เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
นักศึกษาล้านๆคนตามโรงเรียนยังหลงหายอยู่- MILLIONS OF LOST COLLEGE STUDENTS – โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ เทศนาในตอนเย็นวันของพระเป็นเจ้าวันที่ 30 เดือน มิถุนายน ค.ศ. 2013 ณ |
กรุณาเปิดพระคมภีร์ของท่านไปที่พระธรรมมัทธิว 9:37, 38 ขอยืนขึ้นและอ่านคำตรัสของพระคริสต์นี้ด้วยกัน “แล้วพระองค์ตรัสกับพวกสาวกของพระองค์ว่า การเก็บเกี่ยวนั้นเป็นการใหญ่นักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่เหตุฉะนั้น พวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของการเก็บเกี่ยวนั้น ให้ส่งคนงานมาในการเก็บเกี่ยวของพระองค์” (มัทธิว 9:37, 38) พวกคุณนั่งลงได้ มีบางคนบอกว่าสิ่งที่แปลกประหลากสำหรับศิษยาภิบาลรีฟอร์มอย่างผมก็คือชอบอ้างอิงคำพูดของ ดร. จอห์น อาร์ ไรซ์ (1895-1980) แต่สำหรับผมแล้วไม่เห็นจะแปลกตรงไหน อาทิตย์ที่แล้วผมบอกศิษยาภิบาลท่านหนึ่งว่าผมได้ศึกษาประวัติของท่าน ริชาร์ด บาสเตอร์ (1615-1691) และการกลับใจใหม่ของพวกโปรเตสแตนต์ที่เรียกว่าปูริเตน อย่างไรก็ตามผมก็ยังชอบที่จะอ่านหนังสือของ ดร. ไรซ์ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการประกาศ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? นั่นเป็นเพราะว่า ดร. ไรซ์ บอกเราให้ไปหาผู้ที่หลงหาย –ส่วน ริชาร์ด บาสเตอร์ บอกเราว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเราพบคนเหล่านั้น! และนั่นก็สมดุลย์พอดี ถ้าคุณถามผม! โปรดฟังคำพูดของ ดร. ไรซ์ ให้ดี สิ่งหนึ่งที่ท่านได้กล่าวเอาไว้ซึ่งมันน่าสนใจสำหรับพวกเราทั้งหลายเป็นอย่างมาก โดยพูดว่า มีสามอย่างในสถานการร์ที่แตกต่างกันและโดดเด่นในพระคัมภีร์ใหม่ พระเยซูทรงตรัสไว้ในทำนองเดียวกัน หลายปีที่ผ่านมาผมได้รู้จักกับศิษยาภิบาลชาวจีนชื่อ โทมัส ลอว์ ความจริงท่านคือศิษยาภิบาลคนแรกที่คริสตจักรแบ๊บติสต์ที่ผมเคยเป็นสมาชิกได้ยี่สิบสามปี ในยามที่ท่านรู้สึกท้อแท้ท่านมักจะกล่าวถึงพระมหาบัญาชาในพระธรรมมัทธิว 28 เช่นในยามที่ท่านรู้สึกว่ายากเลยเกินที่จะนำคนมาเชื่อพระเจ้า ท่านก็จะพูดว่า “คำมั่นสัญญาที่ทรงให้ฉันคือพระมหาบัญชา ‘เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นโลก’ (มัทธิว 28:20) ที่อาจารย์ลอร์พูดนั้นดูเหมือนจะติดตลก แต่ก็คือความจริงให้กับเราทั้งหลาย “ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดี ทรงมอบไว้แก่เราแล้วเหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เขารับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา