประธานทุกอื่น ๆ ต้องออกจากตำแหน่งด้วยความอัปยศและความล้มเหลว ทุกคนต่างก็รู้ว่าประเทศของเราแตกต่างไปจากที่เคยเป็นมา และคริสตจักรของเราก็ต่างไปด้วยด้วยเช่นกัน แต่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าเหตุของความแตกต่างนี้มาจากซาตาน ดร. เมอร์ เอฟ อังเกอร์เป็นอาจารย์เวลานานที่ดัลลัสวิทยาลัยสนศาสตร์กล่าวว่า ความน่ากลัวของคริสตจักรในยุคศตวรรษที่ยี่สิบ คือปฏิเสธหรือไม่ยอมรับการมีอยู่ของวิญญาณชั่วเหนือธรรมชาติ เงื่อนไขของความไม่เชื่อนี้ นำไปสู่ซึ่งการไร้สมรรถภาพในฝ่ายจิตวิญาณหรือตกต่ำในฝ่ายชีวิตจิตวิญญาณและอำนาจในคริสตจักร ... ตาบอดเพราะ [ซาตาน] เจ้าแห่งอำนาจในอากาศที่พระคัมภีร์กล่าวเอาไว้ (Merrill F. Unger, Th.D., Ph.D., Biblical Demonology, Kregel Publications, 1994, p. 201) ดร. ลอยด์ โจนส์เป็นศิษยาภิบาลเป็นเวลาหลายปีที่คริสตจักรเวสต์มินสเตอร์ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ท่านถือเป็นหนึ่งในการนักเทศน์ของอีเวนเจลิคอล์ที่ดีที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบ ดร. ลอยด์โจนส์กล่าวว่า กิจกรรมของวิญญาณชั่วเพิ่มมากขึ้น เหตุผลคืออะไร ผมจะบอกว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะจิตวิญญาณตกต่ำ คนทั่วประเทศไม่มีพระเจ้า ... อำนาจของซาตานครอบครองใจของมนุษย์ (D. Martyn Lloyd-Jones, M.D., Healing and the Scriptures, Oliver-Belson Books, 1988, pp. 159-160) ดร. ลอยด์ โจนส์ยังกล่าวอีกว่า "มารนั้นฉลาดมากต่อการที่หลอกชวนคนที่ไม่มีมาร [ดังนั้น] คริสตจักรที่จึงเหมือนถูกวางยาและอยู่อย่างลม ๆ แล้ง ๆ ทุกคนจึงมีชีวิตอย่างไม่มีการเข้าใจซึ่งกันและกัน" (Lloyd-Jones, The Christian Warfare, The Banner of Truth Trust, 1976, p. 106) แต่เราไม่ควรตกเป็นเหยื่อที่ถูก "วางยาและและมีชีวิตอยู่อย่างลม ๆ แล้ง ๆ” โดยซาตาน เราควรจะตระหนักเหมือนอย่างลูเทอร์ดังนี้ ... แม้ว่าโลกนี้มีปีศาจเต็มไปหมด เราอยู่อย่างขัดแย้ง สงคราม และมารมีอำนาจ I. หนึ่ง ผู้เชื่อต้องสู้ด้วยความเชื่อ! อัครสาวกยูดาห์กล่าวว่า “...ข้าพเจ้าจำเป็นต้องเขียนเตือนสติท่านให้ต่อสู้อย่างจริงจังเพื่อความเชื่อซึ่งครั้งหนึ่งได้ทรงโปรดมอบไว้แก่วิสุทธิชนแล้ว” (ยูดาห์ 3) คำว่า "ต่อสู้" หมายถึง "การเผชิญ" เพื่อต่อสู้การอย่างเอาจริงเอาจัง (Strong 1864) เราถูกเรียกให้มาต่อสู้เพื่อรักษาและประกาศความเชื่อของคริสเตียนตามที่กล่าวเอาไว้ในพระคัมภีร์ ดร. คริสเวลล์ ดับบริว เอ กล่าวว่า "คำว่า [ต่อสู้] จะเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งและการต่อสู้อย่างหลากหลายและรุนแรงมากที่สุดและมุ่งมั่น [เพื่อ] หลักคำสอนพื้นฐานของความเชื่อของคริสเตียน ... " (The Criswell Study Bible, note on Jude 3). ตัวของดร. คริสเวลล์ เองพบว่าการต่อสู้ที่ยาวนานและยากจะมีอยู่ในพระคัมภีร์ หนังสือสำคัญของเขาเรียกว่าทำไมฉันถึงเทศน์สั่งสอนถึงความจริงในพระคัมภีร์: ถามร้อนรนที่คริสเตียนทุกคนที่จะยอมรับพระคัมภีร์เป็นความจริงพระเจ้าหายใจแห่งสวรรค์ หรือ (W. A. Criswell, Ph.D., Broadman Press, 1969) ผมเคยเรียนรู้ “เรื่องการต่อสู้ในพระคัมภีร์” ในปี 1970 และ 1980 คริสตจักรของเราต้องถวาย 600 ดอร์ล่า ต่อเดือน (ไม่มีเงินแม้แต่ก้อนหนึ่งในเวลานั้น) ถึง ดร.