เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
คุณเห็นอะไรตอนมองไปที่ไม้กางเขน?WHAT DO YOU SEE WHEN YOU LOOK AT THE CROSS? โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ เทศนาในตอนเช้าวันของพระเป็นเจ้าที่ 13 เดือนเมษายน ค.ศ. 2014 ณ “แล้วพวกเขาก็นั่งเฝ้าพระองค์อยู่ที่นั่น” (มัทธิว 27:36) |
ตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่นมักจะรู้สึกเสียใจจนน้ำตาไหลทุกครั้งที่ได้ยินถึงไม้กางเขน แม้ว่าในตอนนั้นยังไม่ได้กลับใจใหม่ก็ตาม ผมก็สัมผัสถึงความเจ็บปวดของพระเยซูที่ถูกตะปูตอกลงบนฝ่ามือและฝ่าเท้าของพระองคั ตอนที่ผมได้ยินเพลงที่นายกริฟฟิพึ่งร้องไปนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะต้องร้องไห้ออกมา ผมต้องหันศีรษไปที่อื่นเพราะไม่อยากให้ใครเห็น ผมสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดของพระคริสต์ ผมเสียใจกับการทนทุกข์ทรมานของพระองค์ เป็นอย่างนั้นจริงๆและไม่ใช่การแสแสร้งแต่อย่างใด ผมรู้สึกปวดทั่วไปในท้องเมื่อคิดฃถึงความทุกข์ทรมานของพระคริสต์บนไม้กางเขน สมัยนี้ผมไม่เคยได้ยิน ว่าจะมีคนหนุ่มสาวที่มีความรู้สึกอย่างนั้นในช่วงนมัสการในวันวันอาทิตย์ และบางครั้งผมก็สงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ทำไมถึงยากนักหนาให้กับหนุ่มสาวที่จะมารับรู้ถึงความทุกข์ทรมานของพระคริสต์ การเห็นอกเห็นใจหมายถึงการรับรู้หรือรู้สึกเจ็บปวดร่วมในยามที่เห็นคนอื่นรู้สึกทุกข์ คนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ดูเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลยในยามที่เห็นคนอื่นเศร้าโศกหรือเป็นทุกข์ ผมจำได้ว่าหลายปีก่อนผมตกใจมาก เมื่อเห็นกลุ่มวัยรุ่นหัวเราะชอบใจตอนที่พวกเขาเห็นลูกสุนัขถูกเตะเข้าที่หน้าท้อง เสียงหัวเราะของพวกเขาทำให้ผมรู้สึกเศร้าใจมาก ไม่จำเป็นที่ต้องพูดอะไรอีกที่คนเหล่านั้นออกจากคริสตจักรของเราไป ต้องใช้การอัศจรรย์เท่านั้นที่จะสามารถนำคนพวกนี้มาเป็นคริสเตียนได้! ผมเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นเหล่านี้มีใจแข็งกระด้างถึงเพียงนี้เพราะผลจากการที่พวกเขาดูทีวี และภาพยนตร์และวัฒนธรรมของเรา ปี 1999 มหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ทำการการศึกษา และซี้ให้เห็นว่าหนุ่มสาวชมภาพยนตร์เกี่ยวกับการฆ่ากันมากกว่า 16,000 เรื่องในช่วงอายุต่ำกว่า 18 ปี – หรือประมาณ 900 เรื่องที่เป็นหนังฆาตกรรมทางทีวีในแต่ละปี และนี่เป็นเพียงหนังฆาตกรรมที่ดูทางทีวีเท่านั้น ยังไม่รวมถึง