และแห่งพระบุตร และแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกท่านไว้ และดูเถิด เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นโลก เอเมน” (มัทธิว 28:18, 19, 20) ผมรู้ว่าเรากำลังอยู่ในยุคมืดและวิกฤต ผมก็รู้ว่ามันเป็นการยากที่จะนำพวกผู้ใหญ่หรือคนแก่มาตอบสนองรับเอาพระกิตติคุณ แต่ผมรู้ว่ามีคนหนุ่มสาวเป็นพันๆคนได้เข้าศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆในแต่ละเทอม ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีต่อคริสตจักรแบ๊บติสต์ต่างๆในยุคปัจจุบันนี้ที่ไม่แยแสนักศึกษาเหล่านั้น คนแบ๊บติสต์อยู่ไหนกันหมด? เราไม่ควรให้ความเฉื่อยชาของพวกเขามามีอิทธิพลต่อพวกเรา เพราะว่ามีอนุชนมากมากมายที่ควรได้รับการประกาศ และพระเยซูตรัสว่า “จงออกไปตามทางใหญ่และรั้วต้นไม้ทั้งหลาย และเร่งเร้าเขาให้เข้ามาเพื่อเรือนของเราจะเต็ม” (ลูกา 14:23) “เราจะเก็บเกี่ยวในวันนี้” - จงร้องเพลงนี้! เราจะเก็บเกี่ยวในวันนี้ หรือจะพลาดโอกาสทองนี้ไป! ศิษยาภิบาลของผมที่รู้จักกันมายาวนานชื่อ ดร. ทิโมธี หลิน ท่านเป็นนักศาสนศาสตร์ เป็นอาจารย์และเป็นผู้อำนวยการในพระคริสตธรรมที่ยิ่งใหญ่ อีกด้านหนึ่งท่านก็เป็นผู้รับใช้ที่ชาญฉลาด หรืออาจจะเป็นผู้รับใช้ที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยรู้ ท่านบอกเราเสมอให้ไปประกาศกับพวกนักศึกษา ท่านยังบอกว่าพวกคนแก่นั้นมักจะมีอคติและยากต่อการที่จะประกาศ แต่สำหรับคนหนุ่มสาวนั้นจะรับฟัง มาที่คริสตจักร และรับความรอด ในคริสตจักรจีนเล็กๆนั้นไม่มีอุปกรณ์อะไรมากมายให้กับพวกเรา ตอนนั้นสมาชิกก็ไม่กี่คนและผมเองก็อายุแค่ 19 ปีแต่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นมิชชั่นนารี เราไม่มีปัจจัยต่างๆมากมายเช่นดนตรีหรืออื่นที่จะสามารถใช้เป็นการประกาศให้กับพวกคนหนุ่มสาวอย่างที่พวกคุณมีในทุกวันนี้ทำกัน แต่ที่เรามีคือพระสัญญาของพระคริสต์ “เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นโลก” (มัทธิว 28:20) และเราก็ทุ่มเทให้กับคริสตจักรเล็กๆแห่งนี้ ผมหมายความว่า เราถูกส่งออกไป เพื่อนำคนที่หลงหายนั้นมารับเชื่อ! ผมมีเพลงนมัการดั้งเดิมของแบ๊บติสต์ จากปี 1964 ในการศึกษาของผม นั่นคือบทเพลงนมัสการที่เรามี – แค่บทเพลงนมัสการเหล่านั้น แต่ ดร. หลิน ได้ทำการถ่ายเอกสารเฉพาะท่อนรับของเพลงเหล่านั้นและให้เรานำมาทำเป็นเล่มเดียวกัน มีอยู่คืนหนึ่งในขณะที่ผมกำลังดูท่อนรับของเพลงเหล่านั้น – ทำให้ผมถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา และนี่ก็คือท่อนรับของบางเพลงที่ ดร. หลิน ให้เราร้องแถบทุกครั้งที่มีการนมัสการ ขอบคุณพระองค์ ที่ช่วยเหลือวิญญาณของข้าฯ มีเด็กผู้ชายในคริสตจักรคนหนึ่งชื่อ อมลิม บางครั้งเราล้อเขาเล่นโดยการร้องบันทัดสุดท้ายของเพลงท่อนนี้ “พระองค์ทรงนำฉัน ไปทุกแห่งหน ฉันจะตามไป” สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นในงานเลี้ยงเกษียรอายุการทำงานของ ดร. เมอร์ฟี่ คือเห็นแพทย์คนหนึ่งที่เติบโตในคริสตจักรจากเมื่อก่อนที่เป็นเพียงเด็กตัวเล็กที่ถูกพามาที่คริสตจักรหลายปีที่ผ่านมา และเราก็จะร้องแล้วร้องอีกในท่อนรับที่อยู่ในหน้าแรกของบทเพลงนมัสการ เราจะทำให้เจ้าหาคนดั่งหาปลา นั่นคือทั้งหมดที่เรามี – แค่ท่อนรับของบทเพลงนมัสการและบทมาตราฐานของเพลงนมัสการเก่าๆเหล่านั้น หนึ่งในบทเพลงนมัสการที่เราร้องซึ่งแต่งโดย ดร. บี บี แมคคิมเนย์ พระองค์เจ้าข้าโปรดนำดวงวิญญาณมาที่ใจของข้าฯ ร้องท่อนรับพร้อมกับผม! มอบดวงวิญญาณแด่พระองค์ มอบดวงวิญญาณแด่พระองค์ ขอพวกผู้หญิงร้องท่อนรับเดี่ยวนี้ (พวกเธอร้อง) ตอนนี้ทุกคนร้องด้วยกัน (พวกเขาร้อง) อาเมน แล อาเมน! อย่างที่ผมกล่าวเอาไว้ว่าพวกเราไม่มีอะไรมากมาย นั่นอาจจะเป็นหนึ่งในสามที่เรามีอยู่ในคำคืนนี้ แต่เรานั้นถูกส่งออกไปเพื่อพระคริสต์! เราก็ทำตามความสามารถของเราเพื่อประกาศให้กับคนหนุ่มสาว! ผมรู้ว่าฟังดูแล้วอาจดูเหมือนไม่ลื่นหูสักเท่าไหร แต่ผมก็คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรดีไปกว่านี้ที่จะกล่าวถึงงานยากลำบากที่พวกเราได้ทำกัน ผมต้องขับรถกลับบ้านหลังจาก 15 ชั่วโมงที่เราได้ศึกษาพระคัมภีร์ภาคฤดูร้อน (ไม่ได้พูดเกินความจริง!) ผมต้องเปิดทุกหน้าต่างรถกันไม่ให้หลับในระหว่างขับรถกลับบ้าน! แต่คุณรู้มั้ย นั่นช่างเป็นวันที่ประเสริฐและมีความสุขที่สุด! เป็นวันที่มีความสุขที่ผมไม่เคยมีอย่างนี้มาก่อน เราทำการประกาศ! เราทำพันธกิจที่มีความหมายเป็นอย่างมาก เป็นพันธกิจที่ผลิตรางวัลสู่นิรันดร!...หลังจากนั้นการฟื้นฟูก็เกิดขึ้น! คนจำนวนมากมายหลั่งไหลเข้ามาคืนแล้วคืนเล่า! และก็กลายมาเป็นคริสตจักรจีนที่ใหญ่ที่สุดในช่วงระยะเวลาอันสั้นๆในรัฐแคริฟอร์เนีย! แต่กว่าจะเกิดเรื่องอัศจจรย์อย่างนี้ต้องใช้เวลาเป็นสิบปีในการอธิษฐานอย่างที่คริสตจักรอื่นไม่เคยทำกัน นั่นเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าหรือเปล่า? มีความเป็นไปได้ ใช่ เป็นไปได้! เพราะการอธิษฐานทำให้พระเจ้าส่งนักรบอย่าง ท่าน กิวดอง ลี ทำการฟื้นฟูและไฟของพระเจ้าลงมาที่คริสตจักรของเรา