เป้าหมายของเว็ปไซต์นี้คือจัดเตรียมบทเทศนาที่เขียนจากต้นฉบับ และในรูปแบบวีดีโอให้กับผู้รับใช้ และมิชชั่นนารีที่ไปรับใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่ขาดแคลนพระคริสตธรรมหรือโรงเรียนอบรมพระคัมภีร์
ต้นฉบับของบทเทศนาเหล่านี้ถูกอ่านในคอมพิวเตอร์ประมาณ 1,500,000 เครื่อง และมากกว่า 221 ประเทศในแต่ละปี โปรดไปอ่านได้ที www.sermonsfortheworld.com ในขณะเดียวกันมีหลายร้อยคนดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นคนเหล่านั้นก็จะย้ายจากดู YouTube มาอ่านเว็บไซต์ของเรา YouTube นำคนมาที่เว็บไซต์ของเรา บทเทศนาต้นฉบับนี้ถูกแปลออกเป็น 46 ภาษา และมีคนอ่านในคอมพิวเตอร์มากถึง 120,000 ทุก ๆ เดือน บทเทศนาต้นฉบับนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นักเทศนาสามารถนำไปใช้เทศน์ได้ นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบวีดีโอเป็นร้อย ๆ ซึ่งเทศน์โดย ดร. ไฮเมอร์ส และนักศึกษาของท่าน บทเทศนาต้นฉบับไม่สงวน แต่จะสงวนเฉพาะในรูปแบบวีดีโอ กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้ว่าจะสนับสนุนการประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลกได้อย่างไร
ตอนที่คุณเขียนหนังสือไปให้ ดร. ไฮเมอร์ส บอกท่านเสมอว่าคุณเขียนมาจากประเทศอะไร หรือท่านไม่ได้ตอบคุณ อีเมล์ของ ดร. ไฮเมอร์ส คือ rlhymersjr@sbcglobal.net
หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอด THE DOCTRINE OF THE REMNANT โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ เทศนาในตอนเย็นของวันที่ 27 เดือน มกราคม ค.ศ. 2013 ณ คริสตจักร “ถ้าพระเยโฮวาห์จอมโยธามิได้เหลือคนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้ว เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์” (อิสยาห์ 1:9) |
ผมยืนหัวข้อเทศนานี้มาจาก ดร. ดับบริว เอ คริสเวลล์ (1909-2002) ท่านเป็นศิษยาภิบาลรับใช้อยู่ที่คริสตจักรแบ๊บติสต์ที่เมืองดัลลาส รัฐเท็กซัสมานานมาก ผมกล่าวถึงท่านเพราะผมรู้ว่าบางคนอาจพูดว่า “อย่าใช้คำว่า ‘หลักคำสอน’ ไม่มีใครใช้คำว่า หลักคำสอน” เพราะหลักคำสอนทางศาสนศาสตร์ไม่สำคัญให้กับคนที่ชอบเทศนาเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นที่ต้องการของมนุษย์ มากว่าเป็นหลักคำสอน เราแถบจะไม่ค่อยได้ยินการเทศนาที่เกี่ยวข้องกับความรอด หรือหลักคำสอนที่เกี่ยวกับชีวิต หรือหลักคำสอนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องห้าม หรือหลักคำสอนที่เกี่ยวกับวิญญาณชั่ว หรือหลักคำสอนที่เกี่ยวข้องกับคริสตจักร หรือหลักคำสอนเกี่ยวกับศาสนศาสตร์อื่นๆ การเทศนาส่วนมากในปัจจุบันนี้จะใช้มนุษย์เป็นศูนย์กลางมากกว่าที่จะให้พระเจ้าและหลักทางศาสนศาสตร์เป็นศูนย์กลาง ดังนั้นการที่ผมใช้หัวข้อของ ดร. คริสเวลล์ เรื่อง “หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอด” นักเทศน์ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นไม่เคยกลัวที่จะใช้คำว่า หลักคำสอน! แต่นักเทศน์ในปัจจุบันนี้เริ่มต้นด้วยสิ่งที่เป็นความต้องการของมนุษย์ – แทนที่จะพูดถึงหลักสอนหรือหลักศาสนศาสตร์แห่งความจริงที่อยู่ในพระคัมภีร์ นี่คือบางหัวข้อที่คนในสัมยนี้นิยมใช้กัน จงรับผิดชอบต่อชีวิตของคุณ" "ตั้งมั่งอยู่ในความรู้" "สร้างชีวิตร่วมกัน" "สำหรับพระเจ้าคุณคือคนที่ดีเลิศ" "ความไม่มั่นคง" "ใช้ชีวิตอย่างสมดุล" "ชีวิตที่ เริ่มสูญเสีย" "กลายเป็นคนดีที่สุดของคุณ" " ชีวิตที่ดีที่สุดของคุณตอนนี้" "ค้นพบตัวตนของคุณ" "จัดการอารมณ์ของคุณ" และนี่คือหนึ่งที่กล่าวว่า “จงหัวเราะไปกับชีวิตคู่ของคุณ" ผมไมได้พูดว่าหัวข้อเหล่านั้นไม่ได้ให้อะไรเลย อาจมีบ้าง แต่สิ่งที่ผมพูดหมายความว่าหัวข้อเหล่านี้ต่างพูดถึงสิ่งที่สนองความต้องการของมนุษย์ มากกว่าหลักคำสอนในพระคัมภีร์ และ ศาสนศาสตร์ นี่แหละคือสิ่งที่เรามักได้ยิน ผมรู้ว่าการเทศนาเช่นนี้มันน่าเบื่อ สิ่งที่พวกเขาเทศน์ไมได้ต่างอะไรกับนักพูดทางทีวีอย่าง โอปราห์ วินเฟรส หรือนักอ่านอย่าง ดีจีส! ผมได้อ่านหนังสือของ ดร. เดวิด เอฟ เวลล์ อยู่หลายเล่ม ท่านเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่พระคริสตธรรม Gordon-Conwell Theological Seminary แน่นอนท่านอาจเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ท่านมีหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น ท่านพูดถึงเรื่อง “…ความว่างเปล่าและเรื่องราวที่สอนเด็กๆในทุกวันอาทิตย์อยู่บนธรรมาส์ตามคริสตจักรต่างๆ…นั่นคือเราว่างเปล่าจากศาสนศาสตร์ คำเทศนาของเราแถบไม่มีพระเยซูอยู่ในนั้นเลย” (David F. Wells, Ph.D., No Place for Truth: Or Whatever Happened to Evangelical Theology?, Eerdmans, 1993, p. 292). มีอยู่หนึ่งเรื่องที่ผมเห็นด้วยกับท่าน! ดร. เอ คริสเวลล์ท่านเป็นนักเทศน์แห่งหลักคำสอน คำเทศนาของท่านส่วนมากจะเน้นหนักเรื่องศาสนศาสตร์และการอธิบายเป็นพื้นฐาน ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจเลยที่ ดร. คริสเวลล์ เทศนาในหัวข้อ “หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอด” แต่นั่นไม่ใช่คำสอนที่โง่ๆ และว่างเปล่า เพราะทุกคนที่เคยได้ยินท่านเทศน์จะรู้ดีว่าท่านเป็นนักเทศน์ที่ดีจริงๆ ดร. คริสเวลล์ ต้องเห็นด้วยกับ ดร. มาร์ติน ลอยด์-โจมส์ กับคำพูดของท่านที่ว่า การเทศนาคืออะไร? คือตรรกะแห่งไฟ!...ศาสนศาสตร์แห่งไฟ…การเทศนาคือศาสนศาสตร์ที่พูดผ่านบุคคลที่ร้อนรนด้วยไฟ…บุคคลที่ไม่สามารถพูดในสิ่งเหล่านี้ไม่คู่ควรที่จะไปยืนอยู่บนธรรมาส์ หรือแม้แต่ปล่อยให้เข้าไปใกล้ (D. Martyn Lloyd-Jones, M.D., Preaching and Preachers, Zondervan Publishing House, 1972, หน้า 97). และผมจะใช้หัวข้อของ ดร. คริสเวลล์ “หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยสำหรัยความรอด” และอธิษฐานเพื่อพระเจ้าจะได้ประทาน “ไฟ” พอที่จะทำให้คุณสนใจและทำให้บางคนกลับใจใหม่ในค่ำคืนนี้! “หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอด” ตามข้อพระคัมภีร์ของเรากล่าวว่า “ถ้าพระเยโฮวาห์จอมโยธามิได้เหลือ คนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้ว เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์” (อิสยาห์ 1:9) “ยกเว้นพระเยโฮวาห์จอมโยธาเหลือ คนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้ว…” ตามภาษาฮีบรูคำว่า “เหลือ” คือ “sawreed” หมายถึง “เหลือคนสำหรับความรอด” ดังนั้นพวกธรรมจารย์ในสมัยก่อนจึงได้แปลความหมายจากภาษาฮีบรูไปเป็นภาษากรีก ตามที่ปรากฏในพระคัมภีร์ฉบับบ เซปตัวจินท์ คำที่พวกเขาใช้ในภาษากรีกคือ “sperma” หมายถึง “เชื้อสาย” หรือ “เมล็ด” “ยกเว้นพระเจ้าเหลือพวกเราบางคนให้รอด เมล็ดเล็กๆ นั่นคือกลุ่มคนเล็กที่สัตย์ซื่อและติดตามพระเจ้า แท้จริงเราควรถูกทำลายเพราะพระพิโรธของพระเจ้าเหมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์!” “หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอด” คืออะไร? นั่นคือ – พระเจ้าทรงรักษาคนกลุ่มหนึ่งที่สัตย์ซื่อให้รอดพ้นจากการพิพากษาเพื่อไปอยู่ที่แผ่นดินสวรรค์! นั่น คือ หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอด คือเนื้อหาในคำเทศนาของเรา “ถ้าพระเยโฮวาห์จอมโยธามิได้เหลือ คนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้ว เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์” (อิสยาห์ 1:9) อิสยาห์กล่าวถึงการพิพากษาของพระเจ้า ในขณะเดียวกันท่านก็กล่าวถึงความหวัง ตามพระธรรมอิสยาห์ ท่านบอกว่าโลกนี้จะถูกพิพากษาและทำลาย และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศ พระเจ้าก็จะรักษาคนที่สัตย์ซื่อเหลือไว้ คือเมล็ดเล็กๆที่รอดอยู่ และคนที่เหลื่อเหล่านั้นจะเป็นหลักสำคัญในแผ่นดินของพระเจ้าแห่งโลกนี้ นั่น คือ หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอด! “ถ้าพระเยโฮวาห์จอมโยธามิได้เหลือ คนไว้ให้เรา บ้างเล็กน้อยแล้ว เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์” (อิสยาห์ 1:9) I. หนึ่ง หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอดตามพระธรรมอิสยาห์ ให้เราอ่านอิสยาห์บทที่สิบเอ็ด “อยู่มาในวันนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์ออกไปเป็นครั้งที่สอง เพื่อจะได้ส่วนชนชาติของพระองค์ที่เหลืออยู่คืนมา” (อิสยาห์ 11:11) อีกข้อหนึ่งในบทเดียวกัน “และจะมีถนนหลวงจากอัสซีเรียสำหรับคนที่เหลืออยู่จากชนชาติของพระองค์” (อิสยาห์ 11:16) และในบทที่สามสิบเจ็ด กล่าวว่า “เพราะฉะนั้นขอท่านถวายคำอธิษฐานเพื่อส่วนชนที่เหลืออยู่นี้’” เรายังพบคำว่า เหลือไว้ ปรากฏอีกสองครั้งในบทเดียวกัน “เพราะว่าส่วนคนที่เหลือจะออก…ไปจากเยรูซาเล็ม และส่วนที่รอดมา” (อิสยาห์ 37: 31 และ 