บิลล์ เพาเวลล์ เพื่อช่วยท่านออก “นิตยสารของแบ๊บตืสต์ใต้” – ซึ่งเป็นการเปิดเผยการสอนเท็จของสิบหกสถาบันแบ๊บติสต์ และส่งไปให้ศิษยาภิบาลต่างๆของแบ๊บติสต์ใต้ในประเทศอเมริกา ผมและภรรยาเคยเข้าร่วมการประชุมนานาชาติของแบ๊บติสต์ใต้ เพื่อนำบทความของ ดร. เพาเวลล์ มีผู้แทนบางคนได้โยนบทความนี้ต่อหน้าภรรยาของผม และถ่มน้ำลายใส่เธอ แม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ไดหลายเดือนแล้วก็ตาม! นี่คือการต่อสู้ในฝ่ายความเชื่อ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเราต่อต้านคำสอนที่เป็นของมารซาตานแห่ง Ruckmanism และภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับปีศาจ "การทดลองครั้งสุดท้ายของพระคริสต์" คริสตจักรของเราทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของเราเอง เราได้ปิดสามคลินิกทำแท้งในพื้นที่ลอสแอนเจลิสต์ ตอนนี้อายุของผม 73 ปีแล้ว แต่พระเจ้าทรงเรียกผมเข้าร่วมทำสงครามครั้งสุดท้าย – คือต่อสู้พวก "ตักสินใจนิยม" – เพื่อการกลับใจใหม่จริง - ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาคริสตจักรของเราถูกแทรกแทรงนับล้านคนที่ไม่เชื่อ นอกจากนี้เรายังต่อสู้เพื่อกลับไปยังศูนย์กลางและความสำคัญแห่งโลหิตนิรันดร์ของพระเยซูคริสต์ เพียงวิเพื่อชำระบาปของเราในสายพระเนตรของพระเจ้า! เราทราบแล้วว่าสาเหตุของการสอนเท็จนี้มาจากซาตาน พระวจนะกล่าวว่า “บัดนี้ พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ในกาลภายหลังจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปีศาจ การหน้าซื่อใจคดของคนที่พูดโกหก คือทำไปทั้งรู้ ๆ เหมือนอย่างกับเอาเหล็กแดงนาบลงไปบนจิตสำนึกผิดชอบของเขา” (1 ทิโมธี 4:1-2) เช้านี้ผมขอร้องผู้ชายทุกคนให้เข้าร่วมต่อสู้กับบรรดา "วิญญาณชั่ว" – ตัวของซาตานเอง - ที่ทำพยายามทำลายและฉีกหลักคำสอนสำคัญของศาสนาคริสต์! คุณผู้ชาย – จงเข้ามาและช่วยเรา! ต่อไปนี้ ทหารของคริสเตียนจงมุ่งไปข้างหน้า II. สอง เป็นการต่อสู้ในฝ่ายวิญญาณ – และต้องสู้ด้วยการอธิษฐาน! กรุณาเปิดไปที่ เอเฟซัส 6:10-12 อ่านออกเสียงดัง ๆ “พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า สุดท้ายนี้ขอท่านจงมีกำลังขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในฤทธิ์เดชอันมหันต์ของพระองค์ จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้ เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือดแต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอบครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ” (เอเฟซัส 