ภาพยนตร์ วิดีโอเกมส์และในรายการข่าวชนิดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าทำร้ายกัน! วัยรุ่นพวกนี้ก็รู้ดีว่าการฆ่าเด็กในท้องคืออัตราการฆ่าคนที่สุงที่สุด! ทำแท้งประมาณ 3,000 ศพต่อวัน! – และเป็นล้านๆในทุกครึ่งปี! ภาพของการสังหารเหล่านั้นถูกเก็บเอาไว้ในใจของวัยรุ่นพวกนี้ และพวกเขาก็ทำอะไรบางอย่างด้วยอารมณ์ ผมจึงเชื่อว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้ใจของคนพวกนี้แข็งกระด้าง และไม่เคยความรู้สึกร่วมในยามที่เห็นคนอื่นทุกข์ เช้าวันนี้ผมอยากให้คุณแสดงความรู้สึกร่วมกับพระคริสต์ในเวลาที่พระองค์ต้องเสด็จไปที่ไม้กางเขน คุณเห็นอะไรตอนคุณมองไปที่กางเขนของพระคริสต์? วันที่พระเยซูคริสต์ทรงทนทุกข์ มีคนจำนวนมากมายอยู่ใกล้ที่กางเขน พระธรรมของเราข้อนี้กล่าวว่าทหารที่ตรึงพระองค์ที่กางเขนได้นั่งลง และ "มองดูพระองค์ที่นั่น" (มัทธิว 27:36) คนอื่น ๆ อีกมากมายก็อยู่ที่นั่นมองพระองค์ด้วยเช่นกัน คนเหล่านี้เป็นเหมือนคุณหรือเปล่า? ลองคิดเรื่องนี้ คุณเห็นอะไรตอนที่คุณมองไปที่ไม้กางเขน? I. ประการแรก พวกปุโรหิตใหญ่กับพวกธรรมาจารย์เห็นศัครูของพวกเขาถูกฆ่าบนไม้กางเขน “พวกปุโรหิตใหญ่กับพวกธรรมาจารย์และพวกผู้ใหญ่ก็เยาะเย้ยพระองค์เช่นกันว่า เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ แต่ช่วยตัวเองให้รอดไม่ได้ ถ้าเขาเป็นกษัตริย์ของชาติอิสราเอล ให้เขาลงมาจากกางเขนเดี๋ยวนี้เถิด และเราจะเชื่อเขา เขาไว้ใจในพระเจ้า ถ้าพระองค์พอพระทัยในเขาก็ให้พระองค์ทรงช่วยเขาให้รอดเดี๋ยวนี้เถิด ด้วยเขาได้กล่าวว่า ‘เราเป็นพระบุตรของพระเจ้า” (มัทธิว 27:41-43) พวกเขาหัวเราะเยาะเย้ยพระองค์ขณะทรงทนทุกข์บนไม้กางเขน เพราะพวกเขาถือว่าพระองค์เป็นศัตรู ดังนั้นพวกเขาจึงดีใจที่ได้กำจัดพระองค์ คนพวกนั้นก็เป็นเหมือนคนในสมัยนี้ HBO จ่ายเงินให้กับคนๆหนึ่งที่ชื่อ บิล มาเฮอร์พูดด่าเยาะเย้ยพระเจ้า และพูดถึงพระเยซูคริสต์ไปในทางที่ตลก คนอย่างริชาร์ดว์คินส์และคริสฮิตเชนส์มีรายได้ก็โดยการโจมตีพระคริสต์ พระคัมภีร์และพระเจ้า! พวกเขากลายเป็นปุโรหิตและธรรมาจารย์ที่ต่ำช้า มาดาเลย์ เมอร์เร โอแฮร์ ผู้เชื่อว่าไม่มีพระเจ้าและไม่อยากให้มีการอธิษฐานและอ่านพระคัมภีร์ ท่านกล่าวว่า "โลกนี้จะสวยงามมากถ้าทุกคนไม่มีพระเจ้า” "ผมเชื่อว่าไม่มีพระเจ้าหรอกเพราะว่าศาสนาเป็นแค่เครื่องมือที่ใช้เปลี่ยนใจคน" "ผมจะมีเพศสัมพนัธ์กับผู้ชายในทุกเวลาและทุกสถานที่ ที่ผมต้องการ" นั่นคือสิ่งที่พวกธรรมจารย์และพวกปุโรหิตต่ำช้าคิดกัน