32) และสุดท้ายเรายังเห็นในอิสยาห์บทที่สี่สิบหก “โอ วงศ์วานของยาโคบเอ๋ย จงฟังเรา คือบรรดาคนที่เหลืออยู่ในวงศ์วานของอิสราเอล…” (อิสยาห์ 46:3) คำว่าเหลือไว้ในพระคัมภีร์ใหม่นั่นปรากฏอยู่ในพระรรมโรม ตามที่อาจารย์เปาโล ได้กล่าวเอาไว้ “และท่านอิสยาห์ได้ร้องประกาศเรื่องพวกอิสราเอลด้วยว่า ‘แม้พวกลูกอิสราเอลจะมากเหมือนเม็ดทรายที่ทะเล แต่คนที่เหลืออยู่จะรอด” (โรม 9:27) “และตามที่ท่านอิสยาห์ได้กล่าวไว้ก่อนว่า ‘ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งจอมโยธามิได้ทรงเหลือเชื้อสายไว้ให้เราบ้าง เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์” (โรม 9:29) อิสยาห์เริ่มต้นด้วยการพูดถึงบาปของคนชั่ว “ใจของเราเกลียดวันขึ้นหนึ่งค่ำของเจ้าและวันเทศกาลตามกำหนดของเจ้า มันกลายเป็นภาระแก่เรา เราแบกเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว” (อิสยาห์ 1:14) จากนั้นท่านก็พูดถึงการพิพากษาของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ที่จะลงมายังสิ่งชั่วร้าย “ประเทศของเจ้าก็รกร้างและหัวเมืองของเจ้าก็ถูกไฟเผา ส่วนแผ่นดินของเจ้าคนต่างด้าวก็ทำลายเสียต่อหน้าเจ้า มันก็รกร้างไป เหมือนอย่างถูกพลิกคว่ำเสียโดยคนต่างด้าวนั้น” (อิสยาห์ 1:7) สุดท้ายท่านบอกว่าถ้าพระเจ้าไม่ทรงรักษาคนให้เหลือเอาไว้ทุกคนก็จะถูกทำลายพินาศไปหมด “ถ้าพระเยโฮวาห์จอมโยธามิได้เหลือคนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้ว เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์” (อิสยาห์ 1:9) นี่คือหลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอดที่กล่าวไว้ในพระธรรมอิสยาห์ II. สอง หลักคำสอนเรื่องเหลือคนเล็กน้อยสำหรับความรอดถูกกล่าวไว้ในพระธรรมเล่มอื่น “ถ้าพระเยโฮวาห์จอมโยธามิได้เหลือคนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้ว เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์” (อิสยาห์ 1:9) เราเห็นหลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอดก่อนที่น้ำจะท่วมโลก “พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เราจะทำลายมนุษย์ที่เราได้สร้างมาจากพื้นแผ่นดินโลก ทั้งมนุษย์และสัตว์และสัตว์เลื้อยคลานและนกในอากาศ เพราะว่าเราเสียใจที่เราได้สร้างพวกเขามา” (ปฐมกาล 6:7) นี่คือการพิพากษาโดยให้น้ำท่วมโลก “แต่โนอาห์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์” นี่คืออีกหนึ่งหลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้สำหรับความรอด นั่นคือโนอาห์และครอบครัวของท่าน “บุคคลที่เหลือสำหรับความรอด” พระเจ้าทรงช่วยให้รอดจากน้ำท่วมโลก เราเห็นคำสอนเรื่องเหลือคนไว้สำหรับความรอดอีกหลายอย่าง ดังเช่น อับราฮัม ผู้ซึ่งออกจากเมืองเออ แห่งชาลด์ดิส กลายมาเป็นบุคคลของพระเจ้าที่เหลือในโลกนี้ คนๆหนึ่งรอดแล้ว! เราจะพบในพระธรรมอพยพ ตอนที่พระเจ้าช่วยคนของพระองค์ที่เหลือให้รอดพ้นจากการข่มเหงในประเทศอียิปต์โดยผ่านมือของโมเสส