6:10-12) นี่เป็นพระธรรมที่ดีที่สุด ซึ่งบอกว่าเราไม่ได้ต่อสู้ฝ่าย “เนื้อหนังหรือเลือด” การต่อสู้ของเราคือ “มาร” และสมุนของมัน ดร. เจ เวอนอน แมคกี้ กล่าวว่า เรามีศัตรูอยู่รอบๆและชัดเจน มันคือซาตานผู้เป็นหัวหน้าของสมุนของมัน ตอนนี้เราต้องตระหนักว่าการต่อสู้นั้นอยู่ตรงไหน ผมคิดว่าคริสตจักรส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าการต่อสู้ทางจิตวิญญาณว่าอยู่ตรงไหน (J. Vernon McGee, Th.D., Thru the Bible, Thomas Nelson Publishers, 1983, vol. V, pp. 279-280; note on Ephesians 6:12) ความจริงเราไม่ได้ต่อสู้กับบารักโอบาหรือกับตัวเอง "งานเลี้ยงน้ำชา" รีพับลิกัน เราไม่ได้ต่อสู้กับสงครามเรื่องกระเทยหรือชาวมุสลิมที่เข้าร่วมในทหาร ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุชคิดว่าเราสามารถปลดปล่อยอิรักให้กลายเป็นเป็นประชาธิปไตยโดยการส่งทหารของเราไปที่นั่น ผมรู้ว่านั่นไม่อาจจะเป็นไปได้ ตอนนี้กองทัพอิสลามกำลังเข้ามาอยู่ใกล้ คุณจะเห็นว่านายบุชและนายโอบามาไม่เข้าใจการทำสงครามว่าจะชนะโดยทหารได้อย่างไร นั่นสิ่งที่ผ่านมาและในเวลานี้ และเป็นสงครามในฝ่ายจิตวิญญาณ ตอนนี้มีผู้คนเป็นที่นั่นกลับใจมาที่พระเยซูคริสต์ เราจะต้องต่อสู้กับอำนาจของมารด้วยการอธิษฐาน! คำอธิษฐานเท่านั้นที่จพนำชัยชนะในสงครามอย่างที่ทหารอเมริกันไม่เคยชนะมาก่อน! กรุณากลับไปที่ เอเฟซัส 6:18 อ่านออกเสียงดัง ๆ “เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่าผู้ใดกระทำความดีประการใด ผู้นั้นก็จะได้รับบำเหน็จอย่างนั้นจากองค์พระผู้เป็นเจ้าอีก ไม่ว่าเขาจะเป็นทาสหรือเป็นไทย” (เอเฟซัส 6:18) คุณเห็นแล้วว่าเราสามารถมองเห็นศัตรูได้อย่างชัดเจนในข้อที่ 11 และ 12 เราเห็นถึงความจำเป็นในการที่จะสวมยุทธพันของพระเจ้าในข้อที่ 13-17 แต่ตอนนี้ให้เรากลับไปที่การต่อสู้มารและสมุนของมันในข้อ 11 และ 12 การอธิษฐานคือการต่อสู้!!! ผมอยากให้ผู้ชายทุกคนที่อยู่ที่นี่ในเช้านี้ให้เข้าใจความคิดที่ว่าการอธิษฐานไม่ใช่เพื่อ sissies! ชนิดของการอธิษฐานตามอัครทูตเปาโลนั้นหมายถึงการต่อสู้ – กับซาตานและกองทัพปีศาจของมัน "จงอธิษฐานและวิงวอน" ไม่ใช่เพื่อความอ่อนแอ! การอธิษฐานต้องทั้งหมดและนำไปใช้” ไม่ใช่เพื่อความอ่อนแอ เบาะบางหรือเปราะบางกำพร้าชายน้อยอ่อนแอจะสั่นและอาจจะกลัวแม้ถ้าพวกเขาเข้าร่วมเป็นหนึ่งในการประชุมสวดมนต์สามในแต่ละสัปดาห์ในคริสตจักรของเรา เราทำตามตัวอย่างเคร่งครัดอย่างบรรพบุรุษ – ผู้ชายเท่านั้นที่นำการอธิษฐาน! พวกผู้หญิงสนับสนุนการอธิษฐานของเราโดยกล่าวว่ากับพวก "อาเมน" แต่พวกผู้ชายที่อธิษฐาน เหมือนที่ผมได้ยินผู้ชายทั้งหลายอธิษฐานในคริสตจักรของ ดร. ปายเลย์ที่ไอร์แลนด์เหนือ คนเหล่ารู้วิธีและกล้าเข้ามาด้วยพระคุณ! เราปฏิบัติตามตัวอย่างนั้น