เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
ยุคของโนอาห์และวันของโลท บทเทศนา # 77 จากพระธรรมปฐมกาล โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 18 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 ณ “ในสมัยของโนอาห์เหตุการณ์ได้เป็นมาแล้วอย่างไร ในสมัยของบุตรมนุษย์ก็จะเป็นไปอย่างนั้นด้วย เขาได้กินและดื่ม ได้สมรสกันและได้ยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันนั้นที่โนอาห์ได้เข้าในนาวา และน้ำได้มาท่วมล้างผลาญเขาเสียทั้งสิ้น ในสมัยของโลทก็เหมือนกัน เขาได้กินดื่ม ซื้อขาย หว่านปลูก ก่อสร้าง แต่ในวันนั้นที่โลทออกไปจากเมืองโสโดม ไฟและกำมะถันได้ตกจากฟ้ามาเผาผลาญเขาเสียทั้งสิ้น ในวันที่บุตรมนุษย์จะมาปรากฏก็เป็นเหมือนอย่างนั้น” (ลูกา 17:26-30) |
มีอยู่สามอย่างที่คุณควรสังเกตเอาไว้ในพระธรรมตอนนี้ จงเขียนสองภาพที่พระคริสต์ทรงกล่าวถึงเอาไว้ - น้ำท่วมในสมัยของโนอาห์และฝนไฟกำมะถันที่ตกลงมาเผาเมืองโสโดม ประการที่สองดูไปที่สี่คำสุดท้ายในข้อ 27 "และทำลายพวกเขาทั้งหมด" ตอนนี้ให้มาดูสี่คำสุดท้ายในข้อ 29 "และทำลายพวกเขาทั้งหมด" ตอนนี้ดูที่ข้อ 30 "ในวันที่บุตรมนุษย์จะมาปรากฏก็เป็นเหมือนอย่างนั้น” ต่างชี้ถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์เพื่อพิพากษาคนที่ไม่เขื่อ ผู้คนในสมัยโนอาห์ไม่มีการเตรียมพร้อม – ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงถูกทำลาย ผู้คนในสมัยของโลทไม่มีการเตรียมพร้อม - ดังนั้นพวกเขาจึงถูกทำลาย การกินและการดื่มและการแต่งงานในหมู่พวกเขานั้นไม่ได้ผิดใดๆ แต่ที่ผิดคือทุกคนล้วนแต่เอาใจจดจ่ออยู่กับสิ่งเหล่านั้นโดยไม่สนใจพระเจ้า พวกเขาไม่ฟังโนอาห์หรือโลท ดังนั้นเพื่อพวกเขาทั้งหมดจึงถูกทำลาย ตอนนี้เราลองไปดูคนสองกลุ่มว่าทำไมพวกเขาถึงไม่มีการเตรียมพร้อมเพื่อการพิพากษา สิ่งแรกที่ผมอยากบอกคือพระคัมภีร์สอนเราว่า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งพระพิโรธและพิพากษา ผมเชื่อว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่คนในสมัยนี้เชื่อกัน พวกเขามักจะพูดว่า "ฉันไม่เชื่อเรื่องการพิพากษาของพระเจ้า" แต่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่พวกเขาเชื่อหรือไม่เชื่อ พระเจ้าไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถจินตนาการได้ พระเจ้าอยู่เหนือที่คุณจะจินตนาการได้ พระองค์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่คุณเชื่อหรือไม่เชื่อ ดังนั้นการที่ "คุณจะเชื่อการพิพากษาของพระเจ้า" หรือไม่นั้นไม่ใช่จุดสำคัญ เพราะการเป็นอยู่ของพระเจ้านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณเชื่อหรือไม่เชื่อ ความเชื่อและความคิดของคุณเปลี่ยนพระเจ้าไม่ได้! สมมุติคุณพูดว่า "ฉันไม่เชื่อว่ามีเมืองซานฟรานซิสโก" การพูดเช่นนี้ทำให้เมืองนี้หายไปได้หรือเปล่า? ไม่แน่นอนไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้ สมมุติคุณพูดว่า "ฉันไม่เชื่อว่ามีรถเข็นอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก" การพูดเช่นนี้ทำให้รถเข็นทั้งหมดนั้นหายออกจากจากเมืองไปหรือเปล่า? แน่นอนไม่อาจเป็นเช่นนั้น! และนั่นก็เป็นเช่นเดียวกับพระเจ้า ถ้าคุณพูดว่า "ฉันไม่เชื่อการพิพากษาของพระเจ้า" การพูดเช่นนี้ไม่อาจเปลี่ยนอะไรได้ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม พระเจ้าทรงอยู่เหนือความคิดของคุณ - และพระเจ้าแห่งการพิพากษาและพระพิโรธต่อบาป - ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ความจริงคือคนในสมัยโนอาห์ก็คิดเช่นเดียวกับคุณ ความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับพระเจ้าเป็นเช่นนั้น – สิ่งที่พวกเขาคิดเหมือนกับคุณก็คือไม่มีการพิพากษาของพระเจ้า! เป็นเช่นเดียวกับคุณ -พวกเขาคิดผิด! และแล้วพระเจ้าก็ส่งน้ำมาท่วมโลก "และทำลายพวกเขาทั้งหมด" (ลูกา 17:27) และนั่นก็คือความคิดของคนที่อยู่ในเมืองโสโดม คนในเมืองโสโดมคิดว่าพระเจ้าจะไม่พิพากษาพวกเขา คนในสมัยโนอาห์ไม่สนใจคำเทศนานั้น ผู้คนในเมืองโสโดมก็มิได้ฟังคำเตือนของโลท แม้แต่หลานของตัวเองก็คิดว่านี่คือการ "ปลุกระดม" ตอนเขาเตือนคนเหล่านั้นถึงการพิพากษาที่กำลังจะมา แต่สิ่งที่พวกเขาคิดผิดคือไม่มีใดๆพิพากษาที่จะตกลงมา แต่แล้ว "และทำลายพวกเขาทั้งหมด" (ลูกา 17:29) พระเยซูทรงเตือนไว้ที่ข้อสามสิบ โดยตรัสว่า “ในวันที่บุตรมนุษย์จะมาปรากฏก็เป็นเหมือนอย่างนั้น” (ลูกา 17:30) ผมเชื่อว่าทุกวันนี้เรากำลังอาศัยอยู่ช่วงเวลานั้น ไม่มีใครรู้วันหรือชั่วโมงการพิพากษาบาปของพระเจ้าว่าจะมาสู่คนยุคนี้เมื่อไหร่ แต่หมายสำคัญต่างกำลังแสดงให้เห็นว่าตอนนี้เรากำลังเข้าใกล้ยุคสุดท้ายไปทุกที และพระคัมภีร์กล่าวว่า "เตรียมที่จะพบกับพระเจ้าของเจ้า" (อาโมส 4:12) ดร. เอ็ด ฮินด์ซัน แห่งมหาวิทยาลัย ไลเบอตีกล่าวว่า จากการสำรวจของคริสเตียนพบว่าครั้งหนึ่งวัฒนธรรมในประเทศตะวันตกเคยครอบงำ แต่ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นอีก เรามีอยู่ในยุคของชาวโลก ยุคมืด ยุคสัมพัทธนิยม และยุคเรื่องเล่าที่เป็นความจริง... คุณเตรียมพร้อมที่จะพบกับพระเจ้าหรือยัง? คุณเตรียมพร้อมสำหรับการเสด็จมาของพระคริสต์และยุคสุดท้ายหรือยัง? พวกสาวกถามพระเยซูว่า "ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้" (มัทธิว 24:3) พระเยซูไม่ได้ตำหนิพวกเขา แต่พระองค์กลับบอกหมายสำคัญหลายอย่างที่บ่งบอกถึงโลกแห่งยุคสุดท้าย ผมเชื่อว่าตอนนี้เรากำลังอาศัยอยู่ในเวลานั้น – ในที่นี้พระเยซูตรัสว่าจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่เหมือนกับยุคของโนอาห์คือก่อนพิพากษาโดยให้น้ำท่วมใหญ่ – และในยุคของโลท ก่อนที่พระเจ้าจะพิพากษาโดยส่งไฟลงมาบนคนเหล่านั้น ดร. เอ็ม อาร์ ดีฮานกล่าวว่า ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ที่จะมาปฏิเสธเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระคริสต์ ถ้าเราเปิดพระคัมภีร์เราต้องใช้เวลากว่าสามสิบนาทีมาอ่านตลอดทั้งห้าบทที่กล่าวถึงสิ่งที่พระเยซูทรงตรัสถึง "วันของโนอาห์และวันของโลท" ยุคของโนอาห์และยุคของโลทนั้นเป็นช่วงที่มีความสำคัญ เพราะสองยุคนั้นคือช่วงแห่งความอุดมสมบูรณ์ พระเยซูกล่าวว่าพวกเขากินและดื่ม ... นั่นกล่าวถึงความตะกละและความมึนเมา เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดเพียงครั้งเดียว แต่ยุคปัจจุบันนี้กำลังเลียนแบบประวัติศาศาตร์ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือความชั่วจะมีมากว่าในสมัยของโนอาห์และโลท คนเหล่านี้เต็มไปด้วย "ตะกละและความมึนเมา" ผมจะย้ำให้คุณอีกครั้งถึงคำพูดของพระเยซู “คือช่วงเวลาของโนอาร์…เหมือนช่วงเวลาของโลท…และเป็นช่วงเวลาที่พระบุตรของพระเจ้าจะมาปรากฏ” (ลูกา 17, 16, 28, 30) พระเยซูทรงทำนายถึงการพิพากษาที่เลวร้ายให้กับคนที่ปฏิเสธพระองค์ คือยุคที่ไร้พระเจ้า พระเยซูตรัสว่า “ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิดความทุกข์ลำบากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มโลกมาจนถึงเวลานี้ และจะไม่มีต่อไปอีกเลย และถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีเนื้อหนังใด ๆ รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้ที่เลือกสรรไว้...” (มัทธิว 24:21, 22) พระคัมภีร์กล่าวถึงเจ็ดขันที่พระเจ้าทรงเทลงมา (หรือ ถ้วย) ซึ่งเต็มด้วยพระพิโรธของพระเจ้าลงในกลียุค การทำนายนี้มีอยู่ในพระธรรมวิวรณ์บทที่สิบหก (จากฉบับ NASV) ขันแรกพิพากาษาโดยเทลงคนทั้งหลายที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และบูชารูปของมัน ก็เกิดเป็นแผลร้ายที่เป็นหนองมีทุกข์เวทนาแสนสาหัส (ข้อ 2) ขันที่สองพิพากษาสิ่งที่อยู่ในทะเลและทะเลก็กลายเป็นเหมือนเลือดของคนตาย และบรรดาสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นก็ตายหมดสิ้น (ข้อ 3) ขันที่สามพิพากษาแม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งปวง และน้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นเลือด (ข้อ 4) ขันที่สี่พิพากษาโดยเทลงบนดวงอาทิตย์ และทรงให้อำนาจแก่ดวงอาทิตย์นั้นที่จะคลอกมนุษย์ด้วยไฟ ความร้อนแรงกล้าได้คลอกคนทั้งหลาย (ข้อ 8, 9) ขันที่ห้าพิพากษาโดยเทลงบนที่นั่งของสัตว์ร้ายนั้น และอาณาจักรของมันก็มืดไป คนเหล่านั้นได้กัดลิ้นของตนด้วยความเจ็บปวด (ข้อ 10) ขันที่สี่พิพากษาโดยเทลงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส ทำให้น้ำในแม่น้ำนั้นแห้งไป เพื่อเตรียมมรรคาไว้สำหรับบรรดากษัตริย์ที่มาจากทิศตะวันออก (ข้อ 12) ขันที่เจ็ดพิพากษาโดยเทลง มหานครนั้นก็แยกออกเป็นสามส่วน และบ้านเมืองของนานาประชาชาติก็ล่มจมและมีลูกเห็บใหญ่ตกลงมาจากฟ้าถูกคนทั้งปวง