นั่นคือสิ่งที่อาจารย์หลายคนตามวิทยาลัยต่างๆของคุณคิดกัน พระเจ้าถูกห้ามท่ามกลางคนพวกนี้ เหมือนกับพวกที่ทำกับพระเยซูที่กางเขน พระคัมภีร์กล่าวว่า “คนโง่รำพึงในใจของตนว่า ไม่มีพระเจ้า เขาทั้งหลายก็เลวทรามลง เขากระทำกิจการที่น่าสะอิดสะเอียน ไม่มีสักคนเดียวที่ทำดี" (สดุดี 14:1) คุณเป็นอย่างนี้หรือเปล่า? คุณเห็นอะไรตอนมองไปที่ไม้กางเขนของพระคริสต์? II. ประการที่สอง พวกทหารโรมันนำฉลองพระองค์มาเดิมพันภายใต้ไม้กางเขน “ครั้นตรึงพระองค์ที่กางเขนแล้ว เขาก็เอาฉลองพระองค์มาจับฉลากแบ่งปันกันเพื่อจะสำเร็จตามพระวจนะโดยศาสดาพยากรณ์ซึ่งว่า เสื้อผ้าของข้าพระองค์ เขาแบ่งปันกัน ส่วนเสื้อของข้าพระองค์นั้น เขาก็จับฉลากกัน แล้วพวกเขาก็นั่งเฝ้าพระองค์อยู่ที่นั่น” (มัทธิว 27:35-36) คนเหล่านี้ใช่ว่าจะให้ความสำคัญให้กับฉลองของพระเยซู แต่เพราะเป็นพวกฝักฝ่ายแต่วัตถุนิยม เสื้อคลุมนั้นอาจมีค่าที่สามารถแลกเป็นเงินได้ เพราะใจของคนเหล่านั้นแข็งกระด้างเกินที่จะให้ความสำคัญให้กับฉลองของพระคริสต์! ใจของคุณอยู่ที่ไหน? คุณเห็นอะไรตอนคุณมองไปที่ไม้กางเขน? มีนักศึกษาหลายคนกลัวการเป็นคริสเตียน เพราะคิดว่าอาจส่อผลกระทบต่อการเรียน และกระทบต่อการหางานดีๆทำหลังจบการศึกษาแล้ว มีแต่เงิน! เงิน! เงิน! นี่คือสิ่งเดียวที่หนุ่มสาวชาวจีนคิดกัน "ถ้าฉันเป็นคริสเตียน ฉันจะต้องสูญเสียเงินทอง" พวกเขากล่าวอย่างนั้น นานมาแล้วตอนที่ผมยังเป็นสมาชิกที่คริสตจักรจีน ผมได้ตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตใหม่ ผมตัดสินใจที่จะเดินตามพระคริสต์ไม่ว่าจะสูญเสียอะไรก็ตาม! พระเยซูถามคำถามหนึ่งเอาไว้ดีมาก พระองค์ตรัสว่า “เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องสูญเสียจิตวิญญาณของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร?” (มาระโก 8:36) วอร์เรน บัฟเฟทเป็นหนึ่งในห้าคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่ทุกปีเขากจะบริจาคเงินเป็นล้านๆดอลลาร์ให้กับการวางแผนครอบครัวและกับการทำแท้ง จะเกิดอะไรขึ้นกับจิตวิญญาณของเขาเมื่อเขาตายแล้ว ตอนนี้อายุของเขามากกว่า 80 ปี จะคุ้มหรือเปล่าล่ะแม้เขาร่ำรวยแต่จิตวิญญาณของเขาต้องตกนรก สำหรับทหารโรมันพวกนั้นเห็นแต่เงินที่ได้จากเสื้อคลุมของพระคริสต์ คุณเห็นอะไรตอนคุณมองไปที่ไม้กางเขน? III. ประการที่สาม โจรคนหนึ่งบนไม้กางเขนพบกับความหายนะ มีโจรอยู่สองคนถูกตรึงทางด้านซ้ายและขวาของพระเยซูคริสต์ คนแรกมองดูพระเยซูและคิดว่าพระองค์เป็นเพียงแค่ฆาตกรคนหนึ่ง เขาคิดว่าพระเยซูเป็นเพียงคนบ้าที่เชื่อว่าตังเองเป็นพระบุตรของพระเจ้า