ไม่ว่าเราจะรับรู้ในสิ่งที่ท่านทำหรือไม่ ขอให้เราจำไว้ว่าทุ่งนา “เหลืองอร่ามพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว” (ยอห์น 4:35) ขอให้เราจงเชื่อฟังพระเยซูคริสต์ต่อไป และ จงนำคนๆหนึ่งมาที่พระองค์ เป้าหมายที่แท้จริงของเราไม่เพียงแค่นำคนเข้ามากล่าวตามบทที่เรียกว่า “อธิษฐานตามคำสารภาพบาป” แต่ไม่พาคนเหล่านั้นมาที่คริสตจักร ผมรู้ว่ามีคนน้อยมากที่มาคริสตจักรด้วยวิธีนี้ – น้อยมาก หรือไม่มีเลยก็ว่าได้! ผมคิดถึงการประชุมครั้งหนึ่งประมาณ 25 ปีที่ผ่านมา! ไม่มีประสิทธิผลใดๆเลย เราต้องรักคนที่หลงหายเหล่านั้นให้ได้ เราถึงจะนำพวกเขาเข้ามาที่คริสตจักร และอย่าคาดหวังว่าพวกเขาจะเข้ามาด้วยตัวเอง เราต้องประกาศให้กับคนที่มาเยี่ยมคริสตจักรของเราด้วย เราต้องดูแลคนที่พระเจ้าประทานให้เรา นั่นคืออยากให้คุณมา และนี่คือพันธกิจที่ให้กับคุณ ผมดีใจที่จะได้เห็นวีดีโอครบรอบวันเกิด 50 ปีของท่าน ลี ในเร็วๆนี้ เราจะเปิดในขณะที่เรารับประทานอาหารเย็นที่ห้องชั้นบน วีดีโอนี้เราจะเห็นท่านลีนำพวกอนุชนไปเดินเล่น และท่านมักจะทำอย่างนี้เป็นประจำในทุกๆวันเสาร์ ท่านลี วันหนึ่งคุณจะเห็นเด็กคนหนึ่งในนั้น เหมือนกับผมเห็น ดร. อมลิม ที่งานเลี้ยง เช่นเดียวกันคนที่พวกท่านดูแลในตอนนี้จะมาแทนที่ในวันที่ผมไม่อยู่แล้วและคุณก็ชราผมหงอก นั่นเป็นความตื่นเต้นที่ไม่อาจหาได้ในโลกนี้! ผมดีใจที่ได้เห็น ท่าน แจ็ค นเกนน์ นำคนหนุ่มสาว– วันศุกร์ที่ผ่านมานั้นมีประมาณ 25 คน และท่านก็พยายามทำให้คนเหล่านั้นสนุกสนานและมีความสุข แจ็ค ทำได้ดีมาก! ดียิ่งกว่าดีอีก! แม้ว่าภรรยาของท่านกำลังใกล้ที่จะคลอดบุตรแล้วก็ตาม พวกเขากำลังทำอะไร – นั่งรอบบ้านหรือเปล่า? ไม่ใช่อย่างนั้น! แจ็คและเชลล่าใช่ว่าจะมาประชุมที่คริสตจักรในทุกเย็นเฉยๆ – แต่พวกเขาทำมากไปกว่านั้น – ดูแลคนที่มาใหม่ และพยายามทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกว่าคริสตจักรเปรียบเหมือนบ้านของตัวเอง ศิษยาภิบาลเก่าของผมหรือ ดร. หลิน มักจะกล่าวว่า “คุณต้องทำให้พวกเขารู้สึกว่าคริสตจักรคือบ้านหลังที่สองของพวกเขา” และนี่ช่างเป็นการพูดที่ชาญฉลาดอย่างที่ไม่เคยได้ยินจากศิษยภิบาลชาวอเมริกันเลย “คุณต้องทำให้พวกเขารู้สึกว่าคริสตจักรคือบ้านหลังที่สองของพวกเขา” จงทำตามแบบอย่างของท่าน ลี และแจ็คและเชลล่า นเกนน์! จงทำเดี๋ยงนี้! จงไปหาหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ที่มาเยี่ยมพวกเรา แล้วก็โทรไปหาพวกเขา หรือเขียนข้อความส่งไปให้ หรือคุยกับพวกเขาในคริสตจักร