เราจะเห็นกิเดโอนและทหารสามร้อยนาย ที่ต่อสู้กองทัพของชาวมีเดีย เราเห็นดาวิดและกองกำลังเล็กน้อยที่ต่อสู้กับกองทัพของกษัตรย์ซาโลมอน เราเห็นซามูเอลและผู้เผยพระวัจนะของเขายืนหยัดต่อสู่กษัตริย์ทั้งหลายที่กราบไหว้รูปเคารพและกองทัพเหล่านั้น เราเห็นพระเยซูคริสต์และสาวกไม่กี่คนของพระองค์นำพระกิตติคุณไปประกาศให้กับจักรวรรดิ์โรมัน และสุดท้าย เราเห็นถึงหลักคำสอนเรื่องเหลือคนเล็กน้อยเพื่อให้ความรอดในกลียุค ตอนที่พระคัมภีร์กล่าวว่าเพราะความโกรธของซาตานทำให้มันต่อสู้พวกอิสราเอล และ “พญานาคโกรธแค้นหญิงนั้น มันจึงออกไปทำสงครามกับเชื้อสายของนางที่เหลืออยู่นั้น คือผู้ที่รักษาพระบัญญัติของพระ” (วิวรณ์ 12:17) นี่คือหลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้สำหรับความรอด – คนเล็กน้อยของพระเจ้าที่เหลือจากโลกแห่งความมืดนี้ “ถ้าพระเยโฮวาห์จอมโยธามิได้เหลือคนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้ว เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์” (อิสยาห์ 1:9) III. สาม หลักคำสอนเรื่องเหลือคนเล็กน้อยสำหรับความรอดคือความจริงในทุกวันนี้ ในช่วงเวลาที่น้ำท่วมโลกนั้น มีคนประมาณเท่าไหร่? แต่เหลือแค่แปกคน คือโนอาห์และครอบครัว นี่คือคนเล็กน้อยที่รอด! ตอนที่พระเจ้าเรียกอับราฮัมนั้นมีแค่คนเดียว นั่นคือคนที่เหลือไว้สำหรับรอด! ในยุคที่ชาวอิสราเอลละทิ้งพระเจ้านั้นเหลือเพียงแค่ 7,000 คน และพระเจ้าตรัสกับเอลียาห์ว่า “เราได้เหลือคนไว้สำหรับเราเจ็ดพันคน ซึ่งเป็นผู้ที่มิได้คุกเข่าลงต่อรูปพระบาอัล” (โรม 11:4) นี่คือคนเล็กน้อยที่เหลือ! และพระเยซูคริสต์ยังตรัสให้กับเราว่าน้อยคนนักที่จะรอด พระองค์ตรัสว่า “จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่และทางกว้างนั้นนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย” (มัทธิว 13 และ 14) “ผู้ที่หาพบก็มีน้อย” นั่นคือคนเล็กน้อยที่เหลือที่จะรอด! มีคนจำนวนมากมายในนครลอสแอนเจลิส พระเจ้าทรงเลือกทรงรักษาและนำคุณมาในค่ำคืนนี้ คุณอยากจะเป็นคนส่วนเล็กน้อยของพระเจ้าที่รอดนั้นหรือเปล่า? คุณอยากจะเป็นส่วนเล็กน้อยที่ได้พบพระเยซูและรอดหรือเปล่า? พระเยซูตรัสว่า “และพวกเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์ แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์” (มัทธิว 25:46) คุณจะมาที่คริสตจักรของเรา เพื่อรับความรอด และมาเป็นส่วนหนึ่งในคนเล็กน้อยของพระเจ้าที่เหลือหรือเปล่า? มีบางคนบอกสเปอร์เจียนว่า “คุณเชื่อหรือเปล่าว่ามีบางคนจะไม่เชื่อ ไม่รับเอาพระเยซู และก็รอดได้ ไม่ว่าพวกนั้นจะทำอะไรก็ตาม ไม่ว่จะเทศนาสักกี่ครั้ง ไม่ว่าจะทำงานมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นหลักคำสอนจึงไม่ได้ให้ความหวังใดๆ!” สเปอร์เจียนตอบคนนั้นว่า “มิได้เป็นเช่นนั้น ผมรู้ว่าบางคนอยากจะฟัง