เขาด่าพระคริสต์เหมือนเป็นคนเคร่งศาสนาคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงหันไปด่าและเยาะเย้ยพระคริสต์ หลายปีที่ผ่านมาผมมีเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง ผมชอบเขามาก คืนหนึ่งผมชวนเขาให้ไปที่คริสตจักรกับผมเพื่อไปฟังพระกิติคุณ เขาก็ตอบว่า "ไม่ไป" เขายังกล่าวอีกว่า "โรเบิร์ต จงสอนตัวคุณเอง สอนตัวคุณเอง” ไม่มีวันที่ผมจะสามารถลืมคำพูดของเพื่อนคนนี้ เขาหมายความว่าผมไปคริสตจักร แต่เขามีเพื่อนมากมายที่ดื่มเบียร์ อะไรคือสิ่งที่ดีให้กับผม และแตกต่างจากสิ่งดีสำหรับเขา "โรเบิร์ต จงสอนตัวคุณเอง สอนตัวคุณเอง” ไม่กี่ปีหลังจากนั้นผมก็ไปยืนดูเขานอนอยู่ในโลงศพ ผมบนศีรษะของเขาไม่ได้หงอก ใบหน้าของเขาก็ไม่มีริ้วรอย อายุของเขาก็แค่ประมาณสี่สิบปี เขาไม่อาจรู้ว่าจะต้องจบชีวิตด้วยวัยเพียงแค่นี้ เพราะจริงๆแล้วเขาเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี เขาเคยบอกผมว่า "โรเบิร์ต ฉันจะไม่อยู่ถึงห้าสิบปี" เขาเสียชีวิตตอนอายุสี่สิบแปดปีในบ้านของเขา ตอนที่ผมมองเขานอนในโลงศพและก็คิดถึงคำพูดของเขาขึ้นมาทันที "โรเบิร์ต จงสอนตัวคุณเอง สอนตัวคุณเอง” ตอนผมเทศนาในงานศพของเขานั้นไม่รู้จะพูดอะไรหนุนใจครอบครัวและเพื่อนของเขา – แม้แต่ความหวังคำเดียวก็ไม่มี! สิ่งที่ผมทำได้คือสอนให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ให้วางใจในพระเยซู โจรคนหนึ่งที่ถูกตรึงไว้ข้างๆของพระเยซูพูดพึมพำดูหมิ่นพระองค์ เขาคิดว่าพระเยซูเป็นเพียงหนึ่งผู้คลั่งศาสนาคนหนึ่ง ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตกวิญญาณของโจรคนนี้ก็ลงไปในนรกแล้ว คุณเห็นอะไรตอนคุณมองไปที่พระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน? IV. ประการที่สี่ โจรคนที่สองเห็นพระเยซูบนไม้กางเขนเป็นพระผู้ช่วยให้รอด คนนี้ได้ฟังเรื่องราวต่างจากการที่ผู้คนพูดถึงพระเยซูในเช้าวันนั้น แต่ตอนเที่ยงความมืดเข้ามาปกคลุมทั่วแผ่นดิน เขาได้ยินเสียงพระเยซูอธิษฐานเผื่อผู้ที่ตรึงพระองค์ที่กางเขน “ฝ่ายพระเยซูจึงตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา ขอโปรดอภัยโทษพวกเขา เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร” (ลูกา 23:34) คำอธิษฐานของพระเยซูเผื่อผู้ที่ฆ่าพระองค์ ทำให้โจรคนนั้นทราบซึ้ง เขาจึงหยุดเยาะเย้ยพระเยซู หันศีรษะมองไปที่พระผู้ช่วยให้รอดและเขาก็ถ่อมใจลง เขาไม่เคยเห็นใครคนไหนที่อธิษฐานยกโทษให้กับศัตรูของตัว "พระบิดา พระบิดา โปรดยกโทษให้พวกเขา" นั่นคือคำอธิษฐาน เรื่องทั้งหมดที่โจรคนนี้ได้ยินมาจากการบอกเล่าของฝูงชน ความรักของพระเยซูที่มีต่อคนเหล่านั้นเห็นได้จากการจารึกที่อยู่เหนือศีรษะของพระเยซูที่กล่าวว่า "นี่คือกษัตริย์ของพวกยิว" (ลูกา 23:38) ทันใดนั้นคนนี้ก็เชื่อพระองค์! แน่นอนเขาเคยได้ยินพระเยซูรักษาคน เขาเคยได้ยินสิ่งที่พระเยซูทรงสอน ตอนนี้ทุกสิ่งเกิดขึ้นในใจของเขา นี่คือกษัตริย์ของพวกยิว! นี่คือพระเมศิยาห์! นี่คือพระผู้ช่วยให้รอด! เขาไม่เคยเห็นพระองค์ด้วยตา แล้วเราทั้งหลายล่ะเคยเห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับพระเยซูด้วยตาหรือเปล่า? ผมเองก็ไม่เคยเห็นด้วยตา - และตามที่ผมคิดทุกคนก็เป็นเช่นนั้น ดร. ลอยด์ โจนส์กล่าวว่า "ความจริงเท่านั้นยังไม่พอ" เพราะไม่มีวันที่ใจของเราจะเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ทั้งหมดได้! แต่โจรคนนี้รู้ว่าเขาเป็นคนบาป ใจของเขารู้สึกเช่นนั้น! พระองค์ตรัสให้กับโจรที่ไม่เชื่อว่า "และเราก็สมกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับสมกับการที่เราได้กระทำ [ผิด] - แต่ท่านผู้นี้หาได้กระทำผิดประการใดไม่” (ลูกา 23:41) แท้จริง "ข้อเท็จจริงเท่านั้นยังไม่พอ" นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าพวกนักปฏิรูปบางคนของเราผิดไป ดร. ลอยด์โจนส์ถูกต้องที่กล่าวว่า "ข้อเท็จจริง้เท่านั้นยังไม่พอ" ถ้าคุณพยายามมองหาข้อเท็จจริงเพื่อนำมาพิสูจน์พระเยซูคริสต์ให้กับคุณ ไม่มีวันที่คุณจะรอดได้ พระคัมภีร์กล่าวชัดเจนว่า "ด้วยว่าความเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม" (โรม 10:10) คำพูดผิดนี้คือสิ่งที่นักเทศน์ในสมัยใช้กัน พวกเขาเทศน์ไปที่หัวไม่ใช่ให้กับใจ โอ้พระเจ้าโปรดอย่าให้ผมทำอย่างนั้นเลย! กรุณาช่วยให้ผมเทศน์ให้กับใจของคน! "ด้วยว่าความเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม" นี่สิ่งที่โจรคนนี้หันหน้าไปที่พระเยซู - และกล่าวว่า “พระองค์เจ้าข้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในอาณาจักรของพระองค์” (ลูกา 23:42) ก่อนที่คำเหล่านั้นจะออกจากปากของเขา โจรคนที่สองนี้ก็รอดแล้ว! เขาเรียนรู้น้อยมาก เขาไม่มีความรู้สึกพิเศษหรือพิสูจน์ให้เห็นว่าพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด แต่เขาเชื่อพระเยซู และ "ด้วยว่าความเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม" " เขาวางใจพระเยซู! นั่นคือสิ่งที่พระเจ้าต้องการ! ในช่วงเวลาที่คนบาปเชื่อ โจรที่เชื่อในพระเยซู และในเวลานั้นเขาก็รอด! นั่นเป็นวิธีเดียวที่เราทุกคนรอด