เราเข้าสู่ประตูสวรรค์ด้วยการการอธิษฐาน มาร่วมกับเราถ้าคุณได้รับนิมิตจากพระเจ้าให้ต่อสู้กับมารด้วยการคำอธิษฐาน! อาเมน! เราอธิษฐานในคืนวันพุธตอน 7:00 โมงตอนเย็น เราอธิษฐานในคืนวันพฤหัสตอน 7:00 โมงเย็น เราอธิษฐานในคืนวันเสาร์ตอน 6:00 โมงเย็น ทำไมถึงอธิษฐานมากขนาดนี้? คริสตจักรของเราที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ลอสแอนเจลิส ไม่อาจจะอยู่ถึงสองเดือน ถ้าขาดอธิษฐานของกองทัพขฝ่ายผู้ชาย! เข้ามาร่วมกับเรา เหมือนกองทัพอันยิ่งใหญ่ขับเคลื่อนคริสตจักรของพระเจ้า III. สาม คุณต้องกลับใจใหม่ถึงจะสามารถเข้าร่วมสงครามนี้ได้! ในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่ II เชิอร์ชิลล์ พึ่งกลายเป็นนายกรัฐมลตรี ท่านได้ไปกล่าวปราศรัยที่รายการวิทยุบอกคนอังกฤษว่า “ผมไม่มีอะไรจะให้พวกคุณนอกจากเลือด น้ำตาและเหงื่อ” พวกเขาได้ติดตามท่าน และแล้วก็เอาชนะฮิตเลอร์ และพวกนาซี! ในเช้านี้ผมก็ไม่มีอะไรที่จะให้พวกคุณ แต่ขออยู่ร่วมกับพวกท่านต่อสู้กับมารซาตาน มันไม่ง่ายนัก แต่จงลองดู คุณต้องสำรวมใจและชีวิตของคุณพร้อมกับสารภาพบาปของคุณ คุณต้องก้มกราบที่พระบาทของพระเยซู และวางใจในพระองค์ด้วยใจทั้งหมด แล้วคุณจงเข้ามาในคริสตจักร และมาทุกครั้ง คุณต้องยอมจำนนชีวิตของคุณให้กับพระเยซู และรับการชำระบาปของคุณโดยพระโลหิตของพระองค์! พระวจนะกล่าวว่า: “ฉะนั้นท่านจงทนการยากลำบากดุจทหารที่ดีของพระเยซูคริสต์” (2 ทิโมธี 2:3) จงลุกขึ้นยืน! แบกกางเขนของคุณแล้วเดินตามพระคริสต์! จงเข้ามาช่วยเราต่อสู้กับมารทีเมืองแห่งความชั่วนี้! จงใช้เสียงของคุณร้องเพลงด้วยบทเพลงแห่งชายชนะ กรุณายืนขึ้นกับผมและร้องเพลงด้วยกัน! ร้องท่อนรับ! คุณต้องได้รับการช่วยกู้โดยพระเยซูถึงจะสามารถเข้าร่วมศึกสงครามครั้งนี้ คุณต้องได้รับการชำระด้วยพระโลหิตของพระองค์ ถ้าคุณต้องการรับการช่วยกู้รอดพ้นจากบาปของคุณ กรุณาเดินออกไปข้างหลังของห้องนมัสการนี้ ตอนนี้ ดร. คาเกนจะพาพวกคุณไปยังอีกห้องหนึ่งเพื่อพูดคุยเพิ่มเติม และอธิษฐานเผื่อ ในพระนามของพระองค์ อาเมน (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย อาเบล พลูโฮมมี: 2 ทิโมธี 4:1-5 |
โครงร่างของ ต้องการ – ผู้ชายเข้าร่วมต่อสู้! (คำเทศนาในวันพ่อ) โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “บัดนี้ พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ในกาลภายหลังจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปีศาจ การหน้าซื่อใจคดของคนที่พูดโกหก คือทำไปทั้งรู้ ๆ เหมือนอย่างกับเอาเหล็กแดงนาบลงไปบนจิตสำนึกผิดชอบของเขา” (1 ทิโมธี 4:1-2) (1 ทิโมธี 6:12; 2 ทิโมธี 3:1) I. หนึ่ง ผู้เชื่อต้องสู้ด้วยความเชื่อ! ยูดาห์ 3. II. สอง เป็นการต่อสู้ในฝ่ายวิญญาณ – และต้องสู้ด้วยการอธิษฐาน! เอเฟซัส 6:10-12, 18 III. สาม คุณต้องกลับใจใหม่ถึงจะสามารถเข้าร่วมสงครามนี้ได้! 2 ทิโมธี 2:3. |