บางอยากจะเปิดใจ บางคนอยากจะกลับใจใหม่และรับความรอด” เขาเหล่านั้นคือคนส่วนน้อยที่เหลือที่รอด! นี่คือสิ่งที่พระเจ้าทรงหนุนใจให้กับคนของพระองค์ด้วยหลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอด เราจะเผชิญหน้ากับคนที่ไม่เชื่อ และถูกปฏิเสธโดยโลกนี้ แต่บางคนก็จะรอด บางคนจะหันหลังให้กับชีวิตที่เห็นแก่ตัวโจมอยู่ในบาปมาที่พระคริสต์ บางคนจะรับการทรงชำระโดยพระโลหิตของพระองค์ บางคนจะรอด คุณอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่เหลือที่รอดจากโลกนี้หรือเปล่า? นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และประเสริฐ เมื่อคนๆหนึ่งหลีกหนีออกจากบาปแห่งโลกนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในฝูงแกะน้อยของพระคริสต์ – ส่วนที่เหลือของพระเจ้า! ช่างประเสริฐ เพราะว่านี่คือทางเดียวที่จะเข้าแผ่นดินของพระองค์ พระเยซูตรัสว่า “ฝูงแกะเล็กน้อยเอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระบิดาของท่านชอบพระทัยที่จะประทานอาณาจักรนั้นให้แก่ท่าน” (ลูกา 12:32) ผมขอร้องพวกคุณในค่ำคืนนี้ให้จงมาที่พระคริสต์โดยความเชื่อ มาเป็นส่วนหนึ่งในคนเล็กน้อยที่รอด ส่วนหนึ่งในฝูงแกะน้อยของพระองค์! จงวางใจในพระองค์ในค่ำคืนนี้ รับการชำระบาปโดยพระโลหิตของพระองค์ และรับการช่วยกู้โดยพระองค์ในค่ำคืนนี้! ท่านกรีฟฟิท์จะออกมาข้างหน้านี้เพื่อร้องเพลงของ พอล แรเดอร์ อีกครั้งหนึ่ง ชื่อเพลงว่า “เชื่อเท่านั้น” มีสิ่งหนึ่งในค่ำคืนนี้ที่ผมอยากจะขอร้องพวกคุณ จงเชื่อเท่านั้น – เชื่อในพระเยซูเท่านั้น! ในขณะที่ท่านกรีฟฟิท์ กำลังร้องเพลงนี้ ผมอยากให้พวกคุณลุกจากที่นั่งเดินออกไปข้างหลังของห้องนี้ ถ้าคุณรู้ตัวว่ายังไม่รอด ถ้าคุณยังไม่ใช่คริสเตียนที่แท้จริง กรุณาออกจากที่นั่งของท่านและเดินไปข้างหลังในขณะที่เขายังร้องเพลง ดร. คาเกน จะนำพวกคุณไปยังห้องที่เงียบๆเพื่อแบ่งปันพระวัจนะและอธิษฐานเผื่อ จงออกไปในขณะที่ท่านกรีฟฟิท์กำลังร้องเพลง ฝูงแกะเล็กน้อยอย่ากลัว จากไม้กางเขนไปที่บัลลังก์ ดร. ชาน กรุณานำเราอธิษฐาน (จบการเทศนา) You may email Dr. Hymers at rlhymersjr@sbcglobal.net, (Click Here) – or you may อ่านพระคัมภีร์ก่อนเทศนาโดยท่าน ลีคยูดง: อิสยาห์ 1:4-9. |
โครงร่างของ หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอด โดย ดร. อาร์ เอล์ ไฮเมอร์ส จูเนียร์ “ถ้าพระเยโฮวาห์จอมโยธามิได้เหลือคนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้ว เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และจะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์” (อิสยาห์ 1:9) I. หนึ่ง หลักคำสอนเรื่องเหลือคนไว้เล็กน้อยสำหรับความรอดตามพระธรรมอิสยาห์ II. สอง หลักคำสอนเรื่องเหลือคนเล็กน้อยสำหรับความรอดถูกกล่าวไว้ทั่วในพระคัมภีร์ III. สาม หลักคำสอนเรื่องเหลือคนเล็กน้อยสำหรับความรอดคือความจริงในทุกวันนี้ |