แต่ละก้อนหนักประมาณห้าสิบกิโลกรัม คนทั้งหลายจึงพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า (ข้อ 19, 21) คนเหล่านั้นกลับใจหรือเปล่า? ไม่เลย! เพราะไม่มีโอกาศที่จะกลับใจใหม่อีกแล้ว! พระคัมภีร์กล่าวว่า “คนทั้งหลายจึงพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า เพราะภัยพิบัติที่เกิดจากลูกเห็บนั้น เพราะว่าภัยพิบัติจากลูกเห็บนั้นร้ายแรงยิ่งนัก” (วิวรณ์ 16:21) “เพราะท่านเองก็รู้ดีแล้วว่า วันขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาเหมือนอย่างขโมยที่มาในเวลากลางคืน เมื่อเขาพูดว่า “สงบสุขและปลอดภัยแล้ว” เมื่อนั้นแหละความพินาศก็จะมาถึงเขาทันที เหมือนกับความเจ็บปวดมาถึงหญิงที่มีครรภ์ เขาจะหนีก็ไม่พ้น” (1 เธสะโลนิเก 5:2-3) คริสเตียนที่แท้จริงเท่านั้น คือผู้ที่มีประสบการณ์ผ่านการกลับใจใหม่อย่างแท้จริง และมีประสบการณ์แห่งความหวังก่อนสิ่งที่น่ากลัวเหล่านี้จะบังเกิด แต่คนส่วนใหญ่จะถูกพระเจ้าปฏิเสธ “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เราไม่รู้จักท่าน” (มัทธิว 25:12) เราเคยได้ยินคำเทศนาจากหัวข้อนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ที่น่าแปลกคือเรื่องนี้กลับเหมือนเงียบหายไปในยุคนี้ กลับไปในปี 1969 บิลลี่ เกรแฮมกล่าวว่า ”พระคัมภีร์สอนว่า การเข้าสู่ในช่วงยุคสุดท้าย คือยุคแห่งสงคราม การทำลาย ไร้กฏหมาย ผิดศีลธรรมเป็นการดีที่พระเจ้าจะต้องเข้ามาไปแทรกแซง ... ตอนมีการฟื้นฟูในประเทศนิวซีแลนด์ ผู้คนที่นั่นร้องด่าตะโกนว่า "อย่าปล่อยให้บิลลี่ เกรแฮมหลอกให้คุณกลัว" (Billy Graham, “The Day to Come,”" The Challenge: Sermons from Madison Square Garden, Doubleday and Company, 1969, p. 164). ก่อนหน้าที่ผู้นำคริสตจักรของอีเวนเจคอลจะเสียชีวิต ท่านบอกครอบครัวของผมและผมว่าการเทศนาของ บิลลี่ เกรแฮมเป็นเหมือน "ประจุไฟฟ้า" ใช่ แต่สมัยนี้มีนักเทศน์เหมือนท่านบ้างหรือเปล่า? นักเทศน์ส่วนใหญ่ใจเสาะมากเกินไปที่จะเตือนผู้คนเกี่ยวกับการพิพากษาและไฟแห่งนรก! มีชายคนหนึ่งบอกว่าผมเป็นคนหัวโบราณ และอยู่ในยุคไดโนเสาร์ ผมควรเทศนานุ่มนวลเหมือน โจเอล ออสติน หรือแม้กระทั่งพวกอนุรักษ์นิยม และแม้แต่นักเทศน์ของพวกฟันดาแมนทอล์ ผมตอบเขาโดยอ้างจาก 2 ทิโมธี 4:2-4 “จงประกาศพระวจนะ ให้ขะมักเขม้นที่จะทำการทั้งในขณะที่มีโอกาสและไม่มีโอกาส จงว่ากล่าว ห้ามปราม และตักเตือนด้วยความอดทนทุกอย่างและการสั่งสอน เพราะจะถึงเวลาที่คนจะทนต่อคำสอนอันถูกต้องไม่ได้ แต่เขาจะรวบรวมครูไว้ให้สอนในสิ่งที่เขาชอบฟัง ตามความปรารถนาของตนเอง เพราะมีหูที่คัน และเขาจะบ่ายหูจากความจริง หันไปฟังเรื่องนิยายต่าง ๆ” (2 ทิโมธี 4:2-4) จึงไม่น่าแปลกใจที่คริสตจักรของเราเต็มไปด้วยผู้คนที่ยังหลงหาย! เพราะศิษยาภิบาลในสมัยนี้กลัวเทศนาประกาศเหมือนนักเทศน์ในสมัยก่อนทำกัน! สิ่งที่ผมได้รับมอบหมายจากพระเจ้าไม่ใช่ให้เทศนาแบบข้อต่อข้อ พันธกิจที่รับมอบหมายคือ "ประกาศพระคำของพระเจ้า" จะรับหรือไม่ก็ตาม! ผมก็ให้คุณตามที่พระวจนะกล่าวไว้! “คือช่วงเวลาของโนอาร์…เหมือนช่วงเวลาของโลท…และเป็นช่วงเวลาที่พระบุตรของพระเจ้าจะมาปรากฏ” (ลูกา 17, 16, 28, 30) ถ้านั่นเป็นเหมือน “ประจุไฟฟ้า” ให้คุณ ขอพระเจ้าทรงช่วงคุณ! คุณจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างใหญ่หลวง ถ้ารอจนถึงวันที่การพิพากษานั้นมาถึง! ตอนนี้ คุณอยากจะรอดพ้นจากการพิพากษาของพระเจ้าหรือไม่? คุณต้องทำตามสิ่งที่โนอาร์ละโลททำกัน! พระเจ้าทรงตรัสให้โลทหนีออกจากเมืองโสโดม พระเจ้าตรัสว่า “จงหนีเอาชีวิตของเจ้าให้รอด อย่าได้เหลียวหลังมาดูหรือพักอยู่ที่ราบลุ่มทั้งหลาย จงหนีไปที่ภูเขาเกรงว่าเจ้าจะถูกทำลาย” (ปฐมกาล 19:17) ถ้าคุณอยากจะรับความรอดนั่นคือสิ่งที่คุณต้องทำ คือหนีออกจากสังคมที่ไร้พระเจ้า พระเจ้าตรัสว่า “เหตุฉะนั้นเจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย อย่าแตะต้องสิ่งซึ่งไม่สะอาด แล้วเราจึงจะรับพวกเจ้าทั้ง” (2 โครินธ์ 6:17) จงอยู่ห่างไกลจากคนที่ไม่ยอมไปโบสถ์ จงหนีให้ไกลจากคนที่ทำบาป และไม่เคยคิดถึงพระเจ้าเลย นั่นคือที่โลททำ และนั่นคือสิ่งที่คุณต้องทำ จงหลีกหนีออกจากโลกแห่งความบาป แล้วจงไปที่คริสตจักรในขณะที่ประตูยังเปิดรออยู่! และจงมาคบเพื่อนที่อยู่ในคริสตจักร! แต่นั่นไม่ใช่ทำหมด! คุณต้องทำตามอย่างที่โนอาห์ทำกัน พระเจ้าตรัสให้กับโออาห์ว่า “จงเข้ามา…ในนาวา” (ปฐมกาล 7:1) “และพระเจ้าตรัสแก่โนอาห์ว่า “ต่อหน้าเราบรรดาเนื้อหนังก็มาถึงวาระสุดท้ายแล้ว เพราะว่าแผ่นดินโลกเต็มไปด้วยความอำมหิตเนื่องจากพวกเขา และดูเถิด เราจะทำลายพวกเขาพร้อมกับแผ่นดินโลก” (ปฐมกาล 6:13) “จงเข้ามา…ในนาวา” (ปฐมกาล 7:1) นาวานั้นคือสัญญาลักษ์หรือภาพที่แสดงถึงพระเยซูคริสต์ จงมาที่พระคริสต์ พระองค์ตรัสว่า "มาหาเรา" (มัทธิว 11:28) โนอาห์ทำทุกวิถีทางเพื่อเข้ามาข้างใน - และเขาก็ถูกช่วยให้รอดพ้นจากการพิพากษา คุณต้องหาทุกวิถีทางเพื่อได้เข้ามาข้างใน – ที่พระคริสต์ พระองค์จะชำระคุณให้พ้นจากบาปทั้งหมดโดยพระโลหิตที่หลั่งบนไม้กางเขน จงเข้ามาในพระคริสต์โดยทางความเชื่อ! พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย และประทานชีวิตนิรันดร์ให้คุณ – และช่วยคุณให้รอดพ้นจากพระพิโรธที่กำลังจะมาถึง จงละทิ้งบาปเหมือนโลท แล้วให้มาที่พระคริสต์เหมือนโนอาห์ แล้วพระเจ้าจะปลุกคุณให้ตื่นและนำคุณเข้ามา! ถ้าคุณอยากจะคุยกับพวกเราเกี่ยวกับการรับการชำระบาปโดยโลหิตของพระเยซู กรุณาออกจากที่นั่งของคุณตอนนี้และเดินไปที่ด้านหลังของห้องนมัสการนี้ ดร. คาเกน จะนำพวกคุณไปยังอีกห้องหนึ่งเพื่อให้คำปรึกษาและอธิษฐานเผื่อ ดร. ชาน กรุณานำเราอธิษฐานเผื่อคนที่ไว้วางใจในพระเยซูนี้ด้วย อาเมน (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย อาเบล พลูโฮมมี: 2 เปโตร 2:4-9. |
|