เราเชื่อในพระเยซู เราวางใจพระองค์ เราได้รับความรอด! และพระเยซูตรัสให้กับโจรที่รอดว่า “เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” (ลูกา 23:43) วันนั้นที่โจรคนนั้นเสียชีวิตบนไม้กางเขนคือวันที่เขาไปสวรรค์กับพระเยซู! รอดโดยพระโลหิตของผู้ที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน! เวลาที่คุณเชื่อในพระเยซู และวางใจพระองค์ด้วยใจของคุณ คุณก็จะรอดเช่นเดียวกันกับโจรคนนั้นตอนที่เขาเสียชีวิตแล้ว – โจรที่อยู่บนไม้กางเขนถัดจากพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูทรงช่วยโจรคนนนั้น พระเยซูล้างบาปทั้งสิ้นของคนๆนั้นโดยพระโลหิตที่หลั่งลงบนไม้กางเขนในวันนั้น! และในเช้านี้พระโลหิตของพระองค์ก็พร้อมที่จะล้างความผิดบาปของคุณด้วเช่นกัน อย่าไปเชื่อนักเทศน์ที่บอกคุณว่าโลหิตไม่สำคัญใดๆ ดร. ลอยด์โจนส์กล่าวว่า "ไม่มีวันเพียงพอที่จะพูดถึงกางเขนและความตาย แต่ก็โดย 'โลหิต'" ถ้าเช้าวันนี้คุณวางใจในพระเยซูบาปของคุณจะถูกชำระโดยพระโลหิตของพระองค์! คุณจะรอด! คุณจะเป็นคริสเตียนที่แท้จริง คุณพร้อมที่จะไปสวรรค์! คุณจะมีชีวิตใหม่ในพระคริสต์ กลับใจและความวางใจพระผู้ช่วยให้รอดในตอนนี้! ถ้าคุณอยากจะคุยกับพวกเราเกี่ยวกับการรับการชำระบาปโดยโลหิตของพระเยซู กรุณาออกจากที่นั่งของคุณตอนนี้และเดินไปที่ด้านหลังของห้องนมัสการนี้ ดร. คาเกน จะนำพวกคุณไปยังอีกห้องหนึ่งเพื่อให้คำปรึกษาและอธิษฐานเผื่อ ถ้าคุณอยากคุยกับฟมถึงคำเทศนานี้ ให้ไปรออยู่ด้านหลัง ไปได้ในตอนนี้ ดร. ชาน กรุณานำเราอธิษฐานเผื่อคนที่ไว้วางใจในพระเยซูนี้ด้วย อาเมน (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net หมายเหตุ: ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย อาเบล พลูโฮมมี: มัทธิว 27:35-44/ |
โครงร่างของ คุณเห็นอะไรตอนมองไปที่ไม้กางเขน? WHAT DO YOU SEE WHEN YOU LOOK AT THE CROSS? โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “แล้วพวกเขาก็นั่งเฝ้าพระองค์อยู่ที่นั่น” (มัทธิว 27:36) I. ประการแรก พวกปุโรหิตใหญ่กับพวกธรรมาจารย์เห็นศัครูของพวกเขาถูกฆ่าบนไม้กางเขน มัทธิว 27:41-43; สดุดี 14:1. II. ประการที่สอง พวกทหารโรมันนำฉลองพระองค์มาเดิมพันภายใต้ไม้กางเขน มัทธิว 27:35-36; มาระโก 8:36. III. ประการที่สาม โจรคนหนึ่งบนไม้กางเขาพบกับความหายนะ IV. ประการที่สี่ โจรคนที่สองเห็นพระเยซูบนไม้กางเขนเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ลูกา 23:34, 38, 41; โรม 10:10; ลูกา 23:42, 43. |