นั่งกับพวกเขา ช่วยเหลือเขา เหมือนอย่างที่ครั้งหนึ่งคุณเคยรับความช่วยเหลือ! “เราจะเก็บเกี่ยวในวันนี้” จงร้องเพลงของ ดร. ไรซ์ อีกครั้งหนึ่ง เพียงแค่ท่อนรับเท่านั้น เราจะเก็บเกี่ยวในวันนี้ หรือจะพลาดโอกาสทองนี้ไป! ผมเคยเล่าเรื่องนี้มาแล้ว แต่เป็นกันดีที่จะเล่าอีกครั้งหนึ่ง ย้อมไปในยุคศตวรรคที่สิบเก้าที่เมืองชิคาโก มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งต้องเดินเท้าเป็นระยะหลายไมล์ตามถนน ลาเซลล์ ไปที่คริสตจักรมูดี้ของทุกวันอาทิตย์ มีผู้ปกครองคนหนึ่งที่คริสตจักรใหญ่ได้สังเกตเห็นเด็กชายคนนี้เดินผ่านและในมือถือพระคัมภีร์ในทุกวันอาทิตย์ เช้าวันหนึ่งผู้ปกครองคนนี้ได้ถามเด็กผู้ชายคนนั้นว่ากำลังจะไปที่ไหน เด็กคนนั้นบอกว่าเขากำลังไปที่คริสตจักรมูดี้ ผู้ปกครองคนนั้นจึงบอกว่า “แต่เป็นระยะทางที่ไกลมากนะ ทำไมคุณไม่มาที่คริสตจักรของเราซึ่งอยู่นี่เอง?” เด็กนั้นตอบว่า “ไม่ ขอบคุณมากครับ ผมจะไปคริสตจักรมูดี้ พวกเขารักคนที่ไปที่นั่น” นี่คือความรู้สึกของคนที่หลงหายต้องการในคริสตจักรของเรา พวกเขาคิดว่า “พวกเขารักคนที่ไปที่นั่น” ขอให้เราจงทำงานให้หนักกว่านี้ทำให้หนุ่มสาวทั้งหลายรู้สึกถึงความรักในยามที่มาคริสตจักรของเรา! ร้องท่อนรับอีกครั้งหนึ่ง! เราจะเก็บเกี่ยวในวันนี้ หรือจะพลาดโอกาสทองนี้ไป! อาเมน ยังมีสิ่งหนึ่งสำหรับคนที่ยังหลงหายอยู่ ใช่ มันตื่นเต้นมากกับการที่อยู่ในคริสตจักรอย่างนี้ แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นคือการรู้จักกับพระคริสต์เป็นการส่วนตัว พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์แทนที่ของคุณบนไม้กางเขน เพื่อไถ่ค่าบาปของคุณ และพระโลหิตอันประเสริฐของพระองค์ทรงชำระคุณออกจากบาป ตอนนี้พระองค์ทรงพระชนม์อยู่บนสวรรค์และอธิษฐานเผื่อคุณ ผมขอร้องคุณหันหลังให้กับบาปและเข้ามาที่พระคริสต์ วางใจในพระองค์และรับเอาความรอด ชำระบาปของคุณด้วยพระโลหิตของพระองค์ และรับชีวิตนิรันดร์! ถ้าคุณอยากจะคุยกับเราถึงการกลายมาเป็นคริสเตียน ผมอยากจะให้คุณลุกจากที่นั่งแล้วเดินออกไปข้างหลังของห้องนี้ ดร. คาเกน จะพาพวกคุณไปอีกห้องหนึ่งเพื่อตอบคำถามและอธิษฐานเผื่อ จงเดินออกไปในขณะที่เราร้องเพลงนมัสการบทที่ 7 บาดแผลและการทรมานคือการแสดงความรักของพระเยซู ดร. ชาน กรุณานำเราอธิษฐานเผื่อคนที่ตอบสนองเหล่านี้ด้วย (จบการเทศนา) คุณสามารถส่งอีเมล์ถึง ดร. ไฮเมอร์ส ที่ rlhymersjr@sbcglobal.net อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดย ท่าน อาเบล พรูดโฮมม์: ลูกา 10:1-3. |